* ศรัทธารัก * ๐ โอ้ลมโชยพลิ้วร่างสร้างใจไหว อวลกลิ่นไอหอมชื่นระรื่นเผย กลีบบุปผาซ่อนเร้นระเด่นเชย หวามสิ่งเคยฝากไว้จนได้ตรม ๐ หวนรำพึงสะท้อนตอนรักสล้าง อยู่ท่ามกลางต่อห้วงเป็นบ่วงขม หวั่นไหวพราวยามรักสู่ปลักปม แทบระทมความหลังหากพลั้งไป ๐ ดุจสายคลื่นน้ำตกปกคลุมหิน แสนสุขจินต์ละอองผุดผ่องไสว พรมพร่างเร้นงามเด่นฝากเน้นใจ สิ่งไฉไลพราวพร่างสว่างภิรมณ์ ๐ เพียงเสียดายสาวงามเมื่อยามรัก ที่เพ็ญพักตร์เรือนร่างกระจ่างสม มาแปรเปลี่ยนฝากซึ้งให้ตรึงตรม ยากคิดชมสิ่งปรารถนามาเฝ้าเงย ๐ เสมือนจันทราลาลับจับขอบฟ้า คราเรียกหาหวนกลับยากนับเผย หลบความหลังฝากใจครั้งได้เชย แสนละเลยความหอมย้อมพจนา ๐ สุดเปล่าเปลี่ยวห้วงลึกที่ตรึกยิ่ง ล้วนหมายสิ่งพรากไปสุดใคร่หา เหลือแค่เพียงความฝันสุดสรรมา มองม่านฟ้าคนึงถ้อยร้อยจำเรียง ๐ กลิ่นที่หอมอบอวลล้วนสิ่งซึ้ง ดุจตราตรึงสิ่งเศร้าที่เคล้าเสียง คิดคำนึงกลิ่นบุปผาเฝ้ามาเคียง มิอาจเลี่ยงเปลี่ยนผ่านที่ซ่านใจ ๐ ศรัทธาที่รักจากไปสลายแล้ว สิ่งเจื่อนแจ้วพลิกสลดไม่สดใส ม่านฝากรักหมายปองละล่องไป แต่ห้วงในปวดร้าวผ่านเฝ้าระทม. * แก้วประเสริฐ. *
* เทพบุตรนางฟ้า * ๐ เทพบุตรนางฟ้าอัลมิตราเอ๋ย ปีกฟ้าเผยไทยกลอนละอ่อนสวย ผู้เสียสละควบคุมกระชุ่มกระชวย พร้อมเลิศด้วยอักษราภาษาศิลป์ ๐ เพื่อรักษาความงามยามเสริมสร้าง มิอ้างว้างขาดตอนให้กลอนถวิล เลื่องลือนามโบราณมาผ่านจินต์ เหมือนนกบินท่องฟ้าทิวาราตรี ๐ สร้างปราศหวังสิ่งใดในความคิด เพียงดวงจิตประจักษ์ในศักดิ์ศรี หลากวรรณศิลป์ล้ำค่ายากหามี คิดเพียงที่ฝากไว้ในวรรณกรรม ๐ ปีกฟ้าจึงขนขวายเพื่อได้สร้าง ออกเงินวางค่าเช่าเวปฯเสพย์ล้ำ อัลมิตราหนุนสร้างระหว่างทำ ควบคุมนำไทยกลอนอักษรกวี ๐ จนเลิศล้ำพวยพุ่งตราบรุ่งโรจน์ เป็นที่โปรดชาวกวีจนมีศักดิ์ศรี เลื่องลือนามยามเอ่ยเพื่อเผยปฐพี ปราศรวยมีสร้างไว้ให้นักกลอน ๐ คนไทยกลอนรู้ไหมใครปีกฟ้า สร้างเวปฯมาเพียงชื่อร่ำลือสลอน ด้วยใจรักวรรณกรรมมากล้ำตอน รถต้องผ่อนมือสองสนองทำงาน ๐ ทั้งชายหนุ่มหญิงสาวเฝ้าเร่ร่อน สร้างสู่กลอนงดงามเมื่อยามสาน ล้วนเงินเดือนอัตคัตจัดทรมาน เพียงอาหารคือมาม่าเป็นอาจินต์ ๐ ขอเทิดทูนยอดหญิงชายมิ่งขวัญ เทพไท้นั้นช่วยเหลือจุนเจือถวิล ผ่านสิ่งใดสมหวังเป็นพลังชีวิน หากหมดสิ้นทั้งสองต้องจบลง. * แก้วประเสริฐ. *
* สัญญารัก * ๐ ริมขอบฟ้าดาวทองผ่องระยับ ไกลลิบลับยากปองเฝ้ามองหา ดั่งเมฆน้อยละล่องจะคล้องมา ยากไขว่คว้ามิหวนแสนป่วนใจ ๐ ดุจคำกล่าวของคนปะปนหวาน ที่หอมซ่านมิตรองครรลองไหว ฟ้ากลับดินยากพบบรรจบไกล ล้วนผ่านไว้สุดคนึงรำพึงปอง ๐ สรรคำกล่าวฝากไว้หากได้คิด คล้ายลิขิตผ่านใจสุดใคร่สนอง เพียงสายลมซ่อนไว้จงให้ตรอง ช่างเรืองรองตกผลึกควรนึกไกล ๐ ดั่งน้ำค้างหยาดหญ้าแล้วลาหาย หยดเป็นสายแวววับยากสลับไหว คล้ายสัญญาความรักประจักษ์ใจ ล้วนกล่าวไว้ชวนฝันอันมากมาย ๐ เปรียบดาราส่องแสงแฝงไกลโพ้น ยากจะโหนฝากหล้ายามคว้าสลาย ล้วนคำหวานของคนมากล้นกลาย ลบเลือนหายมุ่งมั่นพลันสั่นคลอน ๐ หลายความรักเปี่ยมล้นของคนนี้ สุดล้นปรี่เปรียบไปดุจคล้ายหนอน พร้อมคอยเล็มผันแปรยากแน่นอน หลากขั้นตอนพลันสลายในเล่ห์เชิง ๐ เหมือนสายลมแห่งรักยากนักแล้ว ชวนผ่องแผ้วงดงามเมื่อยามเหลิง บ่มความหวานฝากไว้ดุจได้เพลิง หากระเริงหลงใหลคล้ายไหม้เรา ๐ ความเพริศพริ้งอิงไว้ในสิ่งคว้า ยากจะหาความจริงมากอิงเฉลา หวานสุดหลายชอกช้ำระกำเอา ผ่านซึมเซาครวญรักจากสัญญา. * แก้วประเสริฐ. *
* ตะวันยอแสง * ๐ ภานุมาศทอแสงแฝงเฉิดฉวี หลายหลากสีระยับประดับไสว ม่านละอองสายน้ำยามพลิ้วไป เกิดรุ้งพรายเล่นน้ำตามสายลม ๐ คราสนธยาลาลับกับเหลี่ยมโลก มืดมนโยคเข้าสลับประดับผสม เงาของคลื่นเคลื่อนพลิ้วละลิ่วชม ท้องฟ้าบ่มเพริศพริ้งแนบอิงพราย ๐ เหล่าวิหคร้องก้องทำนองเสียง ชักชวนเคียงคืนพักก่อนจักสาย บินคลอคู่เป็นแนวมุ่งแถวราย มิแตกขยายหายลับเพื่อกลับรัง ๐ ยามตะวันยอแสงแฝงงามยิ่ง ล้วนทุกสิ่งสายชลดังมนต์ขลัง ละลอกคลื่นสาดซ่าส์อ่อนล้าพลัง โอ้เปรียบดังเมืองแมนแฝงแผ่นดิน ๐ สายลมพลิ้วเย็นฉ่ำน้อมนำจิต ก่อนเคยชิดเคียงข้างมาร้างสิ้น เลาะชายหาดพร่ำเพ้อละเมอจินต์ สายน้ำถวิลความหลังเมื่อครั้งเชย ๐ ณ ที่เก่าเวลาเดิมยากเสริมแล้ว หัวใจแป้วมืดมนยากปนเฉลย เสียงเสนาะไพเราะหูมิอยู่เปรย ยากจะเผยสู่เศร้าเปล่าเปลี่ยวใจ ๐ แสงตะวันจวนลับกลับขอบฟ้า ล้วนคลื่นผวาผ่านไปฝากไร้ไสว ริมชายหาดมีละอองผุดผ่องไกว แต่เหตุไฉนห้วงลึกนึกใฝ่ครอง ๐ กระแสคลื่นละลอกกระฉอกคิด ผ่านห้วงจิตซ่านให้สุดใคร่หมอง เสน่ห์นางฟ้าครวญถึงยากพึงปอง สิ่งเรืองรองผ่านไปดุจคล้ายตะวัน. * แก้วประเสริฐ. *
* บุษบันเชยแข * ๏ ราตรีผ่องม่านฟ้า.... ..เหล่าบุปผาคราสนอง ดาวแขดุจแนบครอง....เปล่งหล้าฟ้าหาเดียวดาย หอมเจ้ามิต้องหมอง.....โปรยละอองมิลอยหาย หวนคิดน้องมิคลาย......วาบสู่ฟ้าฤดีครวญ๚ะ๛ ๏ ราตรีผ่องม่านฟ้า.........แสงส่อง ผกาเผย บุปผาหอมชวนมอง.... ...นวลเนื้อ ชมพูใฝ่แดงปอง..............ขาวก่อ มวลแฮ แขเปล่งหนุนสู่เอื้อ..........ม่านเคล้าตรึงหทัยฯ ๏ ซ้ายแลขวาจักคว้า..........นวลนาง พิศเพ่งยากจะวาง...............พรากไว้ ดอกแก้วซิบ่จาง..................หอมตลบ อวลนา บุณฑริกสุดคลั่งไคล้...........แนบเนื้อใฝ่สงวนฯ ๏ ชมนาดผันฝากเอื้อ.........มุ่งชม แม่นา อวลบุษบันหอมรม..............ซ่านไล้ การเวกฝากให้ดม...............สืบต่อ หวังแฮ หอมสุดจากกลิ่นไว้............ยากเคล้าสู่สนองฯ ๏ รำพึงนางฝากเอื้อ..........อวลดม กลีบกลิ่นแก้มหอมรม........ซ่านซึ้ง เหล่าบุปผาภิรมย์...............สานต่อ มวลแฮ ซ่านสุดจากห้วงบึ้ง............ใฝ่เคล้าสู่สนองฯ ๏ โปรยรินบ่มม่านฟ้า........ใคร่เชย นวลแฮ แขส่องดาราเผย................อวลไว้ ใจจิตสุดยากเผย...............คำกล่าว จริงนา หวังใฝ่เพียงลูบไล้.............ฝากเจ้าคลอเคียงฯ ๏ อกเอ๋ยช่างป่วนแล้ว......ชวนหา หลายหลากบุปผามา........ผูกไว้ นางเอยยากนำพา.............สานต่อ นางแม่ ดอมกลิ่นผกาคลั่งไคล้.....ค่ำนี้ดั่งสรวง ๚ะ๛ * แก้วประเสริฐ. *