11 พฤศจิกายน 2551 13:33 น.
แก้วประเสริฐ
*** เวรกรรม ***
เวรคือเหตุผลคือกรรมนำผลิต
ความวิปริตปั่นป่วนล้วนสนอง
จากตัณหาครอบคิดเข้าจิตครอง
ป่วนครรลองฝันใคร่หมายใฝ่ทำ
เห็นรูปรสกลิ่นเสียงเพียงผัสสะ
ธรรมารมณ์จะบรรจงหลงถลำ
เหมือนพะวงคงไว้คล้ายเงื่อนงำ
หวังสร้างนำรสหวนยวนใจจินต์
สานเสนาะหวานซึ้งคำนึงแผ่ว
เป็นเหตุแล้วถวิลหวังจนพังสิ้น
เกิดผันผวนครอบไว้ไร้ประวีณ
ปัญญาวิ่นล้วนคลายให้อาวรณ์
หลงรูปลักษณ์ฝากไว้ในห้วงจิต
เงาความคิดเพียงได้ในสิ่งหลอน
กำเนิดโลภสิ่งหวังสร้างขั้นตอน
สิ่งอ้อนวอนจิตสลายมลายพลัน
หากผิดพลาดอาฆาตวาดสรรค์คิด
หมุนชีวิตกลับกลายขยายแปรผัน
เกิดโทสาเข้าครองครรลองอนันต์
พยาบาทสรรค์ส่งจิตหวังคิดครอง
อนัตตาสร้างมวลแต่งมักแฝงไว้
ซุกภายในซ่อนไว้ครั้นใส่สนอง
ผลการทำสิ่งสร้างกลางเรืองรอง
คิดใฝ่ปองสลายสิ้นจินต์กฎกรรม
มิอาจเลี่ยงหลีกเร้นเวรทำสร้าง
ดุจเงาพรางรอบวนมิพ้นหนาม
แหลมคมแทงหฤทัยในทุกยาม
ผลาญคุกคามความดีหนีจากจร
พึงสำเหนียกเหล่านี้แล้วตีจาก
มุ่งมั่นฝากธรรมจรัสประภัสสร
พิจารณาอายตนะไว้ในขั้นตอน
จงตัดรอนหมั่นสร้างทางปัญญา.
*** แก้วประเสริฐ. ***
3 พฤศจิกายน 2551 18:36 น.
แก้วประเสริฐ
*** เพ็ญเดือนสิบสอง ***
จะขอกล่าวเล่าขานตำนานเล่น
คืนเดือนเพ็ญสิบสองอันผ่องไสว
เจิดจรัสแสงนวลยองส่องอำไพ
สร้างวิไลสายธารอันหมายปอง
เจิ่งน้ำนองสองฝั่งสร้างเฉิดฉวี
ฉายอัญมณีระยิบกระพริบสนอง
ซ่านวิจิตรผ่านหล้าจากฟ้าครอง
นวลทั้งผองสั่นพลิ้ววาบหวิวตา
ปรุงแม่น้ำลำคลองทั่วท้องคุ้ง
บรรเจิดจรุงสีสันต์สร้างหรรษา
ธูปควันเทียนลอยล่องท้องธารา
มวลผกากระทงน้อยคลุ้งจรุงใจ
กุศโลบายเนิ่นนานผ่านกาลยิ่ง
เกริ่นทุกสิ่งวางบทจรดสดใส
เสริมแทรกนัยคุณละมุนละไม
หวังมุ่งให้รู้คุณหนุนความดี
ความหมายนี้วางไว้ในสี่อย่าง
โดยจัดวางหลายสิ่งอิงศักดิ์ศรี
เปรียบเปรยวางสร้างไว้ในวารี
ดุจดั่งมณีน้อมตรึกผนึกพระคุณ
ประการหนึ่งบูชาฝ่ารอยพุทธบาท
ยุรยาตรลอยถาดทองล่องหมุน
ณ ริมฝั่งเนรัญชรามาค้ำจุน
สร้างทางบุญตรัสรู้อาสวะธรรม
ประการสองบูชาพระแม่เจ้า
ทุกค่ำเช้าอาบกินจินต์ชื่นฉ่ำ
สายธาราคงคามาน้อมนำ
แทนคุณล้ำบูชาหาใดเทียม
ประการสามบูรพาจารย์นั้นกล่าว
เคราะห์ร้ายคราวสิงอยู่สู้อายเหนียม
ต่างเร้นหนีห่างหายด้วยไหม้เกรียม
แสงเทียนเปี่ยมควันธูปลูบไล้จร
ประการสี่เสี่ยงทายในความรัก
หวังประจักษ์พบสิ่งอิงสลอน
ลอยกระทงหวังคู่สู่ขั้นตอน
อธิษฐานวอนเคียงไปใช่แน่เลย
ในท่ามกลางเดือนเพ็ญเด่นสล้าง
ความกระจ่างชายหญิงยากยิ่งเฉลย
สำราญรื่นชื่นหทัยไร้เปรียบเปรย
สุดแสนเสบยหยอกเย้าเคล้าราตรี.
*** แก้วประเสริฐ. ***
29 ตุลาคม 2551 13:07 น.
แก้วประเสริฐ
** เพ็ญกระจ่างฟ้า **
บุหลันเลื่อนดาวคล้อยลอยเวหาส
นภาพิลาสสุดผ่องละอองใส
คีตกวีบรรเลงซึ้งสุดตรึงใจ
เฉิดไฉไลคำนึงรำพึงนาง
หวนย้อนกลับวันวานที่ผ่านพ้น
พิศนฤมลหลับตายามฟ้าสาง
กลิ่นกายหอมยิ่งนักมิจักวาง
เย็นสล้างน้ำค้างหยาดพิลาสนวล
เพ็ญราตรีค่ำนี้ยากมีแล้ว
หวานเจื่อนแจ้วไพเราะเสนาะสรวล
สำเนียงถ้อยจำนรรจ์ยากสรรค์ชวน
ระริกป่วนหวนคนึงแสนตรึงฤดี
มีแต่เสียงลมผ่านสุดซ่านจิต
คำนึงคิดครั้งใดอยากใกล้ฉวี
เหลือพฤกษาสอดไว้คล้ายดนตรี
หรีดหริ่งที่ขับกล่อมเพื่อย้อมใจ
ราตรีหนอเพ็ญสล้างกระจ่างไว้
ความวิไลในอดีตเข้ากรีดไฉน
แม้นจะงามจันทร์สล้างกระจ่างไกล
ยากคว้าไขว่กลับหวนปั่นป่วนเงา
การเวกบินผ่านจำนรรจ์เสียง
เข้าคลอเคียงพฤกษาที่มาเฉลา
เกิดเป็นถ้อยร้อยดนตรีไม่กี่เพลา
ฝากความเศร้ารัญจวนจนชวนคนึง
วันเวลาเคลื่อนคล้อยจันทร์ลอยเลื่อน
ดวงใจเปื้อนหวานซึ้งรำพึงถึง
อนงค์นาฏฝากเงาที่เฝ้าตรึง
ดุจสายซึงขาดเสียงยากเบี่ยงมอง
ราตรีนี้มีเพ็ญลอยเด่นฟ้า
ช่างเจิดจ้าหัวใจมิใคร่สนอง
โลมรำลึกผ่านซึ้งมิพึงคนอง
ใยละอองแสนเศร้ามาเคล้าใจ.
*** แก้วประเสริฐ. ***
28 ตุลาคม 2551 14:40 น.
แก้วประเสริฐ
*** ที่สุดฝันรัก ***
..๏ เพริศพิศหอมแผ่วพลิ้ว พรรณราย
งามดุจผกาเฉิดฉาย ส่องหล้า
ยุรยาตรดั่งมฤคกราย งามเด่น จริงแฮ
แม้นมาดเคียงสู่ฟ้า ซาบซึ้งตรึงฤดี ๚
..๏ อกเอ๋ยใยเช่นนี้ หนอเรา
ตาหลับรำพึงเงา สู่ห้วง
รำพันฝากโลมเร้า เยิ้มหยาด ฉวีแล
ยากยิ่งพลันฝันล้วง หน่วงเคล้าชมจันทร์ ๚
..๏ ละล่องลอยสู่ฟ้า ราตรี
เคียงคู่อัปสรเทวี เจิดจ้า
เปรียบดุจดั่งสรรค์ศรี พลิ้วผ่อง อกเอย
สุดยากจะไขว่คว้า แต่งแต้มแซมฝัน ๚
..๏ ยิ่งพิศยิ่งป่วนล้ำ หฤทัย
หวามวาบสู่ทรวงใน เพริดแพร้ว
แสนสุดจะห่างไกล ฝันผ่าน อนิจจา
ห้วงแห่งใจคลาดแคล้ว อ่อนล้าโรยแรง ๚
..๏ ใจเอ๋ยใจผ่องแผ้ว เกินจริง แน่เอย
พานพบจบประวิง เกริกฟ้า
อัปสรส่งห้วงสิง ฝากยิ่ง ลืมแฮ
คิดใฝ่นวลสู่หล้า พรอดเคล้าเงายวน ๚
..๏ ล้วนแล้วแต่ฝากห้วง ดวงใจ
หอมกลิ่นกายวิไล ยิ่งแล้ว
สุดแสนสั่นหฤทัย มากยิ่ง จริงเฮย
ฝันคิดสิ่งเพริดแพร้ว พร่ำเพ้อนางนวล ๚
..๏ นางอัปสรเทียบไว้ แมนสรวง
ไหวหวั่นในอกทรวง สั่นพลิ้ว
แสนยากยิ่งหญิงปวง เฝ้าเปรียบ จริงนา
แม้นมาดนางโกรธกริ้ว เสน่ห์ล้วนชวนชม ๚
..๏ หอมกลิ่นกายสั่นพลิ้ว เบิกบาน
ฝันค่ำคืนวันวาน ผ่านฟ้า
ฤาเรารักเกษมศานต์ ปั่นป่วน
จนคิดแต่งแต้มคว้า ใฝ่ย้ำนำสนอง ๚ะ๛
*** แก้วประเสริฐ. ***