25 กรกฎาคม 2550 16:28 น.
แก้วประเสริฐ
** กลิ่นนางชวน **
สายลมแผ่วพลิ้วหวนรัญจวนจิต
ยามยลพิศวรางคณายุพาสวรรค์
เอิบเอมอิ่มยิ้มนวลล้วนลาวัณย์
ทั่วสรรพางค์ส่งกลิ่นเย้ารินยวน
น้ำไหลลงผ่านหินรินไหลเซาะ
เหมือนดั่งเยาะตัวข้ามาเฝ้าหวน
เหลือบแลจ้องนัยน์นามิกล้าชวน
อกสั่นครวญพร่ำเพ้อละเมอปอง
หอมระรินกลิ่นผกาสุดารัตน์
วิจิตรมัดหัวใจอยากใคร่สนอง
โอ้อัปลักษณ์เช่นเราเฝ้าใยยอง
ดุจไก่จ้องเพชรงามยามพบเชย
พลิ้วละอองฟองน้ำพลันฟุ้งซ่าน
แสงตะวันทอทาบฉาบเปิดเผย
วิจิตรพราวเสน่หายากมาเปรย
สิ่งที่เคยหาเปรียบไร้เทียบทาน
ดอกไม้ป่าไหลล่องใยยองร่าง
วนเวียนกลางธาราวนาไพศาล
กลิ่นเคล้าหอมนำมาฟ้าเบิกบาน
ดุจดั่งสวรรค์ส่งมากลางวาริน
ช่างเป็นบุญหนุนเมื่อเอื้อพานพบ
งามบรรจบเลอเลิศประเสริฐสินธุ์
กลางกระแสผกาหอมย้อมโรยริน
สร้างชีวินมิโดดเดี่ยวเปลี่ยวฤทัย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
21 กรกฎาคม 2550 14:02 น.
แก้วประเสริฐ
** โศกรัญจวน **
โศกสิ่งใดมิเท่ารักเราโศก
รุ่มร้อนอกดังลมถล่มทลาย
ใจถูกหักอยู่เดียวเปลี่ยวฤทัย
สิ่งภายในวิปโยคเฝ้าโศกครวญ
เคยแอบอิงพิงไว้ ณ ฟากฟ้า
โอ้ดาราจันทร์ฉายยังได้หวน
สายน้ำไหลริมฝั่งคลั่งรัญจวน
ดุจโซ่ตรวนผูกมัดรัดตราตรึง
แสนมั่นห่วงดวงใจเธอเสมอ
ให้พร่ำเพ้อหวนหามาคิดถึง
ดั่งไม้ไหวพลิ้วสั่นครั้นรำพึง
ช่างโศกซึ้งฤทัยคล้ายแรมลา
หัวใจป่วนสุดซึ้งคำนึงฝัน
โถทิ้งฉันจึงพร่ำคร่ำครวญหา
จันทร์แรมน้อยแลลับนับโรยลา
ดั้นด้นหาหมองเศร้าเคล้าอารมณ์
เธอหนีลับจากไปไม่กลับหวน
วาวแวววับล้วนชื่นให้ขื่นขม
เฝ้าพะนอปลอบใจมิให้ตรม
ดั่งสายลมคลุ้มคลั่งยังหวังรอ
ฝากความหวานผ่านไว้ในชีวิต
หวนพึงคิดเรียกร้องหวังปองขอ
กลิ่นดอกโศกไกลต้นมิพ้นคลอ
แสนเฝ้ารอเสน่หามวลอาลัย
เหลือบมองฟ้าคราใดฤทัยเฉา
ใจเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวเสี้ยวไฉน
ทุกสิ่งเงียบเหมือนเตือนเฉือนความนัย
เงาโศกไซร้ซอกซอนซ่อนน้ำตา
รัญจวนโศกกลับสวนชวนถวิล
หมดกลิ่นสิ้นเหลือเงาเฝ้าหวนหา
แม้แต่ฟ้ายังหมองต้องรอนลา
อนิจจาตามองจ้องเฝ้ารอคอย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
18 กรกฎาคม 2550 15:39 น.
แก้วประเสริฐ
*** กงกรรมกงเกวียน ***
มนุษย์ฉวัดเฉวียนแปรเปลี่ยนผัน
วกวนกันคละคลุ้งการปรุงแต่ง
เสริมสิ่งสร้างวางไว้เปรียบจำแลง
ล้วนแอบแฝงเติมแต่งทุกแห่งไป
หมุนภายนอกหลอกไว้งดงามสง่า
ดวงใจพร่าฟุ้งซ่านรานสดใส
ก่อในสิ่งวนแอบแนบไฉไล
สิ่งภายในรุ่มร้อนย้อนอารมณ์
มัวสร้างเหตุลืมผลจึงจนจิต
เกิดวิปริตหมุนหันพลันขื่นขม
โทษานุเวรส่งซ่านผ่านภิรมย์
ไร้สร้างสมบ่มไว้ในธรรมบดี
ใจกำเริบเติบสานสู่ความหลง
มิอาจปลงส่งอยากมากเป็นศรี
เข้าเสริมเพิ่มเหิมแต่งพูนทับทวี
ล้วนเป็นที่ขัดข้องสนองกรรม
ดุจทางเกวียนเวียนคดจรดผา
ต้องวกมารอยเก่าเฝ้าเหหัน
มิรู้ทางดั้นด้นปะปนกัน
ยากจะผันทางใหม่ให้สราญ
ความไม่เที่ยงเวียนไปจนได้ทุกข์
มัวแต่คลุกสิ่งไว้ไร้แก่นสาร
ต้องวนเวียนเพียรกลับอีกชั่วกาล
ปรุงแต่งสรรค์มิหยุดต้องผุดเกิด
ดุจกงกรรมกงเกวียนเวรเวียนย่าง
แล้วก็สร้างเกิดดับประดับเชิด
ต้องรู้จิตเกิดดับนับประเสริฐ
หากให้เลิศหยุดแต่งแห่งจิตใจ.
*** แก้วประเสริฐ. ***
15 กรกฎาคม 2550 11:25 น.
แก้วประเสริฐ
*** ดุจอัญมณี ***
กุลสตรีเปรียบมณีที่ล้ำค่า
ยากไขว่คว้าดารามาส่องแสง
พราวระยิบประกายฉายแสดง
คิดจะแฝงหวังจับกลับลอยลา
ดุจเพชรฉายแวววาวขาวพิสุทธิ์
วาณีนุชประดุจมณีเมฆขลา
เพริศผ่องแพร้วแวววาวกิริยา
ยากสรรค์หาเคียงคู่สู่เชยชม
กัลยาณีมิอาจได้ทุกที่
บ่งบอกชี้กาลเวลามาสะสม
บ่มนิสัยเลอเลิศประเสริฐคม
ยามภิรมย์อ่อนน้อมย้อมใจคน
สวยอัปลักษณ์หาใช่ให้เป็นเหตุ
หากสังเกตเห็นได้ในทุกหน
มวลนารีนอบน้อมย่อมถ่อมตน
มิแสร้งปนเปื้อนเปรอะเลอะเลือนราง
อิริยาบถจรดคล้ายหงส์เหิร
งามเพลิดเพลินดุจฟ้าอุษาสาง
กลิ่นไออุ่นหนุนเกื้อเจือหอมจาง
สรรพางค์ดั่งดารายามราตรี
อัญมณีดั่งนี้มีที่ไหน
ท่องเที่ยวไปทั่วแคว้นทุกแดนศรี
หวังค้นหาดวงแก้วแพรวรวี
เฉิดฉวีมณีรัตน์มัดดวงฤทัย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
13 กรกฎาคม 2550 19:41 น.
แก้วประเสริฐ
*** เสน่ห์รัญจวน ***
ลมพัดเย้ายวนกลิ่นประทินหอม
โปรยสิ่งย้อมหมู่ภมรเร่ร่อนหา
ดอกมาลีสวยสดงดงามตา
หลงเสน่หาเกสรบั่นทอนใจ
แม้นดาวฤกษ์เบิกฟ้ายังมาล่วง
หวังพุ่มพวงนารีวจีเฉิดฉาย
อีกคนธรรพ์ครุฑพาผวาหทัย
เฝ้าคลั่งไคล้เวียนวนแด่คนงาม
ใต้วารีเพริศพรายประกายใส
ล้วนแหวกว่ายกุ้งปลามาสนาม
พ่นหยาดน้ำพร่ำไคล้สู่เขตคาม
ดุจดั่งย้ำงามสวยสดหมดฤดี
สวรรค์ระทึกผนึกไว้ในความกรุ่น
หอมละมุนพริ้งพราวมวลชาวฉวี
เลอเลิศลักษณ์สร้างลิขิตจิตทวี
สู่แดนนี้กอบกานต์อันรัญจวน
เทพวิจิตรคุณไทวิไลพักตร์
ฤทธิ์ประจักษ์มนตราลัดดาหวน
ล้วนเสน่หามารศรีแนบชี้ชวน
จนปั่นป่วนฤดีสร้างระหว่างกัน
มวลภมรร่อนเร่เซกำสรวล
กลิ่นเย้ายวนล้วนหายไร้เสกสรร
ความคิดอ่านทรงไว้ในวันวาร
สุดซาบซ่านโดดเดี่ยวเฝ้าเดียวดาย.
*** แก้วประเสริฐ. ***