1 สิงหาคม 2552 15:53 น.
แก้วประเสริฐ
** มิอาจหวัง **
ลมพัดเชยเผยกลิ่นอันหอมหวน
ผ่านเนื้อนวลขาวสล้างกลางไสว
เนื้อเนียนผิวลออพรรณอันไฉไล
หลงคลั่งไคล้โฉมหวังดุจดั่งปอง
วงพักตร์เด่นงามโขนงโก่งคันศร
สลวยดำอ่อนพลิ้วสู่ประทุมสอง
ขลับเรืองรองกลิ่นโชยผกาครอง
ปานมนต์ต้องสนองแลแม่กานดา
ซ่านผ่านซึ้งป่วนไว้ใยหวนคิด
เสมือนวิปริตจัดสร้างกลางหรรษา
ดุจพระอภัยหลงละเวงศรีกัลยา
เพียงหมายตาภาพไว้ใกล้ชิดนาง
สร้างรำพึงฝากไว้ในความหวัง
แนบประดังเนื้อนวลชวนสล้าง
โอ้ละหนอหอมกลิ่นเนื้อนวลจาง
แทรกซึมวางผ่านเข้าเฝ้าแลมอง
หลงในรูปละเมอแทบเพ้อพก
ซ่านวิตกผ่านคนึงจนซึ้งสนอง
เป็นบุญหรือเวรกรรมนำพบปอง
ยามแสงทองชโลมไล้ใฝ่ตาแล
ยามนวยนาดอรชรอ้อนแอ้นเหลือ
ลมผ่านเนื้อหอมกรุ่นละมุนแผ่
ผ่านรวยรินกลิ่นเจ้าเคล้าดวงแด
คล้ายกระแสอสนีบาศฟาดทรวง
ได้แต่จ้องมองไว้ให้ชวนฝัน
เพื่อเสกสรรฟื้นกลับนับแมนสรวง
สร้างหัวใจกระชุ่มในพุ่มพวง
แม้นเป็นบ่วงยินยอมถนอมหทัย
ครั้นแลเห็นหนุ่มเฉลาเฝ้าควงกลับ
เข่าแทบพับหายลับนับตักษัย
ถอนใจเฮือกสิ้นแล้วแนววิไล
เสมือนหัวใจหายไปในดวงมาลย์
*** แก้วประเสริฐ. ***
28 กรกฎาคม 2552 11:54 น.
แก้วประเสริฐ
** บทเรียน บทรัก **
หลงโลดแล่นไปเล่าเจ้าข้าเอ๋ย
ที่ทรามเชยหนีร้างจนห่างหาย
อย่าโทษเขามองตัวอย่ามัวกราย
เหตุสิ่งร้ายเพราะเขาหรือเราเอง
อันหญิงนั้นมีใจมิไร้เปลี่ยน
สู้พากเพียรอดกลั่นที่สั่นเฉวง
ทำร้ายจิตใจเขาเฝ้าบรรเลง
ถือตนเก่งหลงตัวจนมัวเมา
มิคำนึงรอบด้านพาลเฉไฉ
มิใส่ใจให้เกียรติจนอับเฉา
ทำเรื่องเล็กเป็นใหญ่ด้วยตัวเรา
เห็นตัวเขาเป็นทาสขาดสิ่งรัก
จงนึกถึงอดีตกาลที่ผ่านมา
น้ำผักปลาว่าหวานซ่านประจักษ์
ชมเชยเขาว่างามเสียยิ่งนัก
ล้วนแต่ชักเรื่องราวเฝ้าปรนเปรอ
อันหญิงนั้นมีใจละเอียดอ่อน
มิยอกย้อนเหมือนชายผายสิ่งเสนอ
หากรักใครชอบแล้วมิแผ่วละเมอ
ย่อมจะเสนอสนองสิ่งอิงดีงาม
หญิงหรือชายใช่ไร้ในความคิด
ล้วนลิขิตปัญญาหาเกรงขาม
เพียงหน้าที่บังคับปฏิบัติตาม
ไม่ลวนลามต่อกันพลันสุขสบาย
หากรู้จักปรองดองประคองไว้
รักคงได้เสพย์สมภิรมย์หมาย
นี่เพราะเขาหรือเจ้าจึงเฝ้ากราย
จะดีร้ายอย่างไรควรไตร่ตรอง
อันชีวิตทั้งหลายต้องตายพราก
แต่มาจากหนีร้างสร้างขาดสนอง
ด้วยเหตุผลหญิงนั้นที่พลันครอง
หากไม่หมองเหลือกลั้นยากดั้นจร
เจ้าจงคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ
สิ่งประกอบอย่างไรตรึกไว้สอน
เขาหรือเราผิดแน่แค่วิงวอน
แล้วผันผ่อนถึงเก่าเคยเฝ้ากัน
ลิ้นกับฟันย่อมสบกระทบบ้าง
มิอ้างว้างแปรเปลี่ยนเวียนสร้างสันต์
เสมอกันเวียนสู่ไว้คล้ายผูกพัน
นึกถึงวันรักเก่าเคล้าเบิกบาน
หากเราผิดไปตามเฝ้าง้อเถิด
จะประเสริฐยิ่งนักดั่งจักสาน
ที่สอดแทรกแบ่งกันนั้นสำราญ
เป็นชายนั้นอ่อนไว้วิไลครอง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
24 กรกฎาคม 2552 12:57 น.
แก้วประเสริฐ
** ฝันกระเจิง **
เพียงแค่หนึ่งพึงคิดยังติดบ่วง
บาศก์แห่งห้วงสับสนจนร้าวฉาน
วกวนเวียนหมุนคว้างกลางร้าวราน
สั่นสะท้านหฤทัยส่ายอลวน
ตรึงติดอยู่แนบทรวงผันดวงจิต
แทบวิปริตรุกเร้าดุจเฝ้าฉงน
โลมรำลึกถึงใจฝากในกมล
ฤาสิ่งล้นสู่ไว้ใฝ่ทุกข์ครอง
หากมีสองคิดไปให้อนาถนัก
โน่นก็รักนี่หลงมิคงสนอง
ความสุขหรือหนีไปไร้เรืองรอง
สิ่งทั้งผองกลัดกลุ้มรุมเร้าฤดี
ถ้าอีกสามปลดเปลื้องเรื่องเหล่านี้
ตามคัมภีร์รจนาไว้ให้สุขี
เพียงกล่าววางสู่ไว้ให้เปรมปรีดิ์
เป็นจริงนี่อะไรไม่อยากคิด
มากกว่านี้สู่ไว้ยิ่งใคร่ฉงน
คงวกวนเปลี่ยนแปรแน่สิ่งสถิต
ดังเหมือนน้ำหยดหินทีละนิด
แล้วก็ปลิดห้วงใจให้แหลกลาญ
หากพัวพันนี้เล่าเฝ้าเกิดขึ้น
ต้องสะอื้นต่อห้วงบ่วงประสาน
พลิกผันจนสับส่ายไม่ตระการ
สั่นสราญแนบเนื้อดุจเกลือปน
เกิดเป็นชายหล่อเหลายิ่งเศร้านัก
เขาฝากรักมากมายให้สับสน
หากสับรางผิดแล้วมิแคล้วจน
ปัญญาล้นอย่างไรไม่เข้าทาง
ยิ่งฝันไปกระเจิงมิเริงจิต
โอ้ชีวิตปั่นป่วนล้วนสะสาง
แค่ตัวเรายังยากฝากเลือนราง
ใยมาสร้างสิ่งนี้ขอหนีจร.
*** แก้วประเสริฐ. ***
21 กรกฎาคม 2552 19:40 น.
แก้วประเสริฐ
** หักอกจนอกหัก **
วาบหวามหวิวพลิ้วผ่านจนจัดต้อง
นวลขาวผ่องปานจันทร์อันส่องแสง
กรุ่นกลิ่นกายไออุ่นละมุนแรง
เสมือนแข่งบุบผาชาติปราศราคี
คิดคลอเคลียเยี่ยงแมลงใยแฝงเขิน
สะทกสะเทิ้นยวนแข่งแสงสี
ยลเพ็ญพักตร์ลักขณาพล่าฤดี
ปานมณีเจิดจรัสวิวัฒน์กมล
แม่เยื้องกรายเฉิดฉวีทวีซึ้ง
พร่างพรายตรึงห้วงหทัยใยสับสน
ป่วนปั่นสร้างจัดซ่านผ่านใจตน
กลิ่นแม่วนเวียนชื่นระรื่นทรวง
แต่ได้มองสองเนตรเฉดสิ่งเศร้า
คิดหวังเฝ้าเอื้อหนุนจุนเจือหวง
เพียงได้เดินห่างไว้ใยทั้งปวง
จนเป็นบ่วงพิชิตจิตหมองเรา
อันที่จริงก็เป็นดังเช่นนี้
วาบหวามฤดีเกินกว่าจนมาเขลา
ทั้งที่รู้ชม้อยเนตรเจตลำเนา
หวังได้เฝ้าก็สมภิรมย์ปอง
วันและคืนตื่นหลับประทับจิต
โอ้ชีวิตใดเล่าเพียงเฝ้าหมอง
สะพานทองทอดไว้ใยไม่มอง
สิ่งเรืองรองผ่านไปคล้ายโรยลา
พอเบื้องหลังฝังสนิทคิดเร่าร้อน
ยามอรชรหายวับกับแลหา
อกคร่ำครวญโหยหวนป่วนอุรา
ความเสน่หาล่วงไปให้อกตรม
ใครหักอกจนอกหักกันแน่
ยากถอนแม้กลิ่นหอมย้อมผสม
เหลือร่องรอยกลิ่นเก่าเฝ้าภิรมย์
เหม่อมองชมจันทราตาพร่างลาย.
*** แก้วประเสริฐ. ***