12 กรกฎาคม 2549 13:45 น.

** กำพุชนารี **

แก้วประเสริฐ


                 กำพุชนารี

       โอ้...บุบผามาลีศรีกำพุช
สวยบริสุทธิ์ดุจดาราพราวพร่างฟ้า
งามโดดเด่นเหลือล้ำงามลักขณา
ทั้งกิริยาอ่อนช้อยดั่งพลอยจันทร์

       ยามเดินเหินเพลินตาสง่าพริ้ง
อ้อยระวิงแสงสุริยาฟ้าเสกสรร
เบิ่งสีทองส่องประกายฉายพลัน
สำเนียงนั้นแว่วมานามนารี

       วิหารคดจรดไว้ในภาพปั้น
ดั่งเทวัญอัปสรตอนแย้มศรี
ดุจหน้านางสดใสใจยินดี
ปลื้มฤดีเคียงข้างระหว่างเธอ

       ช่างห่วงใยในเราเมื่อเฝ้าเที่ยว
พาลดเลี้ยวเกี่ยวก้อยคอยห่วงเสมอ
ปากชี้แจงแถลงไขสิ่งได้เจอ
จนละเมอเผลอว่าข้าหนุ่มฉกรรจ์

       แม่ดอกเอ๋ยดอกสร้อยพลอยระยิบ
อยากกระซิบฝากรักประจักษ์สวรรค์
เกรงฟ้าดินตราหน้าว่าคนธรรพ์
มิฉนั้นนำสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

       ซึ้งหอมกายระรินโชยกลิ่นเจ้า
หอมโรมเร้าเฝ้ามองต้องโศกซึ้ง
อกร้อนรุ่มกลุ้มใจยามได้ตรึง
อยากเคล้าคลึงน้องนางกลางกำพุช

       มาบัดนี้ต้องพรากจากเจ้าแล้ว
ให้โหยแผ่วแว่วสำเนียงเสียงใสสุด
กระซิบห่วงล่วงไปอย่าได้เร็วรุด
แล้วก็ฉุดประคองเราคอยเฝ้าไป.

     ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
5 กรกฎาคม 2549 21:52 น.

** ห้วงรัก...สลักจิต **

แก้วประเสริฐ


             ** ห้วงรัก...สลักจิต **

        รักเพ้อฝันฉันเพ้อละเมอหา
   แก้วกานดาสวยสดงดงามเหลือ
   ยามจะนอนผ่อนพักยากจุนเจือ
   สิ่งที่เอื้อเหลือไว้เพียงสายลม

        มาบัดนี้ตามฝันอันเจิดจ้า
    สิ่งที่มาเพียงเงายากเฝ้าข่ม
    ปวงดวงใจใยรักมิอาจชม
    ฝากเป็นปมยากสลัดพลัดจากใจ

      ทางวางไว้มลายสิ้นเสียแล้วหรือ
เฝ้ายึดถือประหวั่นพรั่นเหลือหลาย
ย้อนสู่ทรวงล้วนวุ่นหมุนใจกาย
ห้วงภายในร้าวรอนตอนพรากจร

     ซึมเศร้าซ่านผ่านวนจนพร่ำเพ้อ
เฝ้าละเมอคืนวันนั้นหลอกหลอน
ด้วยสิ่งรักฝากไว้ใยตัดรอน
พลิกสะท้อนป่วนปั่นพรั่นฤดี

     หวนถึงสิ่งอิงสลักประจักษ์จิต
ย้อนความคิดผูกพันอันเกษมศรี
ราบรื่นรสจรดหวานซ่านเปรมปรีดิ์
ฝากวจีใจรักมั่นคำสัญญา

     ห้วงรักนี้ประทับไว้ในชีวิต
สลักจิตคิดฝากรักเสน่หา
บัดนี้หนอรอเจ้าเฝ้ากานดา
คอยเวลามาอยู่คู่นิจนิรันดร

     ***   แก้วประเสริฐ. ***
				
4 กรกฎาคม 2549 11:44 น.

*** ดินแดนราบสูง ***

แก้วประเสริฐ


                ดินแดนราบสูง

       ..๏ใกล้แล้วหนอรอวันนั้นแจ่มจ้า
ที่จะพาร่างชรามาเริงร่า
กับนางฟ้าเทพบุตรสุดคุ้นเคย

       เจ็ดกรกฎามาถึงซึ่งตื่นเต้น
แม่เนื้อเย็นเด่นสกาวเจ้าข้าเอ๋ย
เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจแผ่ซ่านเปรย
ล้วนเฉลยถึงงานอันสร้างบุญ

       สองทุ่มตรงคงเลื่อนเคลื่อนจากที่
อนุสาวรีย์มีชัยให้เกื้อหนุน
พหลโยธินถิ่นนายกส่งค้ำจุน
พระพิรุณคงไม่ทำให้ช้ำใจ

       ถึงย่าโมหยุดพักสักการะท่าน
ย้อนถึงวันหญิงไทยใบหน้าใส
ปราบอนุวงศ์หลงเสน่ห์แม่ยาใจ
สิ้นวอดวายในทัพกลับวังเวียง

       ผ่านประตูอีสานพลันหลับใหล
รถตู้ใส่เกียร์สูงพุ่งสุดเสียง
เลาะเลี้ยวลดคดเคี้ยวตามแนวเอียง
เพื่อหลบเลี่ยงภัยพิบัติจัดปลอดภัย

       รุ่งอรุณพูนสวัสดิ์พิพัฒน์ผล
จรดลถึงศรีษะเกษเนตรมากหลาย
ยืนมองจ้องสนองบุญอยู่เรียงราย
เหล่าหญิงชายให้สดชื่นฟื้นฤดี

       ครูใหญ่เล็กบัวกันต์รีบสรรค์สร้าง
แนะแนวทางวางไว้ให้สุขศรี
เหล่านักบุญหนุนเกื้อเอื้อไมตรี
สุขเกษมศรีรอยยิ้มอันพริ้มพราย

       พอเสร็จสรรพกลับไปดินแดนเขมร
แม่เนื้อเย็นคงดำขำเหลือหลาย
ช่องสะงำนำสิ่งของเรียงราย
เพื่อจะขายคนเที่ยวเหนี่ยวใจจำ

       แล้ววกกลับมาทางวัดล้านขวด
ดูสิ่งอวดด้วยขวดอวดสิ่งล้ำ
ประตูโบสถ์วิหารนั้นเพียรทำ
พร้อมด้วยคำลำนำที่นำมา

       เหนื่อยกายคลายเมื่อยสู่พนมดงรัก
เพื่อเข้าพักอนุรักษ์พันธุ์สัตว์จัดหา
เล่นน้ำตกเปล่าเปลือยไม่นำพา
คอยเวลาระบำตองต้องแสงจันทร์

       พอรุ่งสางกลางเขาเฝ้าเจื่อยแจ้ว
ขอลาแล้วนวลจันทร์อันเสกสรร
สู่เขาพระวิหารอันจาบัลย์
คนไทยนั้นเสียไปในการรบ

       ตะวันคล้อยบ่ายได้เวลามาสองสี
แม่น้ำที่มูลครามมาบรรจบ
เหมือนไทยแยกแตกเป็นลาวมาพบ
เนาเลือนลบเชื้อชาติขาดเป็นไท

       พอพลบค่ำนำมาศาลาริมโขง
เฝ้าเกาะโยงโขงเจียมเหลี่ยมสดใส
สู่ร้องรำทำเพลงกาพย์กลอนวิไล
คอยเพื่อไปช่องเม็กเฉกอารมณ์

       อรุณรุ่งพุ่งสู่ชาวเพื่อนลาวน้อง
เสนาะซ้องร้องขายให้แซดสม
แต่ระวังพลั้งเผลอจะไม่ภิรมย์
จะเศร้าตรมขมขื่นของพังภินท์

       ได้เวลาพาไปเมืองอุบลราช
มิอาจคลาดแห่เทียนเปลี่ยนถวิล
สุดตระการผ่านฟ้ามาเมืองอินทร์
วับแววยินแซ่ซ้องก้องกังวาน

       ครั้นใกล้ค่ำนำไปให้ซื้อของ
เพื่อฝากน้องพี่แม่พ่อพอสนาน
นอนในรถหมดกังวลอันโอฬาร
พอตื่นพลันอนุสาวรีย์ที่มีชัยเอย.๚ะ๛

          *** แก้วประเสริฐ. ***
        วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๔๙
                   ๑๑.๕๐ น.
				
3 กรกฎาคม 2549 11:44 น.

** ห้วงคำนึง **

แก้วประเสริฐ


                     ห้วงคำนึง

       อรุณรุ่งระวีสีแสงอ่อนแดงเรื่อ
สีทองเจือเกล็ดมณีฉวีหลากสาย
วับวาวพร่างข้างแนวแถวเรียงราย
แสงสดพรายไม้ไหวยามลมโชย

       กระจ่างไว้ในทางระหว่างพิศ
กลางดวงจิตคิดคำนึงถึงสิ่งโหย
สิ่งเคล้าคู่ข้างเคียงเยี่ยงหมอกโปรย
ช่างล่วงโรยหายวับนับจากลา

       แสงสีทองจ้าเจิดบังเกิดช่วง
ดุจคล้ายบ่วงห้วงมัดรัดรึงหา
พิศวาสคลาดแคล้วแนวลับตา
ใยไม่มาเคียงเฝ้าเศร้ารัญจวน

       พลิกใจจิตติดซ่านพล่านในอก
แสนวิตกหมกมุ่นใจกรุ่นหวน
สิ่งทั้งหลายพร่างพรายให้เย้ายวน
แม่เนื้อนวลชวนเฉลยเคยสัญญา

       บัดนี้หนอเหลือไว้เพียงในอุษา
ยากหวนมาพาใจใคร่เรียกหา
ถึงนวลน้องปองคำนึงถึงแก้วตา
คอยเวลานางฟ้าจะมาโปรย.

        ***   แก้วประเสริฐ.   ***				
29 มิถุนายน 2549 12:26 น.

** รักปักใจ **

แก้วประเสริฐ


                    รักปักใจ

       สะท้านห้วงดวงจิตคิดสำนึก
หวนรำลึกถึงครั้งยังหวานฉ่ำ
ภาพในมือสั่นไหวฝังใจจำ
อดีตทำย้ำเตือนช่วงเลือนราง

       เหตุการณ์นั้นผ่านไปจากวัยรัก
น้อยใจนักฝากลงตรงฟ้าสาง
เสมือนประชดปิดบังครั้งอำพราง
อรุณสว่างหนีร้างจากนางจร

     ภาพที่ส่งตรงมาพาใจเศร้า
แสนปวดร้าวเฝ้าคำนึงถึงอัปสร
เด็กหน้ารักพักตร์พริ้มปริ่มบังอร
สวยอรชรอ่อนไหวคล้ายตัวเรา

       อักษราแจ้งไว้ใช่ใครอื่น
สิ่งรักคืนฝากให้จากใจเขลา
หลงเชื่อคำเพื่อนยาปัญญาเบา
แต่นางเฝ้าคอยวันตัวฉันมา

       จะทำไฉนใจเราเสียแล้วเอ๋ย
สิ่งที่เคยฝากไว้ให้ห่วงหา
นี่ก็เขาโน่นก็เจ้าเฝ้าโรยลา
ช่างพะว้าให้พะวงยากปลงใจ

       อนาถแท้บุรุษชาติประหลาดนัก
โอ้ลูกรักเมียจ๋าข้าทำไฉน
เป็นบาปกรรมนำสร้างหรืออย่างไร
รบเร้าให้ผูกพันนั้นคอยคืน

       นั่นก็ลูกนี่เมียเพลียใจเหลือ
สุดจะเกื้อเอื้อไว้ให้ราบรื่น
จะฝืนชีวิตปิดชะตามาพลิกฟื้น
กลัวคนอื่นตราหน้าว่าสิ้นชาย

       นี่แหละหนอเพื่อนชายทั้งหลายเอ๋ย
บทเรียนเคยสร้างไว้คล้ายไม่สาย
ต้องวนเวียนเพียรทำแทบช้ำตาย
จะทำไฉนบอกด้วยช่วยค้ำจุน.

    ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ