29 มิถุนายน 2551 13:22 น.
แก้วประเสริฐ
*** รำพึงคะนึงนาง ***
ดึกแล้วหนอสำเนียงเคียงเจื่อนแจ้ว
กลีบดอกแก้วน้ำค้างหยดรดสมาน
การะเวกครวญคร่ำล้ำเนิ่นนาน
กาลแห่งวารฝันคนึงคิดถึงนาง
ดอกพุดสล้างต่อสิ่งยังอิงไว้
หอมซึ้งใจซ่านวจีมิรู้สร่าง
วางสิ่งน้องแนบชิดติดทรวงกลาง
ห้วงจิตพลางใฝ่คนึงรำพึงครวญ
แทนไออุ่นหนุนวางวิวัฒน์อ่อน
สุดสะท้อนดวงฤทัยให้กำสรวล
แม้นเพียงเงาแต่เฝ้าเคล้าคลอยวน
แสนปั่นป่วนความฝันสุดครรลอง
ดึกแล้วหนอขอนิทราอ่อนล้าจิต
ห้วงใจคิดผ่านวิจิตรคิดหมายสอง
ผันวันใหม่อีกครั้งพลังละออง
แม่เนื้อทองฝากไว้คล้ายเพียงเงา
ในความฝันเริงสราญสะท้านแข
แม้นดวงแดสู่ห้วงล่วงความเขลา
ความสล้างกลางจันทรามาขัดเกลา
แต่สิ่งเสลาพาดคนึงตรึงแสงนวล
ดุจดั่งเทพอัปสรร่อนเริงร่า
ต่างใฝ่หาอภิรมย์ดอมดมสรวล
ท่ามมโหรีสานเสนาะไพเราะยวน
ความเย้าชวนดอกพุดสุดอาวรณ์
ขาวสล้างอบอวลป่วนพฤกษา
อวลระดาเย้ยแขแม้สิงขร
ยังระทวยหวั่นไหวคล้ายแง่งอน
ลมพัดขจรขจายฟุ้งจรุงฤทัย
ระบำสรวงล่วงไว้ใกล้อุษา
กลิ่นย้อมมาสิ่งนิทราอันสดใส
หอมเอยหอมย้อมไว้ภายในใจ
มิอาจไว้เนิ่นนานผ่านวิญญาณ
อยากมิตื่นฟื้นมาโอ้นิจาเอ๋ย
หวานชื่นเชยสถิตไว้ใจประสาน
ล้วนรำพึงคิดถึงนางสร้างสราญ
ช่างรอนราญสุขสันต์พลันจืดจาง
อุษาแสงตะวันอันบรรเจิด
แม้นจะเลิศสว่างไว้ใจมิห่าง
คงเหลือสิ่งในฝันมิวันวาง
สรรค์กระจ่างสร้างคู่สู่ดวงใจ.
*** แก้วประเสริฐ. ***
28 มิถุนายน 2551 18:20 น.
แก้วประเสริฐ
*** กุหลาบน้อย **
เฝ้าชมสวนมวลพฤกษาดารดาษ
คลุ้งเคล้าพาดสล้างระหว่างถวิล
อบอวลหอมเย้ายวนหวนสู่จินต์
สถิตย์ประวีณผกามากลั่นกรอง
ช่างแยกแยะกลีบอ่อนยอกย้อนนัก
ถนอมสิ่งรักเกสรละอองสนอง
ทั้งอบอวลหอมกลิ่นระรินปอง
เป็นที่ต้องหมู่ภมรย้อนเคียงเคล้า
มากหลายสีกุหลาบอาบสิ่งฝัน
นึกถึงวันเด็ดดมภิรมย์เสลา
หวนคำนึงถึงรักมักพริ้มเพรา
หวานชมเฉลาตรึกซึ้งตลึงแล
มาดแม้นมิหักดมภิรมย์กลิ่น
มากถวิลจากสวนล้วนเผื่อแผ่
แก่มวลพฤกษ์ชูไสวในดวงแด
ก็ไม่แปรเปลี่ยนผันอันสิ่งกันย์
ล้วนอบอวลหวนพิศจิตสล้าง
สู่ท่ามกลางพฤกษาคราเสกสันต์
ย่อมสุดสิ้นการสลายในฉับพลัน
อเนกอนันต์คุณค่าครามาภิรมย์
หากก่อเกิดสิ่งรักสมัครสมาน
เพื่อประสานสิ่งปองครองสู่สม
กุหลาบน้อยร้อยฝันสรรค์อารมณ์
ย่อมได้ชมเสมอกาลผ่านล่วงหลุด
เปรียบดั่งรักหักไว้คล้ายบุบผา
แม้นได้มาเฝ้าถนอมย่อมยากสุด
ย่อมมีวันผันเปลี่ยนเวียนย้อนยุด
แม้นยากฉุดสู่ไว้ในครอบครอง
ในครานี้มิกล้ามาผลาญเจ้า
จะโลมเล้าแค่ชมดมสิ่งสนอง
ดุจแสนรักฝากไว้ไร้ครรลอง
มิสิ้นปองหมู่ภมรร่อนเชยชม
ใฝ่คำนึงหวนตรึกมานึกผ่าน
แต่ละวารหมุนเคล้าเร้าเสพย์สม
บ้างห่อเหี่ยวบานผลิตผ่านสิ่งดม
ลิดรอนขมสะท้านผ่านห้วงจินต์.
*** แก้วประเสริฐ. ***
27 มิถุนายน 2551 16:26 น.
แก้วประเสริฐ
*** สุดไขว่คว้า ***
เดือนสล้างจ่างฟ้าเวหาภาสน์
งามดารดาษดาราพาเฉิดโฉม
ระยิบส่องคล้องไว้ในแสงโคม
หวังประโลมเคียงคู่สู่ห้วงหทัย
ประกายงามแพรวพราวริมเคล้าฝั่ง
สำเนียงดังระทึกตรึกสิ่งสลาย
วิเวกแว่วไพรสณฑ์ปนสู่มลาย
ระยับพรายหวังโน้มชมสราญ
ด้วยสั่นชีวันขวัญชีวามาสถิตย์
ภาพนฤมิตภายในไม่ประสาน
ก่อปัญหายากไร้คล้ายประจาน
ยากสมานรอยร้าวดั่งดาวเดือน
จะเอื้อนเอ่ยบอกคำนำสู่สล้าง
ปิดสิ่งขวางกำแพงแฝงมาเฉือน
สิ่งความหลังครั้งเก่าเฝ้ามาเยือน
รอยแปดเปื้อนฤทัยหวั่นใฝ่ปอง
งามวงพักตร์ลักขณามาถวิล
สุดแสนปลิ้นสิ่งหวังครั้งสนอง
ละอองคลื่นเหมือนใจไม่ใยยอง
นวลขาวผ่องสิ้นลับหวนกลับมา
อนิจจาโหยหวนป่วนใจแผ้ว
เคยเจื่อนแจ้วเสนาะไพเราะหา
แม้นแสงนวลยวนเย้าเฝ้านำพา
ฝันวิวาห์แปรปรวนล้วนยากคืน
หยาดน้ำรินสะพรั่งทั้งทรวงอก
แสนวิตกความหลังสร้างข่มขืน
ความสล้างเรืองรองครองยั่งยืน
สุดที่ฝืนความรำพึงคำนึงครวญ
บัดนี้หนออ้างว้างสร้างสิ่งโศก
พลันวิปโยคฝากไว้ให้กำสรวล
งามแสงเดือนดาวคลื่นระรื่นชวน
เหมือนจะหวนไขว่คว้าพนิดางาม.
*** แก้วประเสริฐ. ***
26 มิถุนายน 2551 15:12 น.
แก้วประเสริฐ
*** ไทยบ้านกลอนคนเมิน ***
คิดอยากเป็นนักรักก็ชักแย่
ส่งเถ้าแก่ไม่ตกลงหลงขอ
เหตุเพศชายแก่ชราขาเป๋งอ
รูปซอมซ่อยากไร้คล้ายขอทาน
ตัวต่ำเตี้ยม่อต้อแถมคอสั้น
น้ำหนักนั้นร้อยกว่าน่าสงสาร
ผ่านเมียมาหนีหายให้ทรมาน
เมื่ออ่านงานฝันใฝ่ให้พิจารณา
จุดประสงค์มีให้ไว้เผาผี
จะชั่วดีเงินตราหาปรารถนา
ขาเป๋เดินคนผ่านซ่านนัยน์ตา
เท่ห์จะหาฝากรักประจักษ์จริง
สัญชาติไทยใบเกิดทำหล่นหาย
สิ้นมลายเก็บผักปลาด้วยสวิง
หวังเงินทองมาหมั้นสั่นระวิง
แต่ยอดหญิงเมินห่างสร้างสั่นใจ
จะวางรักสักครั้งยังงกเอิ้น
มิล่วงเกินหญิงหายไม่สดใส
ฤาอัปลักษณ์ยิ่งนักทั้งนอกใน
จึงหนีไปดายเดียวเปลี่ยวอุรา
โอ้อกข้ามาคนึงพึงโหยหวน
แสนรัญจวนจริงนะจะมาหา
รูปหล่อเหลารำพันฝันนัยนา
ซ่านสิเน่หากายาใฝ่คร่ำครวญ
พยายามเดินจ้องและมองใบหน้า
รักหนักหนานัยนาพาร้องสรวล
เรานึกว่าเสน่หาใจให้รัญจวน
อกปั่นป่วนล้วนคนึงถึงกานดา
เลียบเคียงใกล้ใจจะขาดแล้วเอย
แม่ทรามเชยตวาดไว้ให้หมดหา
เหลือแต่สิ่งอิงไว้คล้ายน้ำตา
หวาดสิ่งมาไร้ฝันนั้นเลื่อนลอย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
24 มิถุนายน 2551 18:36 น.
แก้วประเสริฐ
*** ช่ออักษราลี ***
เกิดเป็นคนทนไว้ใจต้องสู้
ความรอบรู้บางสิ่งอิงอิจฉา
หากทำดีมีไว้คล้ายมนตรา
สิเน่หาพิสูจน์ข้อเท็จจริง
พุทธองค์ทรงไว้ในพิสุทธิ์
ค้นปลดทุกข์ยังมีมารผลาญสิง
ทั้งล่อหลอกลวงเล่ห์ชายหญิงอิง
เพื่อประวิงโพธิญาณผ่านปัญญา
การเล่นกลอนบ้านนี้มิมีเขต
เพาะสรรค์เจตจำนงคงรักษา
วรรณกรรมร้อยกรองสนองมา
หากใช่ว่าเก่งกาจพลาดทุกคน
ครูเองเล่าเฝ้าเพียรเรียนศึกษา
ด้อยปัญญาน้อยนิดคิดสับสน
สร้างจิตสู้เสาะหาฝ่าอดทน
ยังระคนเยาะเย้ยมิเอ่ยนาม
ความหวังดีแต่ใจช่างร้ายนัก
เพื่อเพียงจักยกตัวให้กลัวขาม
เพียรคนอื่นพบเห็นคำนิยาม
หวังจะหามหยามไว้ให้หนีจร
อันคนเก่งจริงแท้ที่แน่อยู่
อีกรอบรู้เกรียงไกรมิได้สลอน
จะอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ลิดรอน
ไม่ตัดตอนคนเขาเฝ้าเชยชม
ช่ออักษราลีศิษย์รักของครูเอ๋ย
ทิ้งละเลยหลงคำช้ำเสกสม
ให้คิดว่าผีหลอกตอกย้ำคม
เพาะขื่นขมหลายคำที่ซ้ำเติม
คิดว่าเราเล่นกลอนผ่อนชีวิต
หลอมดวงจิตจินตนามาส่งเสริม
สรรค์สนุกทุกข์วางสร้างเพิ่มเดิม
ทิ้งชั่วเริ่มผันเปลี่ยนเสี้ยนแห่งใจ.
*** แก้วประเสริฐ. ***