23 มกราคม 2551 12:59 น.

** เหมันต์สวาท **

แก้วประเสริฐ


       **  เหมันต์สวาท  **

     เมฆาพลิ้วปลิวไปในอัมพร
สิ่งยอกย้อนวกกลับนับโหยหวน
หมอกเจือจางผ่านพฤกษ์รำลึกชวน
รักช่างป่วนบนดอยคล้อยเลือนราง

     หนาวสะท้านผ่านวิเวกดุจเฉกร้าง
ความอ้างว้างคืนสู่คู่ฟ้าสาง
รำลึกหวนชวนเคล้าเย้าหมอกจาง
พร่างน้ำค้างพรมไม้ใกล้โบยบิน

     แสงสีทองส่องประกายใฝ่เร้าจิต
หวนความคิดเคียงครองปองถวิล
น้ำเสียงย่ำเคล้าชวนล้วนกวิน
คงสวาทสิ้นสู่ไว้ฤทัยอาวรณ์

     ครั้นหวนกลับสู่ดอยเพียงคอยรัก
หวนประจักษ์คงอยู่สู่หลอกหลอน
ถึงความหลังครั้งตรึกรำลึกคลอน
เสียงคำอ้อนย้อนสัญญาฝ่าเยือกเย็น

     แม้นจะสิ้นเหมันต์แต่กาลเปลี่ยน
สวาทยังเวียนสู่พรากยากจะเห็น
โถอกเอ๋ยเฉลยรักไว้ให้ลำเค็ญ
หนาวเยือกเย็นมองนภาฟ้าละออง

     หมอกไล่เลี่ยพฤกษาดูดารดาษ
ช่อผกามาศเปล่งสีแสงแฝงสนอง
แดงเหลืองแสดแฝดชมพูขาวปอง
น้ำค้างครองหวนนึกตรึกนวลนาง

     โอบเคียงกอดเล้าโลมโฉมช่อพฤกษ์
สิ่งรำลึกกลับย้อนตอนฟ้าสาง
แย้มยิ้มหยอกล้อเล่นเด่นริมทาง
บัดนี้สร้างเหลือฝันสู่พรรณราย

     เหมันต์สิ้นจิตเทวษเหลือเศษรัก
คงประจักษ์ดอยสวาทที่พลาดหมาย
ฝากความจำย้ำหทัยมิอาจคลาย
คงเดียวดายไร้สาวเจ้าของดอย.

     ***     แก้วประเสริฐ.   ***
				
22 มกราคม 2551 14:20 น.

** ไก่แก้วจ๋า **

แก้วประเสริฐ


              **  ไก่แก้วจ๋า  **

     วิเวกแผ่วสำเนียงแว่วเสียงหวาน
ทรวงสะท้านรำพึงใฝ่ตรึงหา
เจื่อนแจ้วซึ้งตรึงล่วงห้วงอุรา
สิเน่หาออดอ้อนพรอดรำพัน

     ขาวเนื้อนวลชวนพร่างดุจจ่างฟ้า
แม้นดารายังอายรีบคลายฝัน
ปทุมมาศยวนเย้าคลึงเคล้ากัน
อเนกอนันต์หิมะยากจะเทียม

     เพียงฟังกล่อมมธุรสปรากฏซึ้ง
แสนตราตรึงหฤทัยใยจึงเหนียม
ออกจากโอษฐ์โลดเร้าเคล้าใจเรียม
ยังยอดเยี่ยมดุจสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    ช่างตรึงห้วงดวงจิตยิ่งคิดหวน
สิ่งรัญจวนใฝ่ฝันพลันป่วนถึง
ปานอัปสรเฉลยไว้ให้คำนึง
ใคร่รำพึงนวลน้องผู้ครองใจ

     แจ้วเพรียกเรียกอยู่คู่ดวงจิต
สวรรค์สถิตย์เสน่หามาหลงใหล
งามพริ้งพรายไป่ราคีฉวีวิไล
พิศลูบไล้เพลินสนิทติดวิญญาณ์

     เสียงจ๊ะจ้าไก่แก้วเพริศแพร้วจาก
ครุฑมาพรากเสียสนิทคิดค้นหา
นึกเสน่หาน้องน้อยเศร้าสร้อยอุรา
ยากไขว่มาสู่สวรรค์อันรัญจวน

     สำเนียงซ่านผ่านแว่วแจ้วเจ้าเอ๋ย
ขาวที่เคยโอบเร้าเฝ้าแสนหวน
บัดนี้หนอมาพรากจากสิ่งชวน
โอ้เนื้อนวลแสนช้ำระกำฤทัย

     ไก่แก้วจ๋าความหวังที่ฝังหวน
เจ้าปั่นป่วนวิมานผ่านอาศัย
หรือเลอเลิศต่อสิ่งที่อิงวิไล
ลืมแล้วไรรักเก่าเฝ้าคร่ำครวญ.

     ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
20 มกราคม 2551 17:29 น.

** รักสิ้นจาง. **

แก้วประเสริฐ


              **  รักสิ้นจาง  **

     โอ้ความรักครั้งแรกใยแตกสอง
มิอาจสนองครองไว้จนหมดสิ้น
ประหนึ่งตรึงหทัยเปลี่ยนไร้จินต์
ใฝ่เคยถวิลล่องลอยคล้อยสายลม

     ยากจะหวนทวนกลับสิ้นแล้วหนอ
สิ่งยืดขอสัญญามาเปลี่ยนขม
ด้วยอัปลักษณ์ใบหน้ามิกล้าชม
ยากภิรมย์ชมชื่นเหมือนอื่นชาย

     คำพูดเจ้าคราวก่อนใยอ้อนออด
หวานคำหยอดมิคิดจิตกลับหลาย
สรรค์สร้างช้ำน้ำใจแสนวอดวาย
วกเวียนคล้ายสายน้ำล้นฝั่งครอง

     จะเหลือรักอันใดใฝ่แล้วเอ๋ย
ถูกละเลยรูปลักษณ์มักมาสนอง
ความยากไร้เป็นเหตุเจตนาปอง
เหลือทำนองประจักษ์ฝากห้วงใจ

     สิ่งเหลือไว้ดุจเงาใจเศร้าสร้อย
ดุจเดือนคล้ายแลลับนับหวนไห้
ตะวันคล้อยหมดแสงแฝงวิไล
ดาวสิ้นไร้ทางเดินมิเพลินนภา

     ฝากชีวันขวัญชีวาที่มาเลิศ
จะชูเชิดดุจชายทั้งหลายหา
แม้นรูปชั่วตัวดำมินำพา
ใฝ่ค้นคว้าเพื่ออยู่สู้ชีวิต

     แม้นมิลืมสิ่งรักประจักษ์แรก
อันซึมแทรกสู่ห้วงดวงลิขิต
ถึงซาบซ่านผ่านไว้ยากใคร่สนิท
แปรเปลี่ยนจิตสู่ไว้คล้ายลิดรอน

     อันอัปลักษณ์มิงามเด่นล้ำพักตร์
จะภักดีรักไว้อย่าได้หลอน
หัวใจน้อยมอบไว้ไม่ขาดตอน
ไม่แคลนคลอนมอบอยู่แต่ผู้เดียว.

      ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
18 มกราคม 2551 13:37 น.

** สาวบ้านนา **

แก้วประเสริฐ


         **   สาวบ้านนา  **

     ทุ่งพลิ้วไสวใยร้างกลางสิ่งโศก
ข้าวไหวโยกเอนเอียงเคียงสนอง
ยิ้มให้กันเก็บเกี่ยวเคียวประคอง
มือน้อยน้องตาตวัดคล้ายรัดใจ

     บัดนี้หนอทุ่งร้างกลางฝุ่นตลบ
ยากจะพบความหวังครั้งสดใส
ได้แต่ยืนเฝ้ามองหมองอาลัย
ใยเลือนหายมิเห็นเช่นดังเดิม

     หน้าหนาวแล้วเดือนนี้ที่เก็บเกี่ยว
ปลายรวงเคียวหายลับมินับเสริม
เหลือแต่เพียงมือเดียวเกี่ยวใยเติม
จิตที่เหิมหม่นหมองครองระทม

     เจ้าทุยน้อยร้องก้องสนองเรียก
มันพร่ำเพรียกมองไปคงใจขม
เหมือนใจข้าฝากปองต้องระบม
แม้นอกตรมเกี่ยวเก็บเจ็บทั้งทรวง

     ดั่งสายยวงฝนมาพาโปรยผ่าน
วิลาวัลย์หนีหายทำให้ห่วง
จนเป็นบ่วงหยาดน้ำย้ำทั้งปวง
อกช่างล่วงคิดคะนึงถึงสาวนา

     บัดนี้เล่าเจ้าทุยของข้าเอ๋ย
เหลือบยุงเคยโฉบตวัดคนจัดหา
ต่างทนทุกข์ทรมานรานอุรา
ยากจะมาสุขโขโธ่เวรกรรม

     เหลือแต่เจ้าทุ่งนาที่ข้าฝาก
ไม่เว้นจากพังผุประทุขนำ
ซากยังเหลือฝากไว้ให้จดจำ
เคยยิ้มขำย้ำหมายคลายกังวล

     หลายพรรษาล่วงแล้วที่แคล้วจาก
เธอได้พรากมิหวนล้วนสับสน
ทิ้งความโศกโยกย้ำช้ำเหลือทน
แหล่งนาพ้นสาวนาข้าหวังคอย.

        ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
17 มกราคม 2551 21:59 น.

** เกศินี (โคลงเคลง) **

แก้วประเสริฐ


                      **  เกศินี  **

  ๏ เกศางามหยาดย้อย             พรรณราย
ดุจหนึ่งนิลประกาย                    เจิดจ้า
นวลยลเพ่งพิศพราย                  แลแม่   จริงนา
อกพี่แทบอ่อนล้า                       จากฟ้าฤาสรวง ฯ
   ๏ วาบหวิวไหวสั่นพลิ้ว            ลอยลม
หญิงอื่นไป่บ่ชม                        แม่นแท้
หอมรวยกลิ่นภิรมย์                   ล้วนสิ่ง   ยวนแฮ
ซาบซ่านจิตใจแม้                     ใฝ่ซึ้งพิศวง  ฯ
   ๏ หอมเอยยามเพ่งน้อง          ยุพดี
สิเน่หาชาตรี                             กลิ่นแย้ม
รวยรินรอบฤดี                           หลงใฝ่   ปองเฮย
เย้ยหยาดแม้กายแก้ม               ซาบซึ้งตรึงถวิล  ฯ
   ๏ บุบผายังหลีกลี้                    นวลอนงค์
ช่อพฤกษ์แรกแย้มคง                ไป่สู้
ล้วนหลบหลีกพะวง                    มิเท่า   นางแม่
ยากยิ่งจะลอบกู้                         สู่ไว้เคียงสนอง  ฯ
   ๏ อกเอ๋ยเคยผ่านแล้ว             เทวี
ล้วนต่างสยบฤดี                         ต่อข้า
มาเกิดก่อชีวี                              เศร้าแก่  ใจแฮ
คงแต่ความอ่อนล้า                      โศกซึ้งรัญจวน  ฯ
   ๏ เกศินีพี่แพ้                           นวลนาง  แน่เอย
แม้กลิ่นกายรอบวาง                     บ่สู้
ขอเพียงฝากรอยจาง                    ฝังสู่   ใจแม่
จิตพี่ไป่รอบรู้                               แน่งน้องครองสรวง.๚ะ๛

                         ***   แก้วประเสริฐ.  *** 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ