1 มีนาคม 2548 13:04 น.
แก้วประเสริฐ
โอ้รักความสวยหรือความงาม
ยามเย็นตะวันคล้อยลอยฟ้าราตรี
มวลเหล่านารีเยื้องกรายคล้ายเริงร่า
แสงระวีสาดส่องพื้นปฐพีงดงามตา
โสมดาราปรายเหนือฟ้าน่าชวนมอง
ตลึงแลหมู่นางชม้อยลอยหน้าอวด
เหมือนประกวดรูปโฉมเฝ้าโน้มสนอง
ลำพองยิ้มแสดงลักษณ์จักประลอง
คล้ายฉลองลองสิ่งใหม่ให้ละลาน
แต่งรูปกายฉายพริ้งประทินโฉม
เฝ้าประโลมผิวพรรณกลิ่นมวลสรร
ทั้งภูษาแพรวแวววับล้วนตระการ
เสื้อผ้าภัณฑ์ตามแฟชั่นประชันโพยม
คาบบุหรี่พ่นปุ๋ยเข้าลุยแสง
เหมือนจะแข่งรวีลับประดับโสม
ร้องเอะอะทำหน้าตาดุจดังโคม
วางท่าโน้มสรรสร้างระหว่างเดิน
หันมุมหนึ่งพึงให้คล้ายแตกต่าง
ล้วนกระจ่างกลุ่มน้อยค่อยระเหิน
นุ่งผ้าซิ่นไหมไทยเหมือนไร้เมิน
ประทินเทินผิวพรรณล้วนสรรเอง
ระหว่างเดินเหินระวังหลังแลหน้า
มิให้ผ้าหลุดลุ่ยกระฉับกระเฉง
กายยืดตรงไปข้างหน้ามิยำเกรง
วางตัวเคร่งคงไว้คล้ายกุลสตรี
อีกวาจาพาเพลินระรื่นโสต
มธุรสโอษฐ์เอ่ยไปสุดเกษมศรี
ล้วนกล่าวถ้อยร้อยคำล้ำวจี
พักตร์นารีแย้มยิ้มพริ้มไฉไล
ยืนพินิจพิจารณามองหาไว้
สองมุมไซร้ให้แตกต่างยากปราสัย
ตรองไม่ตกคิดมิออกบอกหทัย
จะเลือกใครใคร่กระซิบช่วยบอกที.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
27 กุมภาพันธ์ 2548 18:59 น.
แก้วประเสริฐ
ประตูเทวาภิบาลพาเพลิน.
ภาพลักษณ์ลายเลิศล้ำ พรายแพรว
ขอบที่รอบเป็นแนว แจ่มจ้า
สีทองส่องวาวแวว สาดช่วง แสงตะวัน
พลันพุ่งลอดสาดกล้า สู่ฟ้างามสรวง ๙
ลวดลายปักรดน้ำ โกสุม
ใบพร่างรายเรียงรุม ช่อพฤกษ์
ตวัดมัดต่อประทุม กอกลุ่ม ลายทอง
พอเบิ่งสุดยามตรึก ยิ่งล้ำตะวันฉาย ๙
สกุณาเล็กจับกิ่งก้าน ใบบัว
ลิงกู่ขานลอยตัว กิ่งก้าน
สิงห์คำรามร่ำพันพัว แยกสู่ ราวไพร
เติมแต่งแสนจัดจ้าน กรอบนั้นฤาศิลป์ ๙
ภายในกระจ่างไว้ เทวา
ทรงอ่อนองค์ลีลา เพริศแพร้ว
ขรรค์ทรงส่งแสงมา ดูน่า กลัวแฮ
ดุจเปล่งรัศมีแก้ว เปี่ยมแล้วขุนพล ๙
เพลินพิศไปผ่องแผ้ว งามตา
มาเยี่ยมยลวัดวา อร่ามแท้
สมใจแน่วกลับมา เมืองแม่ สุขจริง
มวลสิ่งงดงามแปล้ แน่แท้อกเอ๋ย ๙
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
26 กุมภาพันธ์ 2548 11:02 น.
แก้วประเสริฐ
ละอองหยาดฟ้า
โกสุมดุนปทุมผ่านน้อง งามตา
ลายช่อถักบุบผา กระจ่างแท้
แวววับบ่งฉายมา จับพร่าง จริงแฮ
สว่างพรายรอบฟ้า ส่องหล้าถึงนวล๙
วงพักตร์กลมบ่มเนื้อ นวลจันทร์
ขนเนตรงอนเสมอกัน ผ่องหน้า
ลมโชยผ่านเกศาพลัน หอมกรุ่น ชวนดอม
เสียงแว่วหวานปานฟ้า เสนาะคล้องมโหรี๙
รูปทรงองค์อ่อนช้อย นางรำ
ยามเพ่งอนงค์หลงจำ ใฝ่เจ้า
พิศดูยิ่งงึมงำ ชวนพี่ หวนหา
สุดแต่เวรมาเย้า เยาว์ย้อมฤดีครวญ๙
ละอองโปรยพร่างฟ้า ลมโชย
หอมกลิ่นกายรินโรย แช่มช้า
อบอวลร่ำพรำโดย ภูษาน่า ชวนจอง
นัยน์พร่าสุดยากล้า เบิ่งฟ้าอิงสรวง๙
วนเวียนแหวกว่ายเคล้า ชวนชม
หอมกลิ่นปทุมสุดดม กระจ่างฟ้า
ตลึงแลแม่โกสุมกลม แนบน้อง จริงเฮย
แสนสว่างนัยน์ตากว้าง แน่งน้อย ตลึงแล๙
รำพึงครวญหวนปั่นล้วน สุดโหย
อกพี่หมองลาโรย เหี่ยวแห้ง
พิศวาสที่มาโปรย แหวกพล่าน ฤดีทรวง
หยาดที่มาเคยแล้ง ยิ่งล้า จริงสวรรค์๙
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
25 กุมภาพันธ์ 2548 00:12 น.
แก้วประเสริฐ
ยอดอนงค์
( นวลอนงค์ เก่า )
ยามเล็งพิศแผ่วพลิ้ว เพริศพราย
นางย่างเดินกรีดกราย ร่างน้อง
นัยเนตรส่งตาชาย ดูน่า ชวนชม
หากแม่เคียงกายต้อง แน่แท้คนมอง ..๙
เพียงหันพบแหย่เจ้า ขึงโกรธ จริงเจียว
จักซ่อนงามยามพิโรธ ดั่งฟ้า
หากนางร่าเริงโลด โชติช่วง ยามยล
ยากยิ่งหญิงในหล้า ยั่วสู้ความงาม ..๙
นางเดินชมช่อไม้ เกสรดอก
ดอมดมกลิ่นหอมนอก เร่งเร้า
อบอวลอุ่นไอออก แรกรุ่น นวลอนงค์
ใจครุ่นคิดหลงเจ้า น่าอุ้มแนบทรวง ..๙
อยากทำความใคร่รู้ จักนาง
แสนห่างจักเลือนราง ยิ่งแท้
อกพลันหม่นอกจาง ยากแน่ จริงแฮ
ใจไป่สุดจะแก้ แน่งน้อง แนบกาย..๙
แสนสวยสุดหยาดฟ้า โลมดิน
พิศเพ่งมองยุพิน เด่นหล้า
วาสนาพี่ยลยิน ยากแน่ จริงเฮย
เพียงแต่มอบใจแท้ แด่น้อง ทางฝัน ..๙
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
24 กุมภาพันธ์ 2548 12:18 น.
แก้วประเสริฐ
ห้วงมัดดวงใจ
ใจคนยากใคร่รู้ จิตใน
สุดที่ลึกชอนไช มากแท้
โอดครวญส่งนอกไป หลากเล่ห์ จริงนา
เสริมภาพจนยากแก้ ล่วงล้ำนำสนอง...๙
เพริศพราวราวสิ่งพริ้ง สูงศักดิ์
ทำหยิ่งหาคนรัก กักไว้
เหม็นในใส่กกกัก สอยเกี่ยว เก็บครอง
ทำหยั่งตนดังให้ คนได้ไหลหลง...๙
อวดตัวมัวคอตั้ง ตามอง
แสดงแส่หวังคนปอง ยิ่งแท้
สองตาที่เหลียวจอง สาดส่อง ปองตัว
ธรรมที่ดีมีแท้ มิได้ใฝ่ตรอง...๙
โอดครวญหวนป่วนพลั้ง อดีตกาล
รวนเร่าคละเบิกบาน สู่ไว้
อเนจอนาถที่เผาผลาญ เป็นบ่วง สวมแฮ
คงแต่เลียนหงส์ไซร้ เพื่อสร้างหลอกลวง...๙
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙