16 สิงหาคม 2553 19:55 น.
แก้วประเสริฐ
โอ้มหาราช
๐ เชื้อสายจีนยากคว้า ปิ่นทอง
แทนทดแผ่นดินผอง ยากล้ำ
แม่ไทยจึ่งคงสนอง พลิกก่อ ผไทแฮ
เห็นชาติล่มดำคล้ำ ฮึดสู้ม่านขจายฯ
๐ อยุธยาเขตล่มแล้ว เรืองรอง มลายเฮย
ปวงเหล่าน้ำตานอง แผ่นหล้า
ผันผวนป่วนปกครอง แบ่งแยก ก๊กนา
แสนสุดยากไขว่คว้า ม่านย้ำคืนผองฯ
๐ อยู่ตากครองไพร่ฟ้า ผสานสุข
พลไพร่ชนปราศทุกข์ สุดพลิ้ว
จากเมืองเพื่อป้องรุก ผืนแผ่น- ดินแฮ
ปืนใหญ่เป็นเหตุกริ้ว เผ่นล้ำนำทหารฯ
๐ ห้าร้อยนายทหารกล้า ยึดครอง จันแฮ
เรือบกจีนไทยสนอง ตลบล้อม
เจ็ดเดือนฆ่าม่านผอง แตกเผ่น ขยาดนอ
นำทัพฝ่าตลบอ้อม ไล่สิ้นหนีเขจริงฯ
๐ มวลอำมาตย์ชั่วช้า ถูกขจัด
หมายก่อสร้างวิรัช กษัตริย์ย้ำ
วิญญาณไล่เซซัด นอกเขต เก่านา
สุดเนื่องสายจีนช้ำ ยอกเนื้อ หม่นหมองฯ
๐ จึ่งคิดสร้างใหม่ขึ้น ธนบุรี นามเฮย
ตีฝ่าพวกอัปปรีดิ์ กอบกู้
รวมก๊กเหล่าเป็นศรี ขยายแผ่ ไทยแฮ
ต่างสยบมิอาจสู้ เนตรกว้างไพศาลฯ
๐ ต่างชาติเข้านอบน้อม ยุคล
เริงร่าผองไพร่ชน เปล่งล้ำ
จีนไทยต่างปะปน ค้าก่อ เจริญแฮ
เรืองรุ่งผสานไทยค้ำ เลิศฟ้ามาสนองฯ
๐ เมืองธนบุรีล่มแล้ว ตานอง น้ำเฮย
พลไพร่วิปโยคครอง มวลหล้า
เสี้ยนเกิดเพื่อนรักปอง เหตุก่อ จริงนา
คดีหนึ่งโทษไขว่คว้า ฆาตซึ้งก่อเวรฯ
๐ หนึ่งนายมิมากซึ้ง ยอมตาย
จ้อยจึ่งต้องสู่สลาย เทิดฟ้า
สื่อเลื่องฤาพาขยาย สร้างก่อ ใหม่แฮ
มิ่งขวัญฝากสู่หล้า ต่อฟ้าขยาดสยองฯ
๐ โอ้มหาราชสยบฟ้า ครองดิน สิ้นแฮ
อนุสรณ์สร้างยลยิน เกริกก้อง
ดาบแม้หักโบยบิน ฝากสู่ เหนือนา
สิ้นสุดธนบุรีพ้อง ชื่อล้ำไพศาล.:-
* แก้วประเสริฐ. *
13 สิงหาคม 2553 19:22 น.
แก้วประเสริฐ
ห้วงรักฤาไฉน
๐ สนธยาม่านฟ้า คราลับ ล่วงแล
แววสิ่งแพรวระยับ ฟากฟ้า
พราวแสงมิระงับ สรรก่อ มวลแฮ
สิ้นล่วงนี้ผ่านหล้า ฝากครึ้มยังสนองฯ
๐ อกพี่แสนห่วงซึ้ง อนงค์นาง
สิ่งวับจับเลือนราง เมฆคล้ำ
คร่ำครวญจืดจิตจาง หวามก่อ ม่านแฮ
รำลึกแสนฝากย้ำ ซ่านเนื้อนวลครองฯ
๐ ลมโชยบุปผาพลิ้ว ล่องลอย ลับนอ
หอมชื่นราตรีรอย ผ่านแพร้ว
ดวงเนตรคิดย้อนคอย รักซึ่ง มอบแฮ
ดุจหนึ่งดังฝากแคล้ว หลบลี้หนีหายฯ
๐ เหม่อมองธารผ่านน้ำ ไหลริน
วิหคโผโบยบิน พรากแล้ว
ขาวหงส์คู่เย้ายิน ผันสู่ หทัยแฮ
ทรวงอกมิผ่องแผ้ว ชอกช้ำมวลสนองฯ
๐ วจีผ่านโสตถิ์ซ่านซึ้ง ใยยอง มากเฮย
ไออุ่นเคยแนบครอง ผ่านไว้
ณ ที่เก่าหมายปอง คอยอยู่ เดียวนา
หวามวาบดลซ่านไซร้ บัดนี้เลือนหายฯ
๐ ท้าวคางคงพร่ำเพ้อ เดียวดาย
สายธารมิกลับกลาย ซ่านเร้น
หงส์เจ้าเพื่อนมิคลาย รอหยอก จริงนา
ห้วงอกนางซ่อนเน้น รักไว้มั่นเสมอฯ
๐ จวบสิ้นชีวิตแล้ว ยังคอย พี่แฮ
โดดเดี่ยวเดิม ณ รอย ผ่านแล้ว
ก่อนชมม่านผมปอย งามเด่น จริงนา
เคยฝากวจีเพริศแพร้ว ซ่านล้ำหทัยสนองฯ
๐ อกเอ๋ยอกชอกช้ำ น้ำใจ จริงเฮย
คอยสิ่งพราวสดใส ฝากน้อง
เมฆม่านกลับครึ้มใน ทรวงอก จริงแฮ
วายวุ่นสำเนียงก้อง เรียกร้องใฝ่สนานฯ
๐ น้ำตารินหลั่งไว้ หยดหยาด
คอยพี่จนแทบขาด พรากห้วง
เหลือเพียงร่องรอยพาด ปราศจาก กายแฮ
ฝากสิ่งดวงแดล้วง ไขว่คว้ากลับสลายฯ
๐ ความรักยากทอดทิ้ง จากใจ มวลเฮย
แสนฝากสิ่งสดใส เปรียบฟ้า
แปรเปลี่ยนผ่านจากไป เกิดก่อ หมองนา
หมั่นคิดก่อนจะคว้า รสลิ้มพึงสนอง.:-
* แก้วประเสริฐ. *
11 สิงหาคม 2553 15:34 น.
แก้วประเสริฐ
น้ำตาหญิง
๐ ม่านน้ำตาหยาดย้อยละห้อยฝืน
ปนสะอื้นแก้มอาบฉาบสิ่งใส
ด้วยเม็ดพราวปานเพชรเก็จวิไล
แต่เหตุไฉนแย้มยิ้มอิ่มเอิบนวล
๐ บางครั้งปนสิ่งสรวลชวนให้ฉงน
ยามจ้องยลกลับแปลกแลกกำสรวล
ก้มวงพักตร์ลงต่ำย้ำเย้ายวน
ล้วนอบอวลละอองมิหมองเลย
๐ เสียงสะอื้นปนสรวลชวนให้คิด
ยามเพ่งพิศจิตล้วนป่วนสิ่งเฉลย
น้ำใจหญิงยากแล้วใคร่ชิดเชย
แสนอภิเปรยปัญหาละล้าหทัย
๐ สักครู่หนึ่งจึงทราบเหตุผลนี้
ผ่านดวงฤดีของนางกระจ่างใส
วกวนเวียนสลัดหนามยามทิ่มใน
ที่สร้างไว้ชายหนุ่มแม่พุ่มพวง
๐ หันหวนคิดปัญหาในคราผ่าน
น้ำตาซ่านแปลกจริงยามยิ่งหวง
หรือความรักหลงใหลกว่าใยยวง
เกิดเป็นบ่วงสอดคล้องต้องหลั่งริน
๐ น้ำตาหญิงกับชายคล้ายไหมหนอ
สิ่งเกิดก่อผ่านไปให้หวนถวิล
หยาดรินหยดรดราดสาดดวงจินต์
แตกต่างสิ้นแต่คล้ายในสิ่งเดียว
๐แต่ชายนั้นผ่านซ่านซึมในทรวง
ยากจะล่วงนอกหน้าหาฉุนเฉียว
แม้นจะรักมากนักจักเดี๋ยวเดียว
ยากจะเกี่ยวหยาดน้ำพร่ำคำสรวล
๐ นี่คือข้อแตกต่างหญิงทั้งหลาย
ดีใจคล้ายเศร้าสร้อยละห้อยหวน
ก็รินหลั่งน้ำตาพาพลิกชวน
ล้วนปั่นป่วนเวียนวนระคนใจ.:-
* แก้วประเสริฐ. *
4 สิงหาคม 2553 21:39 น.
แก้วประเสริฐ
น้ำตาชาย
รักผันพลิกแปรปรวนล้วนสิ่งเกิด
โอ้บรรเจิดหลอกล่อหนอใจหาย
ความฟุ้งซ่านลุ่มหลงฉันคงตาย
ใยฝากคลายสิ่งฝันด้นดั้นครอง
ซ่านซึ้งคิดพล่านไว้ให้หวนเศร้า
อกแสบร้าวต่อสิ่งมาอิงสนอง
แทบจะคลั่งจิตใจที่หมายปอง
ดุจละอองหยาดล้ำหลั่งน้ำริน
ความโหยหาอวลอบช่างลบฝัน
เมื่อตอนวันซาบซึ้งฝากตรึงถวิล
ชโลมหวานผ่านฝากลากสู่จินต์
แค่ปลายลิ้นผ่านลมขมขื่นฤทัย
ครั้งแรกรักผายลมยังชมหอม
อุตพิดย้อมโชยกลิ่นถวิลสดใส
ผ่านวันคืนเพ้อคำพร่ำหวามใจ
หวานพริ้งในทรวงคิดจิตปรีดา
กาลวิวัฒน์แปรผันซึ้งฝันเปลี่ยน
พลิกวกเวียนหมุนกลับยับสิ่งหา
หวานชื่นชมสูญมลายไร้ราคา
มิย้อนมาคืนกลับประทับรอย
คงแต่ความหวานชื่นสะอื้นโหย
แสนรักโปรยสิ่งไว้ให้ละห้อย
เย็นเยือกสั่นฟุ้งซ่านวันรอคอย
คงเหลือน้อยสุดแล้วแผ่วนิยม
เกร็ดแก้วน้ำทบแสงแฝงสิ่งย้อย
หยาดลงคล้อยพสุธาพาขื่นขม
ชายอกหักรักสลายคลายที่ชม
ฝากเป็นปมในห้วงบ่วงมัดเชย
จ้องมองภาพฝากถวิลจินต์ครวญหา
หยาดน้ำตาพรมพร่างกลางนิ่งเฉย
ใบหน้าแย้มยิ้มยวนชวนหวานเคย
หลับตาเสยลักขณาหาเปลวเพลิง.
๐หยดร่วงรินหยาดแก้ม ซับทรวง
ผันพลิกกลับเป็นยวง ซ่อนไว้
รักซึ้งซ่านจากดวง- แดซบ หทัยแฮ
ยังใฝ่คิดนางไซร้ ชอกช้ำฤดีสนอง.:-
๐ความรักพึงมีไว้ เลือนรางไซร้มิได้ครอง
แลเปลี่ยนจากเรืองรอง จบอ้างว้างลบล้างจินต์
หยดหนึ่งจากน้ำใส ผันพลิกไปดุจคล้ายถวิล
เลือนลบกลบชีวิน ต่อนี้ไปคล้ายโรยลา.:-
* แก้วประเสริฐ.*
2 สิงหาคม 2553 16:19 น.
แก้วประเสริฐ
ลมรักสิเน่หา
๐ม่านเมฆลอยวกพลิ้ว หันหวน ใจเฮย
ฝนพร่างพรมชักชวน จ่างแล้ว
ห้วงมณีป่วนเย้ายวน กายก่อ เกิดแฮ
โอ้ช่างงามเพริศแพร้ว ม่านแก้วจากสรวงฯ
ล่วงล้ำช่างลึกซึ้ง ก่อเกิด
ลมรักเอยบรรเจิด ฟากฟ้า
รุ้งแสงส่งสีเฉิด วกสิ่ง ซ่านนา
มองยากจะไขว่คว้า สิ่งนี้จากสวรรค์ฯ
ลมโชยหอมกลิ่นเอื้อ จากนาง มากนา
ยากสุดจะเลือนราง ฝากเอื้อ
ซึมซับยากจะวาง เสน่หา ใจพี่
ร้อนเร่านางเอื้อเฟื้อ ฝากไว้ครวญครางฯ
จันทร์เพ็ญกระจ่างไว้ แสงนวล
กลับถูกเมฆวกกวน นภาแพร้ว
ฝนโปรยฉ่ำดุจชวน รักเริ่ม ก่อเฮย
เกิดสิ่งวาบหวามแล้ว ฉ่ำชื้นมิสลายฯ
ผันพลิกฟ้าสว่างแล้ว งดงาม มากแฮ
ใยกลับคิดเกรงขาม ม่านฟ้า
ลมโชยฝากกลิ่นหวาม ใจจ่อ จริงนา
คงมิหยามไขว่คว้า แด่น้องนางเดียวฯ
นึกคำโบราณไว้ ตำนาน
เขากำแพงกันดาร ยากกั้น
รักซึ้งย่อมขับขาน เร้นหลีก หลบแฮ
ใจหนึ่งใจฝากนั้น ยากฟ้ามาสลายฯ
หอมเอยบุปผาพลิ้ว ล่องลอย อวลเอย
เคล้ากลิ่นเย้าคิดคอย จากฟ้า
หวังเพียงแค่ริ้วรอย ย่อมก่อ สราญเฮย
แม้นสุดรู้ไขว่คว้า ต่อเจ้าเคียงสนองฯ
ราตรีนี้ซ่านซึ้ง คนึงครวญ
โลมรักมิอาจชวน สุดหล้า
โดดเด่นเดี่ยวเย้ายวน ห่มห่อ จริงนา
ใจส่งไว้ฝากฟ้า ม่านนี้สุดสนอง.:-
* แก้วประเสริฐ. *