8 กรกฎาคม 2552 00:06 น.

** หมดไฟมิไร้หวัง **

แก้วประเสริฐ


         **   หมดไฟมิไร้หวัง  **

   มาดแม้นกายทรุดโทรมดั่งโคมไหว
แต่ดวงหทัยผุดผ่องละอองฉาย
ดุจตะวันสาดส่องมิหมองกราย
เหมือนพระพายฉ่ำชื่นระรื่นกมล

  มาดแม้นกายทรุดโทรม   ใจเฝ้าโลมสุดพรรณราย
อิทธิบาทสี่กราย                 ดั่งพระพายรื่นชื่นกมล
  ฉันทะความพอใจ            เปรียบดังสายแห่งตะวัน
สว่างไสวฤทัยพลัน             ด้วยเสกสรรผ่านฤดี
  วิริยะมหรรณพ                เปลี่ยนพิภพฝึกปรือเสมอ
บริหารซิเลิศเลอ               อย่าพร่ำเพ้อจนลอยไกล
  จิตตะพาสดชื่น               แสนระรื่นผุดผ่องฉาย
เอาใจใส่มิคลาย               ไม่หมองไหม้ต่อกายเรา
  วิมังสาพาชื่น                  งามระรื่นพฤกษาไพร
ตรวจสอบทั้งนอกใน         ดั่งจันทร์ฉายงามจับตา
  เปรียบดังละอองรุ้ง         สีสันพุ่งนภาลัย
วิจิตรเพริศพริ้งพราย       มาเยี่ยมกรายในดวงฤดี
  หมดไฟมิไร้รส              หากกำหนดสู่ในกาย
หมองหม่นย่อมละลาย      สิ่งทั้งหลายผ่านผ่องศรี
  ยึดมั่นในคำสอน           เป็นขั้นตอนลองคิดทำ
ขี้เกียจย่อมเสื่อมนำ         อาจต้องช้ำสู่มลาย
  หมดไฟมิไร้หวัง            สร้างพลังประจำไว้
ก่อเกิดสู่ภายใน               พึงสร้างไว้เป็นอาจินต์
  สี่ข้อพอกำหนด              เปรียบบรรพตคีรีศรี
แสงสว่างแห่งชีวี              พระชินสีห์ประทานพร
  ไฟยังอาจย้อนกลับ         เหมือนลาลับดั่งตะวัน
อบอุ่นดุจวิมาน                 ที่เพริศแพร้วแก้วรัตนา.

               ***   แก้วประเสริฐ.   ***
(  คำสอนพระพุทธองค์ ด้วยอิทธิบาทสี่ คุณค่าแห่งความสำเร็จ
หากได้ฌานสามารถเอามาปรับปรุงธาตุสี่ได้ ทำให้เกิด
พลังงานต่ออายุเราเท่าไหร่ก็ได้ ดังพุทธพจน์วาจาที่ถาม
พระอานนท์ถึงสามครั้งเพื่อชลอสู่พระปรินิพพาน ก็ด้วย
เหตุปัจจัยนี้แล   รักเสมอ .......แก้วประเสริฐ.)

n016.gif				
6 กรกฎาคม 2552 14:58 น.

๑๑ นางนวล ๑๑

แก้วประเสริฐ


            ๑๑   นางนวล   ๑๑

๏  ฝนพร่างพรมสู่หล้า     สับสน
เกิดก่อละอองปน            ฝากไว้
สายลมแผ่วระคน            ไหวหวั่น  กายแฮ
มองเหม่อปราศคลั่งไคล้   หลั่งฟ้าแมนสรวง ฯ

๏  โอ้ห่วงวันที่ต้อง           บรรจบ
สิบเอ็ดล้วนมาพบ             เทียบใกล้
เสาร์หวังที่ประสบ             พึงพรั่น  จิตเฮย
โรคลุ่มลึกฝากไซร้            บั่นแท้กลัวสนอง ฯ

๏  รำพึงหมายผ่านฟ้า       เมตตา
โปรดจัดหนุนวาสนา          พบพ้อง
หมายหวังสู่มรรคา            งามสู่  มากนา
เพียงพบอิงพวกน้อง          สนุกซึ้งตรึงหทัย ฯ

๏  งานใดมิเทียบได้         จากอนงค์
เพียงหมดฝนจำนง           มากหล้า
ขอเพียงอย่าเกิดคง-         หนุนส่ง  หลากเฮย
หมายมุ่งหลบหนีฟ้า          หลั่งหล้าจากสวรรค์ ฯ  

 ๏  หวังกุศลช่วยสร้าง       มรรคบุญ
มวลสิ่งด้วยการุน             ผ่านเกื้อ
ทวยเทพคงจะหนุน          หนีผ่าน  มากแฮ
โปรดส่งเมตตาเอื้อ          หลบพ้นฝนสลาย ฯ

๏  อธิษฐานจิตฝากไว้        เทพยาดา
คงพบอัปสรมา                  มากล้น
ทุกสิ่งเตรียมนำพา            ฝันสู่  นางเอย
เสียดายจันทร์หนีพ้น         หลีกลี้หนีหาย ฯ

๏  ฝันอิมกุ้งซ่านพลิ้ว        ลอยลม
เปรียบดั่งนางฟ้าสม          เฉกสล้าง
จิบไวท์คู่อภิรมย์               สันต์สู่  ปวงแฮ
แม้นมาดปราศเลิกร้าง     จากฟ้าสรรค์สนอง ฯ

  ๏  มลเจ้างามผ่องสล้าง   เวหาส
ผุดผ่องแสนพิลาส             หยดย้อย
หวังเคียงคู่มิขาด              รวมสี่  แนบเฮย
คิดเพ่งดุจมณีน้อย            เจิดฟ้าแมนสรวง ฯ

๏  ยิ่งคิดฝันมากพริ้ง        แดนไกล  งามเอย
หากพลาดคงคลั่งไคล้       ผ่านฟ้า
คอยรำลึกวันไซร้              ใจฝาก  สมรแฮ
จะกล่อมเพลงผ่านหล้า      มอบไว้นางนวล ฯ

๏  มณีน้อยหวังฝากฟ้า      คนึงครวญ  นวลแม่
เมฆเด่นใต้ดาวควร          หลีกร้าง
แสงสาดส่องยั่วยวน           ใสสด  วาวเฮย
ฝันคิดนางคงสล้าง             กลิ่นเย้าอวลสนอง ฯ 

๏  สามนางช่างหยดย้อย     คู่เคียง  สวรรค์เอย
บุญก่อกำเนิดเพียง             ไขว่คว้า
มิอาจเทียบจำเรียง             สรรค์ก่อ  แน่เอย
เพียงสู่มิอ่อนล้า                  ฝากไว้จากสรวง  ๚ะ๛

            ***   แก้วประเสริฐ.   ***


n016.gif				
3 กรกฎาคม 2552 23:35 น.

** เหนือคำสัญญา **

แก้วประเสริฐ


       ***   เหนือคำสัญญา   ***

   สายัณห์รัญจวนคิดวิจิตรคนึง
ลบตราตรึงเลือนหายคลายทุกสิ่ง
ที่เพริศพริ้งวาบหวามยามแนบอิง
สำเนียงยิ่งหวานล้ำย้ำพล่านหทัย

   บัดนี้เล่าเฝ้าปองครองสิ่งหวัง
ผ่านฝากฝังไออุ่นกรุ่นแก้มใส
หว่านคำมั่นสัญญามากลายใจ
แสนร้างไปฝากไว้มลายครอง

   ดวงสุรีย์ยามกลับยากลับแสง
ยังปรุงแต่งเหลือไว้คล้ายสนอง
ปานประหนึ่งอาลัยคระไลปอง
ใยนวลน้องหนีหายคลายรักเกิน

   รอบกายครึ้มมืดมิดจิตเหว่หว้า
หรือเสน่หาพลิกซ่อนย้อนหนีเหิน
หลบม่านเมฆสู่ฟ้าหวังเพลิดเพลิน
ผ่านหินเขินน้ำเซาะไพเราะจำเรียง

   แผ่วพลิ้วลมฝากไว้ฤทัยพล่าน
ทรวงป่วนหวานอิงพธูคู่ฝากเสียง
คลื่นกระทบริมฝั่งหวังเทียบเคียง
ซ่านสำเนียงหวามซึ้งตรึงทั่วจินต์

   เหลือเพียงเย็นละอองต้องกายผิว
สายลมปลิวชื่นฉ่ำระกำถวิล
ส่งหัวใจอ่อนแอแม้โปรยริน
หนีโบยบินเหลือไว้สลายฤดี

   เหนือสิ่งใดไหนเล่าเคล้าสัญญา
มาดแม้นว่าคำมั่นนั้นศักดิ์ศรี
ยากจะเปลี่ยนเวียนผันสั่นราคี
สรรค์นารีมิหมายสลายอารมณ์

   มองทะเลฝากไว้ไร้จุดหมาย
ที่รักกลายมุ่งสล้างวางสะสม
ดุจโขดหินแหว่งเว้าเฝ้าระทม
จนระบมฝากไว้ให้คร่ำครวญ.

   ***   แก้วประเสริฐ.   ***


n016.gif				
30 มิถุนายน 2552 15:14 น.

*** ความฝังแห่งจำ ***

แก้วประเสริฐ


     ***  ความฝังแห่งจำ  ***

   พินิจมองบ้านน้อยดุจลอยฟ้า
เหมือนดังว่าหัวใจใยสิ้นสลาย
เม็ดหยดหยาดเหงื่อหลั่งท้วมเรือนกาย
สองสร้างไว้หนีพรากฝากอาวรณ์

   น้ำตารินหลั่งไหลทาบในทรวง
พลันสู่ล่วงหม่นไหม้ให้หลอกหลอน
ความอบอุ่นแนบไว้ใยขาดตอน
แสนสะท้อนคิดหวังระหว่างใจ

   ความท้อแท้หันเหต้องเซพราก
ยามวิบากเบื้องหน้าพาไปไหน
สุดบั่นทอนสิ่งรักต้องจากไกล
สะอื้นในป่วนช้ำย้ำเหลือเกิน

   สิ่งปลาบปลื้มเฝ้ามองสองตาสถิต
กลับมาปลิดล่วงลับกลับห่างเหิน
เหลือแต่สิ่งทรงจำกลืนกล้ำเพลิน
ต้องมาเมินจากไปไกลทั้งปวง

   คงเหลือเพียงสิ่งจำย้ำฝังจิต
มองยิ่งคิดแสนเศร้าเคยเฝ้าหวง
เดินรอบเขตเคยสร้างหวังตักตวง
ต้องเลยล่วงฝากไว้เพียงปลายตา

   จำต้องพรากจากแล้วเพื่อลูกรัก
ที่ฟูมฟักยังเยาว์เฝ้าห่วงหา
ช่วยเปลื้องปลดหนี้สินสิ้นจินดา
มิปรารถนาต้องทำด้วยจำใจ

   แม้นเสน่หาอาลัยในสิ่งนี้
ขอยอมพลีลบล้างวางสิ่งใส
ย้อนถึงวันเคยชื่นระรื่นหทัย
หวังภายในฝากผีสุดปรีดิ์เปรม

   เหลือแต่ตัวคู่ทุกข์บุกเร่ร่อน
เที่ยวตะรอนค่ำไหนไม่สุขเกษม
ขอแค่ซุกหัวนอนอ่อนเพลียเอม
คอยเละเล็มอาหารผ่านทิ้งวาง

   จะขอทานเขากินจินต์มิกล้า
เปรียบดั่งว่าสิ้นคิดใจจิตขวาง
หันหาลูกที่รักกลับเลือนราง
เขาหนีห่างหลีกเร้นเผ่นลับจร

    ทุกสิ้นปีหันหวนชวนกันกลับ
สองตาจับบ้านน้อยใจทอดถอน
นึกถึงวันแสนสุขสนุกอาวรณ์
แสนสะท้อนจนพรั่งหลั่งน้ำตา.

   ***   แก้วประเสริฐ.   ***


n016.gif				
28 มิถุนายน 2552 13:39 น.

*** พุดพัดชา ***

แก้วประเสริฐ


     ***  พุดพัดชา  ***

   พฤกษาไพรใหญ่น้อยช่างร้อยรัด
สาวนาจัดบ้านไทยวิไลฉวี
งามกระจ่างสร้างสรรค์ขวัญชีวี
ช่างเลิศทวีนวลอนงค์หลงเพลิดเพลิน

   บ้านหลังเล็กป่าใหญ่กรายริมทุ่ง
หวังมุ่งผดุงรวงข้าวเฝ้าสรรเสริญ
ยามตกท้องกล้าแกร่งแรงเหลือเกิน
ผ่านจำเริญแสงทองผ่องอำไพ

   พลิ้วไสวไล้สายลมภิรมย์ชื่น
แสนระรื่นสร้างหทัยให้สดใส
ฝันความคิดจิตวาดหวังกาลไกล
แต่เหตุไฉนโดดเดี่ยวเปลี่ยวเอกา

   พร้อมทุกสิ่งกุลสตรีที่ดีเลิศ
อีกงามเฉิดยากเทียบเปรียบใฝ่หา
ปลูกต้นพุดโบกพัดจัดน้ำชา
ซ่านเสน่หาคนชงหลงเพลิดเพลิน

   ทั้งหนุ่มแก่พ่อหม้ายหมายมุ่งหวัง
ต้องเซซังยามพบประสบเขิน
มธุรสถ้อยสำนวนชวนใฝ่เกิน
แม้นมีเงินมิอาจปราศครอบครอง

   ดุจดาวน้อยประกายพรึกตรึกจรัส
จันทราจัดวางไว้มิได้สนอง
ต้องเคล้าเคลียความหวังดังละออง
คอยสอดส่องรับแสงแห่งสีนวล

   ช่างสดชื่นระรื่นคิดจิตเอ๋ย
มิลาเลยยอดหญิงอิงสิ่งสรวล
สวยทั้งนอกงามในได้ธรรมชวน
ทิ้งปั่นป่วนเบื้องหลังฝังพงพนา

   ยามเก็บเกี่ยวสาวนาพาระรื่น
แสนชื่นมืนหอมกลิ่นรินนาสา
หมดฤดูหว่านไถ่ไกลปลายนา
เข้าพฤกษาป่าใหญ่ใกล้บ้านเธอ

   เพื่อลิ้มรสธรรมชาติปราศร้อยเล่ห์
เมื่อหว่านเสน่ห์ฝากไว้ให้เสมอ
ปลงใจจิตพิชิตธรรมบำเรอ
ค้นเลิศเลอจากองค์พระทรงธรรม

   นำคำสอนสู่ไว้ในกาลสรรค์
วิวัฒน์กาลหลีกหนีที่มาขำ
สร้างใจจิตหมายมุ่งผดุงจำ
แสงเลิศล้ำนำผ่านหมั่นไตร่ตรอง

   พุดพัดชาสาวเจ้าหอมกลิ่นขาว
ที่เพริศพราวจากฟ้ามาสู่สนอง
ลิดแลร้างแปรเปลี่ยนเวียนครรลอง
หมายค้นปองรู้ใจใกล้คล้ายนวล.

      ***  แก้วประเสริฐ.  ***


n016.gifd2b5ffc5.jpg?t=1246167590.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ