10 พฤษภาคม 2553 16:43 น.
แก้วประเสริฐ
ลึกลับ
ลึกล้ำย้ำนึกจนตรึกกล้ำ
นำมาพร่ำตกผลึกเป็นปึกขำ
งำปนยุ่งปลงไว้ให้จดจำ
ยิ่งระกำงุ่นง่านพาลงงงัน
รุกแลรับมาฝากจนลากลิ้น
กับถูกปลิ้นซวนเซเป็นเล่ห์สันต์
ตื่นกับหลับพาดพิงหลังอิงกัน
วิวัฒน์ผันแปรปรวนจนป่วนตา
ร้อนคลุกเย็นน่าสุขกับทุกข์ยิ่ง
รอบทุกสิ่งงุ่นง่านจนซ่านหา
วันกับคืนเหลือเดือนกับดารา
มิระอาหวังแต่มาแพ้ลวง
ฮักเจ้าหลายมาพ้อกับป้อจิต
ยวงสิ่งคิดผูกพันด้วยดันหวง
เขาว่าผิดโน่นถูกหลุดลูกพวง
หล่นจากยวงงี่เง่าจนเศร้าใจ
ทำไหร๊พรื้อยื้อยุดจนฉุดลาก
เก่งเพียงปากนำสิ่งสู่อิงไหว
ยวนเย้าวนหันเหแล้วเซไป
ปัดโธ่ในเจ้าเล่ห์เพทุบาย
ม่วนงามแต้แผนการมิผ่านใส
ฝากแค่ใยแมงมุมที่รุมสลาย
อกอีแป้นจะแตกแยกวอดวาย
ซึ่งลวดลายสู่กลับพับเรืองรอง
ฮิฮิฮิจันหมองร้องเสียงข่ม
สูหลอกต้มแปรไปใยเป็นสอง
คิดหลงเชื่อคมแฝกแยกจนกอง
ได้แต่มองสองตาหมาข่มเงา
นี่ก็สวยงามยิ่งอิงพิลาส
โน่นก็ปราชญ์บัณฑิตที่คิดเฝ้า
ลับลึกซ้อนซ่อนเงื่อนขี้กลากเอา
ตาลอยเศร้าเวียนที่ศรีธัญญา.
* แก้วประเสริฐ. *
5 พฤษภาคม 2553 14:49 น.
แก้วประเสริฐ
แก้วกานดา
๐ ยลพิศเพ่งนวลน้อง กัลยา
วงพักตร์งามเสน่หา เลิศล้ำ
ดุจอัปสรพสุธา เกิดก่อ จริงแฮ
ชื่นฉ่ำดุจสายน้ำ รดห้วงดวงฤดี ฯ
๐ยามบังอรยาตรเยื้อง แลมอง
หลงใฝ่คิดหมายปอง แด่เจ้า
คมเนตรเหลื่อมเรืองรอง สดชื่น ฉ่ำเฮย
เอวอ่อนพิลาสเคล้า อร่ามแท้ป่วนถวิล ฯ
๐ ปทุมมาศล้วนเบ่งล้ำ อาภรณ์
โขนงแม่ดุจคันศร โก่งย้ำ
เยื้ององค์แกว่งไหวกร เรียวยิ่ง งามแฮ
พิศยิ่งจิตใจกล้ำ เรียกร้องดวงสมร ฯ
๐แสงเกิดก่อม่านริ้ว มุมมณี
ทิพากรรัศมี หลากย้ำ
ชูไสวสู่นวลฉวี พราวปลั่ง มากนอ
ดุจดั่งเก็จพรายล้ำ เปรียบรุ้งวาวไสว ฯ
๐นวลนางใยเลิกร้าง พรากจร
ฝันใฝ่ถูกลิดรอน ห่อนแท้
ม่านถูกปิดบัญชร มวลสิ่ง จบแฮ
ดุจสุดสิ้นมาดแม้ เพียรเฝ้าหวังปอง ฯ
๐ หวังพิรุณหยาดฟ้า ชโลมดิน
แววสีรุ้งมอบกวิน หลากย้ำ
พอลับดับมวลถวิล สานก่อ เกิดเฮย
เคยโปรยปรายสิ่งซ้ำ ยากแล้วใฝ่ถวิล ฯ
๐ ฝันคิดปองลับสิ้น กลับกลาย
งามก่อเกิดมากมาย พลิกแล้ว
เก็จแก้วลับแลหาย สุดก่อ ซ่านแฮ
โอ้สิ่งเฝ้าเพริศแพร้ว หลบลี้หนีสลาย ฯ
๐รัตนางามเพริศพริ้ง กานดา
แสงเหลี่ยมสิเน่หา แหล่งหล้า
เรืองรองจากทิวา หวังก่อ ใหม่เฮย
เพียรแค่คอยนางฟ้า ผ่องแผ้วคืนสนอง.ฯ-
* แก้วประเสริฐ. *
1 พฤษภาคม 2553 15:59 น.
แก้วประเสริฐ
ลุ่มลึกแห่งห้วงใจ
ร้อนอบอ้าวปานโกเมนเด่นไสว
ความสดใสหมองหม่นระคนเหงา
ห้วงสำนึกตรึกคิดเปรียบคล้ายเงา
สิ่งซบเซาใฝ่ปองสุดครองระทม
หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสามงามแล้วหรือ
ความยึดถือเปรียบไปคล้ายถูกถม
ก่อเกิดเกียรติหยามเหยียดเบียดเป็นปม
หวานเป็นขมผ่านห้วงสร้างบ่วงใจ
ลุ่มลึกแห่งห้วงจิตจึงคิดพราก
หนีออกจากฟ้ามืดแผ่นดินใส
ออกสู่ป่าขุนเขาลำเนาไพร
ล้วนสร้างไว้พฤกษาลัดดาวัลย์
ท่องเที่ยวไปโดดเดี่ยวเปลี่ยวชีวิต
แต่สิ่งสถิตงามเหลือเหนือเสกสัน
ธารน้ำไหลผ่านโขดผาลาวัลย์
มาลีนั้นโชยกลิ่นชื่นระรื่นทรวง
เสียงนกร้องกังวานซ่านไพเราะ
ผีเสื้อเกาะบุปผาควานหาหวง
สายลมเอื่อยพัดฉิวปลิวซ่านดวง
มิหลอกลวงในเมืองเปลืองอารมณ์
แม้นแต่คนที่ฝันนั้นมอบรัก
เหมือนจมปักเปลี่ยนแปรแม้เหมาะสม
ฝากทั้งจิตแลกายหมายชื่นชม
กลับเป็นปมซ่อนเงื่อนสะเทือนฤทัย
มิเหมือนสิ่งธรรมชาติปราศสิ่งซ่อน
แม้นยอกย้อนสายน้ำหากย้ำไสว
ละอองพลิ้วปลิวกระทบกลบใน
เย็นชื่นใจไร้เล่ห์เพทุบาย
เหมือนจิตใจของเราเฝ้าแปรเปลี่ยน
มันหมุนเวียนรอบข้างสร้างสิ่งสลาย
หากยึดถือติดมั่นมันกลับกลาย
ความวอดวายแห่งห้วงมัดดวงจินต์.
* แก้วประเสริฐ. *