12 กุมภาพันธ์ 2548 12:46 น.
แก้วประเสริฐ
พุทธธรรมนำสุข
ธรรมะ เพื่อความรุ่งเรือง
J ตักบาตรพระล้านครั้ง ไม่เท่ายื่นอาหารให้พ่อแม่เพียงครั้งเดียว
J ความดีของลูก คือความสุขของพ่อแม่ ความเลวของลูก คือความทุกข์ของพ่อแม่
J หลงผัว หลงเมีย จนลืมพ่อแม่ นับว่าแย่มาก
J อยากรวย ให้ทำงาน อยากสวยให้รักษาศีล อยากดี ให้หมั่นเจริญภาวนา
J คนฉลาด กำลังทำงาน ส่วนคนโง่ กำลังดูฤกษ์ยาม
J หนึ่งวินาที คบบัณฑิต ดีกว่าหนึ่งปี คบคนพาล
J อย่าประมาทเมื่อพบงานง่าย อย่าท้อใจเมื่อพบงานยาก
J ถ่อมตนคนรัก อวดนักคนชัง(อวดดี...ไม่ใช่การอวดที่ดี)
J เสริมเสน่ห์ตนเองด้วยรอยยิ้ม ดีกว่าคอยพึ่งพิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
J ไม่ควรไว้ใจในคนที่ชอบทำบาป (ถ้าทำบาปแลกบุญ จะขาดทุนร่ำไป)
J คนจนยิ่งจน เพราะทำรวย คนรวยยิ่งรวย เพราะทำจน
J เรายอมแพ้คน เพื่อเอาชนะกิเลส ดีกว่ายอมแพ้กิเลส เพื่อเอาชนะคน
J ยามไปซื้อของ อย่าอวดเงินทองให้ใครเห็น
J คำสรรเสริญควรให้ไป คำติชม ควรเก็บไว้เพื่อส่องตน
J ระวัง อย่าให้สูญเสียคนดี เพราะคนชั่วแทนที่ไม่ได้
J คนโง่ แสวงหาพระเครื่อง ผู้ฉลาด แสวงหาพระธรรม
J ทำแบบเจ็ก จากเล็กไปใหญ่ ทำแบบไทย จากใหญ่ไปหาเล็ก
J มารยาทงามนี่แหละ จะพลอยทำให้วาสนาดี
J เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ดีกว่าพี่น้องในไส้ที่อยู่ไกล
J ประดับกายด้วยความดี มีราศีกว่าประดับเพชร
J กินเหล้าเพื่อเข้าสังคม คือค่านิยมที่ผิด
J ความร่ำรวยหากขอกันได้ โลกนี้ก็คงจะไม่มีคนจน
J ทรัพย์เกิดไม่ได้ ด้วยเพียงแต่ใจคิดฝัน
J ตัวอย่างที่ดี มีค่ามากกว่าคำสอน การปฏิบัติดี มีค่ามากกว่าการขอพร
J คนขยันคือคนโชคดี ความขยันจึงเป็นพรอันประเสริฐ
J ถึงแม้การเลือกเกิดเราจะไม่มีสิทธิ์ แต่การเลือกทางชีวิตเป็นสิทธิ์ของเรา
J แสวงหาลาภจากการงาน ดีกว่าบนบานบวงสรวง
J อย่าเชื่อคนโดยไร้คิด อย่าหลงมิตรเพียงคำยอ
J ที่ทำดีไม่ได้ดี เพราะทำดียังไม่มากพอ (ทำดีวันละนิด ดีกว่าคิดว่าจะทำ)
J เมื่อมีคำขอโทษ ความโกรธย่อมจางเร็ว
J วาจาอ่อนหวานลูกหลานใกล้ชิด วาจาเป็นพิษญาติมิตรห่างไกล
J กินเพื่ออิ่ม ก็จะมีปัญหาน้อย แต่ถ้ากินเพื่ออร่อย ก็จะมีปัญหามาก
(เป็นข้อเขียนที่ผมได้รับมาจากเพื่อน คุณแหม่ม มักจะหาสิ่งดีมาให้เสมอ ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างมากควรเผยแพร่ไว้อีกทางหนึ่ง จึงนำมาลงไว้ที่นี้เพื่อมอบแก่ชาวไทยกลอนทุกๆท่าน หากสิ่งดีที่จะได้รับจงมีแด่คุณ แหม่ม นะครับ ขอขอบคุณ คุณแหม่มไว้ด้วย ณ ที่นี้ครับ......แก้วประเสริฐ.)
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
11 กุมภาพันธ์ 2548 13:22 น.
แก้วประเสริฐ
ท่องแดนแห่งนิรยะ (ต่อ)
ไร้สุริยันจันทรามาเกลือกกลั้ว
แสงสลัวมัวหมอกมิจางสลาย
ดูเวิ้งว้างรายรอบเป็นขอบกระจาย
รอบเรียงรายถึงเวลามาเดินทาง
ขุมที่ห้านามว่ามหาโรรุวะ
หมู่สัตว์จะร้องหวนชวนครวญคราง
เปี่ยมสำเนียงเสียงเจ็บปวดสรรพางค์
เป็นแนวกว้างพาหิรชนคนบาปหนา
ขุมที่หกแดนตาปนะนรก
แปลว่าโลกร้อนเป็นไฟไร้กังขา
ทั้งแผ่นดินถิ่นภูเขาไฟโชนมา
ถูกตรึงตราหลาวเหล็กนั่งเสียบจม
นัยหนึ่งพึงสู่อยู่ห้องเหล็กร้อน
แดงสะท้อนโชติช่วงไฟไล้สะสม
นำสัตว์เป็นเสียบย่างสร้างรอยปม
ด้วยอารมณ์สมใจในทรมาน
ขุมที่เจ็ดเรียกว่าปตาปนะ
ใช้ชำระสัตว์ไว้ด้วยไฟประสาน
ด้วยหอกสามง่ามไฟให้วายปราณ
เหตุระรานผลาญศาสนาว่าไม่จริง
ขุมที่แปดไม่เว้นว่างอเวจีมหานรก
เปลวไฟปกคลุมทั่วไปในทุกสิ่ง
ให้ร้อนแรงแฝงทรมานจนสุดอิง
ไม่อยู่นิ่งสิ่งทุรนทุรายใช้กรรมเวร
เหตุจากด่าทุบตีมีพ่อแม่
พุทธเจ้าแม้แต่รอยจนมองเห็น
ผู้มีคุณหนุนเนื่องจนลำเค็ญ
ส่งผลเป็นจนให้ได้มหาอเวจี
ทั้งแปดขุมลุ่มลึกผนึกเอาไว้
เพื่อจะได้เตือนสติมิเป็นศรี
ตามคำภีร์สังกิจจชาดกว่าไว้มี
เรื่องเช่นนี้กฏกรรมนำไปตรอง
สิ้นขุมใหญ่อีกขุมเล็กชุมนุมหลาย
รอบเรียงรายร้อยยี่สิบแปดแผดสยอง
ใครอยากอยู่เลือกได้ตามใจปอง
โดยไม่ต้องเสียเงินทองหม่นหมองเลย.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
10 กุมภาพันธ์ 2548 12:30 น.
แก้วประเสริฐ
ทิวาราตรีฤาเปรมปรีดิ์.
งามพิลาสประหลาดล้ำยามยอแสง
ฤทธิ์ร้อนแรงแบ่งสาดสุดพาดหนอ
เป็นห้วงยวงล่วงงามเมื่อยามคลอ
ยิ่งพะนอยากกระจ่างระหว่างหทัย
พฤกษาชาติอ่อนไหวไศลสล้าง
แสนเวิ้งว้างกลางคีรีมิมีสลาย
หนาแน่นนุ่มนวลยวนชวนกล้ำกราย
สร้างดวงใจให้พล่านละลานตา
โกสุมทองมองผ่านตระการยิ่ง
งามทุกสิ่งยวนเย้ากลิ่นนาสา
ผุดพาดผ่องยองใยเคียงใกล้มา
เยือกอุราพาเฉิดฉันท์ซาบซ่านใจ
กลิ่นหอมหวนล้วนมายิ่งพาเพริศ
ตะวันเฉิดฉายอำพันอันสดใส
เหมือนวิมานพลันพบสบไฉไล
จะหาใดปานเทียบเปรียบอรพินท์
ครั้นราตรีอาบแสงยิ่งแยงจิต
ให้ชวนพิศสนิทแนบหมดทั้งสิ้น
ก่อวังวนอลหม่านพล่านดวงจินต์
ปั่นป่วนถวิลจินตนาสุดเร้าอารมณ์
สมสล้างกระจ่างใจมีใครเท่า
ดาราเข้าช่วยประกายคล้ายแสงโสม
รสกำซาบผ่านภพประสบชม
อกใจบ่มเฝ้าโลมโน้มโหมพลัง
กระแสพล่าพลุ่งพล่านซ่านใจคิด
ตะวันพิศจันทร์ดาราครามนต์ขลัง
ช่างโน้มเหนี่ยวเลี้ยวคดยากหมดจัง
อุรารั้งดังกลั่นแกล้งแสร้งชาญฉลาด
โอ้งามจริงสิ่งนี้หนอเจ้าอกเอ๋ย
จะละเลยห่างไกลใยแสนขลาด
ทิวาเร้าเคล้าราตรีนี้ยากพลาด
แสนประหลาดมาดฤดีสุดปรีดิ์เปรม.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
9 กุมภาพันธ์ 2548 09:11 น.
แก้วประเสริฐ
โมเมชั่นรักฮ่า
อ้างว้างช่างเดียวดาย
เปรียบมลายในความฝัน
รักแล้วใยแคล้วกัน
ดุจสวรรค์กลั่นแกล้งคน
หวิวหวิวพลิ้วละลิ่วรัก
อกแทบหักจักสับสน
เดียวดายไร้ผู้คน
จะจรดลมอบรักเรา
เศร้าเจ้าเฝ้าคิดถึง
สุดตราตรึงจนตรึงเอา
โอ้ใจมอบแก่เขา
เปรียบดังเงามิเคียงกาย
สิ้นแล้วในทุกสิ่ง
ยากประวิงสิ่งที่หาย
รักเขามากลับกลาย
สิ้นสลายในรักเรา.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
8 กุมภาพันธ์ 2548 17:35 น.
แก้วประเสริฐ
เชิญท่องเที่ยวดินแดนแห่งนิรยะ (ตอน ๑)
ความสุขสันต์บันเทิงร่าเริงจิต
ขอนำมิตรหญิงชายทั้งหลายผอง
มาชมเที่ยวเลี้ยวลดตามทำนอง
เพื่อไตร่ตรองลองดูในหมู่นิรยะ
ว่าสุขทุกข์แท้จริงเป็นสิ่งไฉน
เพื่อจะได้กระจ่างหนทางละ
หรือชอบใจอยากอยู่ทั้งหมู่คณะ
ฉันขอจะนำสนองเพื่อตรองดู
อันดินแดนนิรยะนี้นะหรือ
มันก็คือนรกหมกไหม้ให้อดสู
มาเปรียบเทียบเคียงข้างระหว่างพธู
กับโฉมตรูในดินแดนแห่งแคว้นนี้
ใครจะเลือกอยู่ไปไม่ว่ากล่าว
หรือจะเฝ้าอาศัยอยู่ให้เกษมศรี
ยมบาลท่านไม่ว่าเพราะใจดี
แล้วจัดที่ให้อยู่มีอู่มากมาย
มีแดนให้อยู่สู่แปดขุมใหญ่
ไม่ห่างไกลสิบหกขุมกลุ่มเล็กไว้
ทั้งสี่ด้านผ่านเรียงมิวุ่นวาย
รวมมีหลายขุมแบบแนบติดกัน
ใหญ่เล็กร้อยสามสิบหกตกเบ็ดเสร็จ
ขอเชิญเสด็จแปดขุมนุ่มเกษมสันต์
โปรดจงได้ใช้ชีวิตสบายพลัน
อีกเล็กนั้นฉันพาเที่ยวในตอนท้าย
ขุมที่หนึ่งพึงชื่อว่าสัญชีวะนรก
ไม่สกปรกกับฟื้นคืนชีวิตได้
เพียงถูกตัดเป็นท่อนไม่เป็นไร
พอเราตายก็ฟื้นคืนชีวัน
สาเหตุจากเป็นคนดิ้นรนนัก
ด้วยชอบมักฆ่าตายโดยไม่หวั่น
อีกคดโกงเบียดเบียนคนโดยพลัน
แล้วเสกสรรปั้นแต่งแบ่งกันโกง
ขุมที่สองนั้นหรือชื่อกาฬสุตตะ
มีอัตตะเส้นดำนำคล้ายโสร่ง
เหมือนลาวซ้งในไทยไว้จรรโลง
เพื่อเลื่อยโค้งขวานผ่าเป็นเสี่ยงเสี่ยง
ด้วยลบหลู่ดูหมิ่นซึ่งพ่อแม่
อีกแม้แต่รัตนตรัยใช้สุ่มเสียง
ทั้งกริยาอาการจนเบนเบี่ยง
แล้วหลีกเลี่ยงไม่เคารพนบบูชา
ขุมที่สามนามสังฆาฏะนั้น
แปลว่าพลันกระทบกันจากหินผา
เข้าบดขจัดสัตว์แตกแหลกกายา
วายชีวาพากันฟื้นคืนต่อไป
อีกนัยหนึ่งพึงนำตำครกเหล็ก
ทั่งใหญ่เล็กตีด้วยเหล็กจนตักษัย
บ้างโหยหวนล้วนเจ็บแล้ววอดวาย
สิ่งทั้งหลายด้วยผลกรรมที่ทำมา
สำหรับพระหรือคฤหัสถ์ที่จัดร้าย
พระสะสมไว้ด้วยเงินทองหมายจ้องหนา
อีกริษยาพาโกรธโลภแล้วนำพา
บอกราคาคดโกงเครื่องตวงวัด
ขุมที่สี่มีนามว่าโรรุวะ
มวลสัตว์จะครวญครางมิสร่างสัด
ด้วยเปลวไฟไหลเข้าทวารสารพัด
หมอกควันลัดกรดทะลวงกลวงปี้ป่น
ด้วยผลกรรมทำไว้นัยมนุษย์
ปิดกั้นจุดทางน้ำจนสับสน
เพื่อประโยชน์ไว้ใช้ในตัวตน
แล้วแช่งบ่นดินฟ้าธัญญาหารทำลาย
พาท่องเที่ยวดินแดนแคว้นสี่ขุม
ที่ชุมนุมสัตว์นรกหมกไหม้ทั้งหลาย
ขอพวกเราพักผ่อนเถิดตามสบาย
หายเมื่อยคลายเที่ยวมานำพาเดิน.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙