24 กุมภาพันธ์ 2552 17:43 น.
แก้วประเสริฐ
** ครวญ **
เคยเพลินพิศจิตสลายเมื่อกลายร้าง
แสนเวิ้งว้างกลางหทัยใกล้เคียงหมอน
ซาบซึ้งกลิ่นหอมกรุ่นละมุนนอน
หวานออดอ้อนวอนเว้าเคล้าฤทัย
ลวดลายพร้อยแจกันอันเฉิดฉาย
งามพริ้งพรายพฤกษาพาผ่องใส
มัณฑนาชมพูแดงแฝงไฉไล
บุบผาใบเขียวชอุ่มเป็นพุ่มพวง
โต๊ะตั่งเตียงจัดไว้ได้สัดส่วน
ประดับล้วนภาพผนังดั่งแมนสรวง
มวลอัปสรกินรีรื่นชื่นทั้งปวง
จันทร์ล้อมดวงดาวน้อยคล้อยเมฆา
ห้องหอน้อยแสนรักประจักษ์อุ่น
กลิ่นละมุนซาบซ่านผ่านบุบผา
อีกกระแจะจันทร์เจ้าเฝ้าเคล้ามา
งามกานดาเพริศพริ้งอิงเทพเทวี
สุดซึ้งซาบอาบห้วงล้วนสรรค์เสก
ทำนองเฉกเสียงระฆังครั้งโฉมศรี
กล่อมลำนำขานเสนาะไพเราะทวี
เล้าโลมชีวีแนบทรวงล่วงซึ้งหทัย
มาดแม้นเจ้ายังอยู่คู่ห้องน้อย
แสนละห้อยเหินห่างร้างหนีหาย
เธอจากแล้วแก้วตาแวววับกลาย
สิ่งทั้งหลายสูญสิ้นจินต์แยกทรวง
ขอเธอจงสุขสราญบนผ่านฟ้า
มวลดาราจันทร์ฉายในแมนสรวง
รื่นระเริงวิมานแพร้วแนวทั้งปวง
อย่าได้ห่วงเบื้องหลังฝังอาลัย
จงเป็นสุขเถิดหนอแก้วตาเอ๋ย
มินานเลยจะตามเจ้าเฝ้าอาศัย
ยามนอนเคียงเฝ้าจูบลูบวลัย
แนบทรวงคล้ายมีเจ้าเฝ้าคลอเคียง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
22 กุมภาพันธ์ 2552 10:57 น.
แก้วประเสริฐ
** ดวงใจเอ๋ย **
แสงตะวันลาลับจากขอบฟ้า
หมู่เมฆาทอแสงแดงฉาดฉาน
มีสีสรรค์พรรณรายคล้ายดวงมาลย์
ฝากซาบซ่านละลายสลายห่างใจ
ณ ที่เก่าเวลาเดิมเคยเสริมรัก
พลันชะงักดับจินต์สิ้นผ่องใส
หมู่นกกาเคียงข้างพลางร้องไป
ดูฝากไว้คล้ายห้วงดวงจินตนา
จะเหลือเพียงความหลังครั้งก่อนเก่า
อ้อนออดเฝ้ารำพันสรรค์เสน่หา
คงเหลือนับวันคอยยากสอยมา
ไร้วาสนาพานพบสบหมายปอง
เสียงนกร้องเรียกคู่ยามสู่ค่ำ
คล้ายน้ำคำหญิงไว้มิได้สนอง
เฝ้าโดดเดี่ยวอุรายากมาครอง
สิ่งสิ้นผยองปองรักจากละลาย
อันน้ำใจครั้งหนึ่งเคยตรึงไว้
ผุดผ่องใสหายแห้งแฝงสลาย
มลายสู่ห้วงชอกย้ำซ้ำวุ่นวาย
รักมากมายหายวับจับอารมณ์
ยามราตรีไร้จันทร์ครั้นเคยส่อง
ดาวเคล้าหมองดุจเราเฝ้าขื่นขม
อกเอ๋ยอกหมายปองครองภิรมย์
พลันระทมเหมือนใจไร้แสนรัก
นี่นะหรือดวงใจภายในหญิง
สิ่งแท้จริงฝากสนองต้องคิดหนัก
ดุจใยนุ่นแปรเปลี่ยนเวียนประจักษ์
คล้ายประตักกระหน่ำชอกช้ำฤดี
ดวงใจเอ๋ยเปรียบจันทร์ตะวันส่อง
แม้นเรืองรองเปลี่ยนไปในแสงสี
พลันสลับวันผันผวนป่วนห้วงชีวี
ยากให้มีความหมายใฝ่แม้นครอง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
15 กุมภาพันธ์ 2552 13:38 น.
แก้วประเสริฐ
** สะท้อนฤทัย **
จำรัสจันทร์สีนวลเย้ายวนแสง
เข้าแอบแฝงหมองหม่นระคนฉวี
แสนงามเลิศเฉิดพรายขจายปฐพี
ยามราตรีเงียบเหงาเศร้าดวงหทัย
ดุจชีวันขวัญชีวาพาหม่นหมอง
มวลละอองสิ่งเศร้าเคล้าอาศัย
ปั่นป่วนฤดีความหวังครั้งอาลัย
วันแสนหมายดูห่างร้างเหลือเกิน
ดุจดาราเคยระยับนับจางหาย
แสนเสียดายสิ่งหวังครั้งสรรเสริญ
บัดล่วงลับก่อสลายใจเพลิดเพลิน
แสนงกเงิ่นความหวังสร้างระทม
กาลเวลาเปลี่ยนแปรกระแสรสินธุ์
เหมือนดวงจินต์ย่อยยับนับขื่นขม
หวามที่หวังสร้างไว้คลายร้างชม
พลิกผันปมวันก่อนอ้อนเคยเคียง
วันความรักเหลือไว้คล้ายไกลห่าง
ดุจจันทร์ร้างดาราคลอนตอนหันเฉียง
เลี่ยงหลบสิ่งเฝ้าครองต้องเอนเอียง
มวลหลบเลี่ยงปล่อยมลายให้อาดูร
สิ่งแสนปองผ่านไปในสิ่งหวัง
ช่อผกายังเก็บครองมิหมองสูญ
แต่เหตุใดความหวังครั้งเกื้อกูน
มิอาจพูนเบ่งบานซาบซ่านหทัย
ผ่านไปแล้วเหมือนกาลที่สร้างสรรค์
เสมือนจันทร์หม่นหมองครองสดใส
หวามความรักคลายดาราผ่านอาลัย
หมดพริ้งพรายคล้ายอิงที่หมายปอง
แสนเศร้าหมองครองไว้สู่ในจิต
ป่วนหมายคิดฝากไว้ในสิ่งสนอง
หมดความหวังฝังลงตรงเคยครอง
หรือครรลองสนองเราเฝ้าเดียวดาย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
18 มกราคม 2552 15:19 น.
แก้วประเสริฐ
** ถ้ำทอง **
สุรีย์สาดส่องหล้า เรืองรอง
เทพสู่อัปสรครอง เจิดจ้า
คนธรรพ์กล่อมมโหรีซ้อง ล้วนร่า เริงแฮ
เทพยดาจากฟากฟ้า สนุกล้ำรื่นกมล ฯ
สุวรรณคูหาสุดพริ้ง พรรณราย
แวววับรัศมีพราย ผ่องแผ้ว
มณีแสงสุดเฉิดฉาย สวยส่อง จริงแฮ
อบอวลกลิ่นหอมแพร้ว หลีบห้องสนองมาลี ฯ
เพชรพญาธรออดไว้ เคียงนาง
คลึงเคล้าพรอดกึ่งกลาง เสน่ห์เฝ้า
ครุฑโลมรัดนวลพลาง เย้าหยอก ยิ่งนา
แสนสุดเสน่ห์ฝากเจ้า สู่น้องเคียงสวรรค์.ฯ
มวลเทพยดาฝากไว้ อัปสรไสวมณีบรรเจิด
เอวอ่อนองค์เลอเลิศ เพริศพริ้งสุดแสนเสน่หา
โปรยหอมกลิ่นอภิรมย์ ต่างชื่นชมมุ่งใฝ่กานดา
พิลาสต่างพิจารณา คลอเคล้าร่าเริงพิศวาส
สุวรรณทิพย์ประดิษฐ์ไว้ วิจิตรไสวบรรทมอาสน์
เลอเลิศบุบผาชาติ ระยิบระยับมณีฉาย
คูหาสวรรค์เกรียงไกร แสนวิไลผ่านพระพาย
ทิพย์มาลีขจรขจาย สุดโลมเล้าเคล้ามโหรี
ทวยเทพต่างเบิกบาน แสนสำราญเกษมศรี
สุวรรณถ้ำพรตคีรี ล่วงเกินกว่าทิวาวาร
เกษมแผ่วเย้าหยอกล้อ นวลลออเกษมสาน
ล่วงย้ำรัตติกาล ต่างแยกย้ายกลับวิมาน.
ถ้ำคูหาสุวรรณแสนพิศวาส
ดารดาษวิจิตรมณีศรีอัปสร
วิไลลักษณ์ประจักษ์มิ่งบังอร
มวลอรชรแนบไว้ในเสน่หา
แสงระยิบพราวพิศพินิจเลิศ
งามประเสริฐสีทองต้องหวนหา
เมลืองสถิตมณีฉายกร่ำกรายมา
ปวงเทวาหมายปองครองภิรมย์
หอมระรวยบุบผามาลาสวรรค์
เทพเทวัญผ่านมาพาเสพย์สม
ระวิงไว้กลิ่นหอมดอมเชยชม
สุดรื่นรมย์ที่ปองครองนวลนาง
ดุจวิมานแก้วแวววับประดับวิจิตร
คูหาสถิตเทพเทวัญสรรค์สล้าง
สุรีย์ลับขับเคลื่อนเลื่อนเลือนราง
วิจิตรจางสลายลับประดับราตรี.
*** แก้วประเสริฐ. ***
8 มกราคม 2552 16:18 น.
แก้วประเสริฐ
** สะท้อนอารมณ์ **
เพริศพลิ้วพราวภาพสล้างกระจ่างจิต
สิ่งประดิษฐ์พานพบสบเสกสรร
จำเนียรกาลผ่านพ้นจนลืมวาร
เสียงกังวานก้องโสตถ์รันทดใจ
เสมือนหริ่งหรีดกรีดเสียงอันน้อยนิด
พลันลิขิตสมองหวนชวนสดใส
แม้นเนิ่นนานผ่านพ้นแล้วสิ่งใน
ความพิไลซ่อนเร้นเน้นทาบทรวง
แนวเวียนวนผ่านแล้วเจื่อนแจ้วเอ๋ย
ไม่ลืมเลยนวลฝากจากแมนสรวง
ล่วงก้าวคืนผ่านไปแม้นใยยวง
ดุจดังห่วงพิศวาสมิคลาดคลาย
เคยเคียงข้างเชยชมดมปทุมมา
หอมบุบผาติดตรึงซึ้งอาภรณ์สลาย
ชั่วคืนเสมือนสวรรค์พลันกลับกลาย
ทอดทิ้งชายมองภาพอาบวิญญาณ์
หยิบภาพเจ้าเคล้าคลึงทาบตรึงอก
คล้ายวิตกรำพึงพลันคนึงหา
ไกลสุดขอบฟ้าลับยากกลับมา
ความเสน่หาตรึงซ่านพล่านวจี
เคล้าคลึงพิศพินิจจิตว้าวุ่น
หอมละมุนอุ่นแอบสิ่งเกษมศรี
เหม่อมองเจ้าซาบตรึงซึ้งฤดี
สุดเปรมปรีดิ์ย้อนกลับนับลาโรย
บรรจงวางภาพงามแม่ทรามสวาท
แย้มพิลาสสะอื้นอกรันทดโหย
เหลือเพียงสิ่งฝากยิ้มพริ้มมาโปรย
ปราศกลิ่นโชยปทุมมาซ่านซึ้งใจ
นอนมองเจ้าสู่ไว้ในจินตนาการ
สร้างวิมานฝันใฝ่ให้สดใส
แม้นตัวห่างรำพึงซึ้งภายใน
งามวิไลนวลอนงค์หลงหลับไป.
*** แก้วประเสริฐ. ***