22 ธันวาคม 2548 10:57 น.
แก้วประเสริฐ
วจีน้อยนิดคิดถึงเจ้า
เพียงวจีเอ่ยอ้างเพื่อสร้างหวัง
ดั่งน้ำค้างกลางหาวยามเฝ้าถวิล
ดุจหยาดเพชรเกล็ดแก้ววาวแววกวิน
สิ่งสูญสิ้นลบหายนัยน์ตาปรอย
แม้นน้อยนิดกอบไว้สู่ใจชื่น
แสนระรื่นตื่นหรรษามาใช้สอย
เพียงถ้อยคำซึ้งซ่านจนฉันลอย
ดุจดาวน้อยลอยล่องสู่ท้องนภา
เฉกหัวใจได้เดือนเป็นเพื่อนคู่
ความอัปยศอดสูมิตามหา
ถ้อยน้ำคำล้ำวจีที่สรรค์มา
ดุจดั่งฟ้ามอบพรเฝ้าสอนจำ
* สู้เถิดหนาที่รักอย่าพักเฉย
อย่าล่วงเลยกอบกู้เพื่อสู้ช้ำ
สิ่งผ่านไปคิดว่าเป็นเวรกรรม
อนาคตล้ำเกินกว่าดั่งค่าทอง*
วันคืนผ่านผันแปรกระแสชีวิต
ดั่งลิขิตพรนางฟ้าเข้ามาสนอง
ยกระดับขับเคลื่อนสิ่งหมายปอง
สร้างฉันล่องเด่นฟ้ายามราตรี
ถ้อยคำนี้มีไว้สู่ใจเสมอ
มิเลิศเลอเชี่ยวชาญดั่งมีศรี
นึกถึงคนเฝ้าพร่ำล้วนสิ่งดี
ในโลกนี้ล้วนชั่วส่วนตัวงาม
เพียงน้ำคำน้อยนิดคิดถึงเจ้า
ลบความเง่าปุถุชนคนคิดหยาม
ด้วยทุกคนสร้างไว้มิได้ทราม
อย่าเหยียดย่ำสิ่งช้ำสร้างน้ำใจ
เธอมิใช่ปราชญ์ทองผุดผ่องศรี
มิใช่กุลสตรีโลกแสร้งยกไว้
สามัญชนคนเดินดินถิ่นห่างไกล
แต่กายใจวจีล้ำงามเหลือคณา.
* แก้วประเสริฐ.*
20 ธันวาคม 2548 22:29 น.
แก้วประเสริฐ
หนาวใจยังใฝ่หลง
สิ่งผันผวนสร้างไว้สู่ใจแท้
โอ้ผันแปรฟุ้งยิ่งในสิ่งเหลือ
ที่ซาบซ่านวกหาหวังมาเจือ
เพื่อเอื้อเฟื้อมีไว้แต่ไกลจริง
น้ำใจหญิงอิงไว้ดุจใยนุ่น
พลิ้วละมุนอ่อนระบัดยากมัดยิ่ง
แสนเวิ้งว้างห่างเขายังเฝ้าระวิง
เหลือทุกสิ่งเพียงได้ประกายตา
หยดน้ำใจมอบไว้เพียงให้หลอน
สิ่งซุกซ่อนพร่ำเพ้อละเมอหา
ดูกีดกั้นบั่นทอนจนอ่อนลา
ใยวาสนาลิดรอนแล้วย้อนลง
เย็นยะเยือกฟุ้งซ่านเข้าพล่านจิต
สิ่งน้อยนิดฝากไว้เพียงให้หลง
เงาซุกซ่อนสะบัดยากปัดปลง
ยังแฝงตรงเหลือไว้แทนให้ใจ
กรุ่นสิ่งหอมย้อมกลิ่นประทินเจ้า
แฝงโลมเร้าเฝ้าคำนึงรำพึงไว้
จากผ้าน้อยร้อยมัดรูปภายใน
ดุจดั่งคล้ายแทนกายซึ่งให้กัน
ยิ่งมองผ้ารูปหัวใจยิ่งได้คิด
เจ้าของลิขิตเลือนหายแต่ให้ฝัน
โอ้หนาวนี้เคล้ารักดุจหักชีวัน
เพียงแค่นั้นก็ซึ้งซ่านตรึงทรวง.
* แก้วประเสริฐ.*
19 ธันวาคม 2548 11:56 น.
แก้วประเสริฐ
สายใยสายสวาท
สายใยพันนุ่มเนื้อเข้าเกื้อหนุน
เอื้อการุนอุ่นใจกระไรเหลือ
ลมหนาวซ่านกายเราที่เฝ้าเจือ
สุดจะเอื้อสิ่งหวังเมื่อครั้งครอง
นึกถึงเจ้าดวงจิตยังติดกรุ่น
ลมละมุนพลิ้วผ่านสุดซ่านสนอง
ตรองความคิดตรึกจำแสนลำพอง
เจ้าประคองรสรักยากหักลง
โอ้สวาทประหลาดนักมิยักแจ้ง
สู้มาแฝงผ่านหนาวที่เคล้าสรง
นี่มืดค่ำสนธยาใฝ่หาอนงค์
แต่ก็คงเหลือไว้ให้คร่ำครวญ
หอมกลิ่นรักการุนที่กรุ่นจิต
ยามหวนคิดยังช้ำเฝ้ากำสรวล
ดอกไม้ป่าระรวยด้วยคำชวน
พลิกทบทวนใยรักที่มักลา
สายใยเอยสายสวาทยังพาดเคล้า
ช่างรุมเร้าเมื่อหนาวยังเฝ้าหา
เยือกเย็นกายแต่ใจมิได้สุดา
สิ่งผ่านมาคงไว้สายใยพัน
บัดนี้หนอลมหนาวเมื่อเข้าแล้ว
ใจช่างแผ่วเพ้อหลงเพียงคงฝัน
มองหน้าหลังเหลือไว้คงให้งัน
ความซึ้งกันซ่านขึงยังตรึงใจ
เธออยู่ฟ้าข้าเป็นดินคงสิ้นแล้ว
ความเพริศแพร้วเหลือไว้คงได้สลาย
หนาวมิเปลี่ยนแต่ใยเหตุไฉนกลาย
สวาทคล้ายลมหนาวเฝ้าเคล้ากมล
หยิบเสว็จเตอร์เสื้อแดงที่แฝงฤทธิ์
โน้มน้าวจิตใฝ่คำนึงรำพึงสน
ดมเสื้อน้อยร้อยใจคล้ายมีตน
ฝากใจจนสู่ห้วงเข้าดวงวิญญาณ.
* แก้วประเสริฐ.*
14 ธันวาคม 2548 12:39 น.
แก้วประเสริฐ
สะกิดฝันฉันทาคติ
หนาวแล้วหนอใจเราเคยเฝ้าง้อ
สิ่งที่รอดับหายดุจคล้ายฝัน
หวานเคยพร่ำร่ำร้องสู่ใจกัน
อากาศนั้นเคยเป็นใจลับคลายลง
มองนภาห้วงหาวสุดร้าวจิต
แลชีวิตลิดรอนไม่สมประสงค์
สิ่งสดชื่นแห่งอดีตถูกปลิดปลง
เหลือความหลงแฝงไว้สู่ในอุรา
อนาถแล้วจิตใจโธ่ใครเห็น
ความหนาวเย็นสู่ไว้ใคร่หวนหา
สะท้านทรวงหน่วงลึกตรึกวิญญาณ์
ยากนำพาฝากตรงสู้หลงคอย
ครั้งหนึ่งนั้นจำนรรจ์เฝ้าสรรค์หา
เปลืองเวลาเคยใช้สุดให้ละห้อย
น้ำใจเอ๋ยเหลือลงตรงริ้วรอย
แม้นเพียงน้อยฝังลึกสุดตรึกจำ
ลมพัดใบไม้ไหวใจหนาวสั่น
ดั่งความฝันในอดีตถูกขีดซ้ำ
ดุจคลื่นรักฝากไว้สุดให้ระกำ
โอ้ความช้ำใยมาคราหนาวเยือน
มองทะเลเห่ไกวสุดให้เศร้า
สิ่งปวดร้าวคราวนี้มิมีเสมือน
สนสะบัดทิ้งใบสุดให้เตือน
ถึงคราวเยือนวังแก้วแผ่วหัวใจ.
* แก้วประเสริฐ. *
11 ธันวาคม 2548 11:48 น.
แก้วประเสริฐ
สวรรค์แดนดิน
แสงรวีทาบฉาบพื้นปฐพีครอง
ประกายสีทองสดสว่างกระจ่างเวหา
สรรพสัตว์เวียนว่ายกระจายมรรคา
ตามวันเวลาสรรค์สร้างพลางดำเนิน
รูปไตรลักษณ์หมุนเวียนมิเปลี่ยนทิศ
สรรค์ชีวิตผูกพันวิญญาณเคลื่อน
สร้างเป็นปมสู่ปลักมักลบเลือน
ส่งแชเชือนเสมือนคลื่นฟุ้งกระจาย
สวรรค์สู่อกตรรกศาสตร์ประหลาดยิ่ง
เฝ้าแอบอิงหวนหากลับมาสลาย
นรกเข้าพิงออดอ้อนสอนลวดลาย
คนทั้งหลายกลับชอบมอบภักดี
อนิจจาหาสวรรค์นั้นเพื่อสร้าง
กลับมาร้างวางเสียในสิ่งนี้
มุ่งข้างหน้ามิสร้างระหว่างพอดี
ในแดนนี้มีได้มิใกล้ไกล
สร้างหัวใจให้ใสปานพิสุทธิ์
เป็นบริสุทธิ์ดุจดังเนื้อแก้วใส
รัตนะสามดวงล้วนสู่กู้ภายใน
ก่อเกิดไว้ทั้งกริยาวาจางาม
ส่งสวรรค์แดนดินแถบถิ่นนี้
บ่วงโลกีย์ถูกตัดจัดเขตข้าม
พอดีจัดวางเข้าเฝ้าติดตาม
มิลุกลามเกินงามความพอดี.
* แก้วประเสริฐ. *