10 ตุลาคม 2548 21:46 น.
แก้วประเสริฐ
ลำนำความรัก
ลำนำถ้อยร้อยคำหวานสุดซึ้ง
หวนคำนึงพึงคิดแม้สิ่งฝัน
หลงละเมอเพ้อหาทุกค่ำวัน
นึกถึงกันสรรค์อยู่สู่กลางใจ
มิสิ้นสุดแค่นี้เพียงพอรัก
เมื่อได้มักเหินห่างร้างฝันใฝ่
ยังดิ้นรนไขว่คว้าหาต่อไป
จนมีใหม่ให้เศร้าเก่าร้างจร
โอ้ชีวิตเปลี่ยนผันหันเหยิ่ง
แม้จะเหลิงเคยพร่ำด้วยคำสอน
ศีลธรรมครูเคยย้ำถูกลิดรอน
หายทุกตอนมิจำไว้ในใจคน
อนาถแท้มิมีสิ่งพึงคิดสร้าง
ธรรมะร้างหายสิ้นจิตสับสน
จึงวกวนสนเท่ห์สร้างเล่ห์กล
คิดสัปดนจนคลุ้งมุ่งทำลาย
สิ่งผูกพันวนเวียนเปลี่ยนยิ่งนัก
เคยน่ารักเป็นใคร่ใจมุ่งหมาย
ความโสกโดกสิงสู่คู่ใจกาย
ล้วนทำลายทุกสิ่งอิงโลกียะ
ดังฉะนี้สิ่งหวานปานอมฤต
กลับเจือพิษปนรักมักกักขฬะ
มากตัณหากามารมณ์มิบ่มละ
แม้แต่พระบัณฑิตยังคิดทำ
ปัจจุบันสรรค์อยู่คู่วัตถุ
ธรรมบรรจุบนหิ้งคือสิ่งล้ำ
ส่งชีวิตติดไว้ด้วยเวรกรรม
ยังบอกคำว่ารักหรืออย่างไร.
* แก้วประเสริฐ. *
8 ตุลาคม 2548 10:24 น.
แก้วประเสริฐ
= ชีวิตดอกแก้ว=
วิบากกรรมนำสร้างดุจพรางชีวิต
ล้วนลิขิตเส้นทางกรรมนำสร้างสรรค์
เลิกลดละหากใจได้กระทำ
เป็นผลนำกรรมดีไว้ในนิพพาน
การทุ่มเทแรงใจใฝ่ดีนั้น
ดุจบัวพลันโผล่น้ำล้ำสุขสันต์
พ้นภัยผองกรรมชั่วที่พัวพัน
เห็นตะวันสรรค์สว่างกลางอัมพร
ส่วนกรรมชั่วมัวหมองลองมาคิด
จิตวิปริตคิดใฝ่ให้หลอกหลอน
มันวนเวียนเวียนวนเป็นตอนตอน
สร้างร้าวรอนต่อใจถ้าใครทำ
หากไม่ทำทั้งกรรมดีและมีชั่ว
เหมือนดอกบัวพ้นน้ำกล่ำเลิศล้ำ
ไร้กลิ่นหอมสวยแต่รูปเฝ้าลูบคลำ
เขาไม่นำมาเชยชมเข้าดมดอม
ถ้าสร้างสรรค์ความดีหนีความชั่ว
เปรียบดอกบัวที่หอมหวนชวนถนอม
เฝ้าเชยชมกลิ่นหอมเพราะอดออม
คนนอบน้อมล้อมไว้ด้วยเกียรติยศ
ดอกเอ๋ยดอกแก้วเพริศแพร้วพริ้ง
งามทุกสิ่งกายใจใฝ่ช่วยปลด
บอกทุกคนด้วยใจเลิกละลด
พ้นสิ่งคดคุดงอรอพระนิพพาน.
* แก้วประเสริฐ. *
2 ตุลาคม 2548 23:00 น.
แก้วประเสริฐ
๏ * โฉมสุดาดารารัศมี *๏
งามเอยแม่สวยยิ่งพริ้งเพริศแพร้ว
พักตร์ผ่องแผ้วเคียงจันทร์นั้นจ่างฟ้า
คิ้วโขนงโกร่งงอนคล้ายองค์อุมา
สวยหยาดฟ้าเยื้องย่างดั่งกวางทอง
กลิ่นเนื้อนวลเย้ายวนชวนลุ่มหลง
ทั้งเอวองค์ทรงรูปดั่งสิงห์ผยอง
สะโพกผายคล้ายม้าศึกคึกลำพอง
สองเนตรน้องกลมใสให้ความนัย
ผมสลวยสวยวงแขนแสนสล้าง
ดุจงาช้างขาวนวลชวนหลงใหล
ยามยิ้มแย้มแซมลักยิ้มอิ่มไฉไล
ยิ่งนางได้ย่างกรายคล้ายเทวา
สำเนียงปานดนตรีที่พริ้งผ่าน
ถ้อยคำหวานกลั่นวจีที่พร่ำหา
ชะเมียงชม้อยลอยเนตรไปมา
โอ้โฉมสุดาดารารัศมีที่ใฝ่ครอง
ดุจเพชรงามยามลอยลออฟ้า
ย่างเยื้องมาเยือนปฐพีมิมีสอง
สวยเหลือเกินนงนุชสุดใฝ่ปอง
โอ้นวลน้องล้วนเสน่หาพาใจจำ
เอื้อมมือไล้ใฝ่ลูบจูบเพชรแก้ว
โถแน่แล้วยอดหญิงยิ่งครวญคร่ำ
ยามเยื้องย่างร่างงามพลางยิ้มนำ
ชื่นอกฉ่ำล้ำรำลึกตรึกถึงนาง
ตลึงแลชะแง้มองยามน้องห่าง
รัศมีพรางนวลอนงค์บ่งสล้าง
แสงสีทองแวววับระยับทาง
สุดเวิ้งว้างวางลงจนอาวรณ์
ประกายพฤกษ์สว่างแล้วเจ้าแก้วเอ๋ย
นฤมลเคยพะวงคงเฝ้าหลอน
สู่ภวังค์ครั้งรักอดีตปลิดลิดรอน
ห้วงสะท้อนห่อนฤทัยให้จดจำ
แหงนมองฟ้าราตรีที่แพรวพร่าง
มองนวลนางเคียงจันทรานภาค่ำ
ส่องประกายแวววาวราวรำพัน
ดวงใจนั้นพลันส่งถึงรัศมีดารา.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
29 กันยายน 2548 23:03 น.
แก้วประเสริฐ
*อดีตรักหักปัจจุบัน*
รำพึงหวังนั่งคอยละห้อยหา
สุดขอบฟ้าเวียนไปในทุกสิ่ง
ด้วยสื่อรักฟุ้งซ่านเผาผลาญอิง
ล้วนทุกสิ่งจางหายไม่กลับคืน
ลมพัดโชยแนวคลื่นพลิกลื่นไหล
แต่เหตุไฉนใจหยุดยากสุดฝืน
สิ่งผูกพันนั้นพรากอาจยั่งยืน
คิดหวนฟื้นหายลับไม่กลับมา
ช่วงเวลาผูกพันครั้นหวนคิด
ยังตรึงชีวิตรำพึงกึ่งหวนหา
ด้วยทุกสิ่งฝากไว้ในกาลเวลา
เคยนำพาสองเราเฝ้ารำพัน
ใต้แสงดาวเคล้ารำพึงถึงสิ่งอ้อน
งามสะท้อนแสงจันทร์อันสุขสันต์
ต่างระรื่นระริกระรี้ชี้ชมจันทร์
แนบชีวันครวญคร่ำร่ำร้องคราง
โอบกวัดรัดแนบแอบพรมหญ้า
ต่างคลึงหารักมาพาเสพย์สร้าง
โหมทุกสิ่งอิงฉุดมิหยุดวาง
สวรรค์สว่างวกวนจนแทบวาย
ครั้นใยรักแลกเปลี่ยนเพียรหันสู้
ผ่านประตูวิมานชัยมิได้หาย
สายรักเจิ่งเหลิงคลุ้งพุ่งสู่ใน
สิ่งผ่านไปเหลือไว้ให้วิงวอน
โอ้ค่ำนี้เดือนดาวเร้าใจยิ่ง
ให้ทุกสิ่งอิงเก่าเฝ้าอกสะท้อน
ภาพวกวนเวียนเว้าเข้าสู่ตอน
คืนออดอ้อนมองหาบนฟ้าไกล
เสียงซัดคลื่นสู่ทรายเข้าชายหาด
อารมณ์สวาทวาดรักมิสดใส
สิ่งเพริศพริ้งอิงจันทร์มิเหลือใย
ส่องประกายอกไฉนใยไร้นาง.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
25 กันยายน 2548 13:23 น.
แก้วประเสริฐ
* ปิดตะวันกั้นฟ้า *
ฟ้ามืดครึ้มพระพายโปรยสายฝน
อสุนิบาศก์คะนองจนหวั่นไหว
เสียงเปรี้ยงป้างครางครวญสู่ข้างใน
สั่นหัวใจที่สดใสได้หมองลง
ชีวิตเอยผ่านพบประสบเห็น
สิ่งซ่อนเร้นเล่ห์ร้ายทำให้หลง
ทั้งหวานรื่นชื่นใจมิได้ปลง
เฝ้าดำรงคงไว้คล้ายประคอง
ต้องทนทุกข์ทรมานเร้ารานยิ่ง
แฝงทุกสิ่งลวงไว้ในทั้งผอง
เข้าสู่ปลักลุล่วงบ่วงทำนอง
ต้องแผดร้องในสิ่งที่อิงเรา
ผลาญชีวิตคิดไปยากคืนกลับ
สู่ล่วงลับดับสิ้นทิ้งความเขลา
มาผูกพันกระชั้นฉุดดุจดั่งเงา
ทิ้งความเฉาสู่ใจได้ครอบงำ
สู่ห้วงรักครั้งแรกแทรกสดใส
ลุ่มลึกไว้ให้ซ่านหวานเหลือล้ำ
อีกสวยเสน่ห์งามเหลือไม่เบื่อจำ
ต้องชอกช้ำอารมณ์หมองต้องลา
ครั้งที่สองตรองไว้เมื่อได้คิด
เฝ้าสนิทสาวน้อยด้อยเสน่หา
ปรนนิบัติดุจเขาเป็นเทพธิดา
ไร้วาสนามามีมารผลาญผจญ
ยังไม่เข็ดหนอดวงหรือห่วงชีวิต
ยังตามติดต้องเจอเผลอสับสน
หวังปั้นดินเป็นดาวคาวคลุกปน
แทบเสียคนหนีห่างร้างออกมา
วาสนาราคะมาสอดแทรก
ปิดช่องแหกหนีสิ่งไม่หวนหา
ด้วยเวรกรรมนำชักจักเข้ามา
สร้างปัญหามาสู่สู้ทนยอม
ภายในใจไหวอ่อนดุจสายน้ำ
สิ่งชอกช้ำล้ำกล้ำสู่บ่วงล้อม
ผูกตวัดมัดจัดไว้มิใคร่ยอม
ยากหนีอ้อมกรอบได้ใจระวิง
นึกอนาถวาสนาของข้าเอ๋ย
มิเคยเลยสร้างช้ำใจแก่หญิง
ใยจึงหักรักร้างเสียจริงจริง
โอ้ทุกสิ่งตามล้างสู่ราญรอน
ต่อไปนี้ขอสร้างล้างใจข้า
มือซ้ายมาปิดตะวันกันสิ่งหลอน
ส่วนมือขวานั้นปิดฟ้าทุกขั้นตอน
ทิ้งอาวรณ์ชำระนางกระจ่างใจ.
๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙