10 มิถุนายน 2553 13:54 น.
แก้วประเสริฐ
อื้อฮือ
คิดหลีกปวงแห่งฤดีแม่ศรีสมร
ยามบังอรเอ่ยวจีแสนที่ไสว
ล้วนลึกซึ้งบาดจิตจนคิดไป
โอ้เหตุไฉนสุดตวัดลิ้นจัดมา
นั่นก็ชายชาติเชื้อเนื้อนาอยู่
ใคร่อดสูมากอนันต์สุดสรรค์หา
ซ่านรสชาติเก่าใหม่ที่ให้คณา
พลิกวาจาสู่เสนาะฉอเลาะจินต์
ดุจอิสตรีนิยมโคมไฟเขียว
ที่ใฝ่เปรี้ยวสิ่งคิดหวังติดหิน
พล่ามมธุรสวาจาเปี่ยมราคิน
คำคมถวิลที่ซึ้งหวังคลึงพนอ
มิหวนคิดสิ่งใดในโลกนี้
ซ่านก็มีขมปนระคนหนอ
ได้แต่หว่านวจีไว้คงไม่พอ
มีปมก่อปนทุกข์ยากสุขใจ
อันน้ำใจเช่นนี้ปรีดิ์เปรมนัก
หรือประจักษ์กายีสุดที่ไฉน
แม้นซ่อนเร้นยาพิษสถิตใน
แต่เหตุไรพลิกผันจนสั่นจิต
คิดว่าตัวสวยเด่นแล้วเน้นหรือ
จึงยึดถือในตนระคนสถิต
ทั้งเย้ยฟ้าท้าดินจนสิ้นคิด
สุดวิปริตเชยชมภิรมย์ปราย
สร้างมายามากเล่ห์เฉไฉเหลือ
โอบเอื้อเฟื้อภายในคิดใฝ่สลาย
ยกตนเองข่มท่านสุขสันต์มลาย
ซ่อนเร้นพรายวางตัวมั่วทุกทิศ
อนิจจงสลายอนิจจานารีสมร
มาดอรชรสุดซ่านแต่หว่านพิษ
ดินยังเกรงฟ้าขามนงงามจริต
ยั่วประดิษฐ์ร้อยเล่ห์เพทุบาย.
* แก้วประเสริฐ.*
7 มิถุนายน 2553 15:18 น.
แก้วประเสริฐ
นี่หรือน้ำใจ
๐ปนเปสิ่งคละกลิ้ง อิงแอบ
วนวกคลุ้งกรุ่นแนบ ฝากไว้
หลากคำเล่ห์ยลแยบ เนาสู่ จริงนา
แสบสิ่งฤาชอบไซร้ จากห้วงดวงสมร.ฯ
๐ปนเปสิ่งคละกลิ้ง ฝากอิงแอบยลแยบเหลือ
วนวกคลุ้งกรุ่นเจือ แนบฝากไว้มิสำราญฯ
๐หลากคำเล่ห์ยลแยบ เนาสู่แปลบฝังลึกห้วง
ฝากสิ่งฤาชอบปวง ที่ผันแปรแม่ดวงสมรฯ
๐คำหวานสุดพล่านรัก จะประจักษ์สู่คำพล่าน
ร้อยเล่ห์ของดวงมาลย์ หลงลมร้อยเฉไฉกลฯ
๐อึงคะนึงสุดกล่าว ปนเปเศร้าเคล้าคิดถึง
บ่วงมัดสุดตราตรึง พบแต่ความปวดร้าวใจฯ
๐รักเล่ห์หรือร้อยลวง ชายหญิงตวงเก็บซ่อนไว้
หาญหักกลับเซไป เหลือสท้านผ่านอารมณ์ฯ
๐นี่หรือน้ำใจคน ลวงล่อจนหวานขมซึ้ง
สนามรักเคยตราตรึง เปลี่ยนแปรผ่านห้วงกมลฯ
๐ฉันเลวเกินกว่าคบ วกเวียนพบจะขาดผึง
อีกบ้ากว่าจะกลึง จะปวดร้าวเคล้าระทมฯ
๐อย่าสนเลยดีกว่า มาคบหาสู่ภัยตน
เขาเกลียดเกินกว่าคน หนีห่างไว้จะได้ดีฯ
๐จงหนีสุดไกลฟ้า ด้วยลีลาพญาหงส์
มังกรจะปลดปลง อึงคะนึงสะท้านภพฯ
๐สิ่งหวานจงใคร่คิด มากจะปลิดน้ำใจคน
ลวงเล่ห์ร้อยเล่ห์กล ผ่านสิ่งซึ้งจะเศร้าใจฯ
๐น้ำใจคนยากกล่าว มักสร้างข่าวเรืองวิไล
หมกเก็บสิ่งนอกใน แล้วยกอ้างแต่ความดีฯ
๐จงนิ่งแล้วอิงคิด ไตร่ตรองจิตแล้วรีบหนี
ห่างคนประเภทนี้ ปลดฟุ้งซ่านสราญรมย์. :-
* แก้วประเสริฐ.*
4 มิถุนายน 2553 15:04 น.
แก้วประเสริฐ
ชู้ทางใจ
ยลหญิงงามสุดสงวนแม่ยวนสวาท
พริ้มพิลาสเพริศพริ้งอิงเฉิดฉาย
เอวองค์นางเยื้องย่างพลางกรีดกราย
เสมือนดั่งคล้ายอัปสรอมรเทวัญ
นวลระหงส์อร่ามเรืองประเทืองแฝง
สายลมแห่งกายกลิ่นโชยรินสวรรค์
หอมระรวยโปรยปรายคล้ายลาวัลย์
ร่างตระหง่านพลิ้วหวนชวนหันมอง
เบื้องหลังนางยังแฝงชายชาติเชื้อ
บุรุษเอื้อเกื้อกูลเพื่อหนุนสนอง
ประคองเอวอรชรอ้อนแอ้นครอง
มิอาจปองเสนอไว้เพียงนัยน์นา
งามจริงหนอนั่งเหม่อจนเพ้อพก
ห้วงระทกกลิ่นเย้าเคล้านาสา
หอมระรินกายนางย่างเยื้องมา
ใจสั่นผวาฝากซึ้งสุดตรึงหทัย
หลายนวลอนงค์ผ่านมาหาสุดซึ้ง
จะตราตรึงเท่านางสร้างสงสัย
โอ้อกเอ๋ยใยผวนชวนอาลัย
แนบฝากไว้สรรสร้างกลางฤดี
หอมหวนเอยฝากลึกผนึกเคล้า
บังเกิดเร้าอารมณ์บ่มมารศรี
เขามีคู่ครองแล้วแผ่วเปรมปรีดิ์
เหตุไฉนมีสิ่งขวางมาสร้างครอง
หอมกายหวนยวนเย้าประทับฝาก
ดุจจะลากห้วงหทัยให้หม่นหมอง
เพียงแต่เหม่อครองไว้ละลายปอง
มิอาจสนองความหวังที่สร้างใจ
ยากจะได้ใกล้ชิดกลิ่นกายเจ้า
เหลือเพียงเงาแนบไว้ให้สงสัย
หรือแค่เป็นเพียงชู้สู่ทางหทัย
วาสนาได้เพียงยลระคนทรวง.
* แก้วประเสริฐ. *
1 มิถุนายน 2553 11:58 น.
แก้วประเสริฐ
สะท้านอารมณ์
ลุ่มลึกรักฝากไว้ในอารมณ์
สะท้อนขมขื่นยังฝังลงห้วง
บ่วงสวาทหลงเหลือเอื้อใยยวง
ดุจเป็นบ่วงซ่อนลงตรงหวามใจ
ฟ้าเคยกล่าวฝากคำร่ำเรียกร้อง
กอดประคองเลือนลับกลับสูญหาย
กลิ่นกระแจะหอมหวนล้วนละลาย
เคยหวานไฉนลบล้างกลบกลางดิน
ไม่เจียมตัวจึงเป็นดั่งเช่นนี้
สิ่งที่มีฝากไว้ให้หวนถวิล
โลมรำลึกยังจำพร่ำดวงจินต์
มาสูญสิ้นผ่านไปคล้ายสายลม
ยามมีรักสักครั้งหลงฝากฟ้า
ผืนพสุธากลบหน้าหาเหมาะสม
เป็นเพียงกาใฝ่หงส์หลงคารม
ต้องระทมหม่นหมองครองฤดี
จะเหลียวซ้ายแลขวาคนด่าข่ม
แสนระบมช้ำใจให้หมองศรี
เหม่อท้องฟ้าหรือข้ามีราคี
สิ่งปรมปรีดิ์อ้างว้างกลางหทัย
ความแปรเปลี่ยนเวียนวนปนลิขิต
พลิกผันปลิดฝากไว้ในสิ่งไสว
ยามมีเงินมากทองสนองวิไล
สิ่งทั้งหลายไร้สติมิไตร่ตรอง
จึงเหลือเพียงรสชาติที่ขาดสล้าง
ความอ้างอ้างเข้าแทนแผ่นดินสนอง
ต้องเร่ร่อนดุจสกุณาขาดเรืองรอง
มิอาจผยองโผผินโบยบินไกล
ตำนานรักของเก่าเฝ้ามาฝาก
หลงลมปากผ่านไปจึงไร้ไสว
บ่วงยิ่งรัดมัดตรึงสิ่งผ่านไป
เหลือเพียงใจฝากไว้ให้ใคร่ครวญ.
* แก้วประเสริฐ. *
26 พฤษภาคม 2553 17:00 น.
แก้วประเสริฐ
ช้ำทรวง
ระบัดความแพร้วเพริศบรรเจิดจ้า
ด้อยวาสนาวิปโยคแสนโศกศัลย์
สุดปั่นป่วนห้วงสถิตผลิตรำพัน
อเนกอนันต์ผ่านฟ้าโปรดปราณี
ม่านหลากสีฝากไว้จากไกลแล้ว
ที่เคยแพร้วรวยรินจากกลิ่นฉวี
พล่านจืดจางน้ำใจปราศไมตรี
ห้วงเริงทวีรัญจวนจนป่วนใจ
หยาดฝนหยดโรยรินไร้สิ้นฉ่ำ
เหลือเพียงร่ำเรียกหาคราสดใส
เน้นความหลังซาบซ่านผ่านวิไล
หนีจากไกลสุดหวังครั้งเรืองรอง
ยิ่งคิดไปผ่านห้วงคล้ายยวงเศร้า
อบอุ่นเคล้าเคลือบไว้คราได้สนอง
วันผ่านคืนล่วงลับยากนับครอง
สุดหมายปองเพียงฝันอันจินตนา
สายลมวสันต์ครานี้สุดที่กล่าว
หวานเคยเคล้าฝากไว้ให้ครวญหา
เดือนและดาวหนีร้างกลางเมฆา
ม่านท้องฟ้ามืดคล้ำพร่ำร้องคราง
แม้นตะวันร้อนแรงยังแฝงเศร้า
เหมือนปวดร้าวฤดีที่เศร้าหมาง
สร้างวิกฤตตอกสิ่งอิงเลือนราง
สุดอ้างว้างแลมองครองระทม
ต่อนี้ไปยากแล้วแพร้วเพริศพร่ำ
หวานเลิศล้ำเจือจางสร้างขื่นขม
ฝากกลางห้วงพลิกไว้ให้เป็นลม
ว้าเหว่ตรมสุดกล่าวเคล้าลิดรอน
สร้างฝากไว้มาสถิตยาพิษสร้าง
เป็นบ่วงขวางกรีดกั้นพลันสังหรณ์
เจ็บช้ำทรวงแนบไว้คล้ายเปียกปอน
ผลิตไหลย้อนห้วงหทัยให้ทรมาน.
* แก้วประเสริฐ. *