4 เมษายน 2554 20:53 น.
แก้วประเสริฐ
กิ่งโศก
๏ แม้สุรีย์ไม่สิ้น............แสงสี
พื้นแห่งปฐพี.................เฉิดแล้ว
ผดุงเทิดใฝ่กวี...............ยากผ่าน มวลแฮ
คว้าไขว่ค้นสิ่งแพร้ว......ก่อไว้พลิกสรวงฯ
๏ โศกต้นบานเบ่งไซร้......มุ่งฝาก หอมเอย
มองสีม่วงงามจาก............หลุดพ้น
เพียรค้นช่างแสนยาก........วิปโยค เกิดนา
ดุจกิ่งซากโศกต้น..............หนีแล้วหม่นผองฯ
๏ นามกิ่งโศกฝากไว้.........ปากกา
รำลึกต่อสิ่งหา...................หม่นเศร้า
มิอาจถูกนำพา..................จิตซ่าน จริงเฮย
สรรพสิ่งผ่านเคล้า.............ยากซึ้งหวังสนองฯ
๏ กาลเวลาผ่านพ้น...........เนิ่นนาน จริงนอ
หวังก่อสิ่งเบิกบาน.............มอบไว้
กระทู้ส่งเอ่ยขาน................ถามไถ่ ตลึงแฮ
แม้นมาดเพียงหนึ่งไซร้......ลบข้อหม่นถวิลฯ
๏ คำตอบสั้นสุดซึ้ง..........ก่อเจิด ใจนา
นำคิดพัฒนาเชิด...............ไขว่สร้าง
บรรลุสิ่งค้นเฉิด.................ก่อเกิด สว่างเฮย
พ้นหลีกสิ่งเคว้งคว้าง........มั่นไว้ทั้งผองฯ
๏ เพชรก้อนแก้วเจียรแล้ว...เปล่งงาม
มวลสิ่งใฝ่ติดตาม...............เหลี่ยมแพร้ว
มุ่งบรรเจิดมิขาม................ผ่านสิ่ง หมองแฮ
สู่ขจัดจนผ่องแผ้ว..............สู่สล้างบรรเลงฯ
๏ เกิดกิ่งโศกพร่างพริ้ง....ผ่านตา ผองแฮ
งามสุดกานท์พรรณา.......ฝากไว้
สำนวนคำซ่อนหา...........เปล่งสวัสดิ์ มากนา
รูปยอกย้อนแทรกไล้.......ซาบซึ้งหวนถวิลฯ
๏ ดั่งแสงสุรีย์เปล่งฟ้า....รัศมี
ถ้อยบทอรรถรสกวี........นภาสล้าง
หลากแห่งสีมากทวี.......เหลี่ยมทบ สว่างแฮ
ไสวฉาบร้อยสิ่งกว้าง.....เฉิดแล้วใฝ่ปอง๚ะ๛
แก้วประเสริฐ.
3 เมษายน 2554 17:26 น.
แก้วประเสริฐ
แก้วประภัสสร
๐ รุจีรัตน์พวยพุ่งแสงรุ่งโรจน์
มณีวาวโชติแวววับพุ่งนับไสว
มุมขจรมวลสีเฉิดงามเลิศไกล
ฉวีสว่างไกวมุมพร่างกระจ่างตา
๐ วิวัฒน์แห่งฟากฟ้าคราบรรเจิด
แพรวล้ำเลิศพวยพุ่งยากจรุงหา
เจียรนัยเก็จแก้วเพริศแพร้วนภา
ปานดาราระยับประดับเดือน
๐ จากก้อนแก้วเจียไว้ในมุมหลี่ยม
รัตนะเยี่ยมเลอสลับยากนับเสมือน
ขาวประกายสุรีย์แสงยามแฝงเยือน
วับพราวเกลื่อนสีพร่างกระจ่างมณี
๐ งามยิ่งแล้วเลอเลิศประเสริฐฟ้า
เฉลาห้วงหาแฝงไว้ประกายสี
ประกายผ่องรองรับจับรวี
เกิดแสงมณีพวยพุ่งดั่งรุ้งพราว
๐ ประดับไว้เลอค่ายากหาแล้ว
ดั่งเพชรแก้วแววสลับสีนับขาว
สว่างไสวพริ้งเลิศดั่งเพริศวาว
รัตน์แสงสกาวเปล่งสีรวีครอง
๐ ประภัสสรเปรียบไว้สู่ในสรวง
รุจแห่งปวงสว่างไสวอิงไว้สนอง
วับวาวแสงเฉิดฉวีสุดที่ปอง
รุ่งเรืองรองแห่งมณีศรีกัลยา
๐ พริ้งแพรวพรายในสิ่งอิงใฝ่ผอง
รัศมีส่องกระจ่างสร้างหรรษา
เลอเลิศคุณแห่งค่าเพริศพรรณา
มวลมรรคาแห่งรัตน์จำรัสครอง
๐ แสงไสวส่องศรีสวัสดิ์พิพัฒน์ผล
สว่างไสวปนล้ำค่ายากหาสนอง
วาวพร่างผองอิงไว้ฝากใคร่ปอง
ลำยองก้องบรรเจิดเลิศแห่งมณี.
แก้วประเสริฐ.
31 มีนาคม 2554 20:38 น.
แก้วประเสริฐ
๐ ซ่านหัวใจ ๐
๐ เหม่อมองฟ้าเวิ้งว้างใยสร้างหมอง
หมู่เมฆครองฟากฟ้าอำลาใส
ดั่งผืนหล้าหมองคล้ำแสนช้ำใจ
คลุกเคล้าไว้ยากฝืนสะอื้นทรวง
๐ สุรีย์สรวงบ่วงมารช่างผลาญนัก
ลิดรอนจักภาพซึ้งคำนึงหวง
พลิกผันผวนฟ้าดินสิ้นทั้งปวง
เกิดก่อบ่วงสร้างร่ำพาคร่ำครวญ
๐ อนาถหนอโชคชะตาเวียนราษี
เปล่งปลั่งศรีแพรวพร่างพลางกำสรวล
หล้าเจ้าเอ๋ยเมื่อไหร่คลายแปรปรวน
เสียงกระพรวนเคยสั่นพลันหายไป
๐ สั่นระริกห้วงใจซ่านใยหวั่น
สิ่งแปรพลันยากแท้วางแก้ไข
ปวงสลับพับเปลี่ยนวนเวียนใจ
ดุจฝากในทรวงหม่นระคนครวญ
๐ ฝนแผ่สร้างลมหนาวคลุกเคล้าห้วง
ดุจดังล้วงน้ำใจไม่อาจสรวล
แม้แต่ผืนหล้าฟ้าพารัญจวน
มิจักหวนคืนกลับนับแรมลา
๐ รักเจ้าเอยแสนรักยากเพริศพริ้ง
แนวมวลสิ่งสลัดไว้หลีกไร้หา
อนาถหนอหล้าล้ำผ่านนำมา
โอ้เหว่ว้ารอบคลุมแม้พุ่มพฤกษ์
๐ พอราตรีอ้อยสร้อยพลอยเดือนดับ
ดาราลับพร่างแสงถูกแฝงผนึก
เมื่อไหร่หนอสิ่งหวังเคยนั่งตรึก
ห้วงลุ่มลึกฝากไว้คล้ายบ่วงมาร
๐ ต่อนี้ไปใครเล่าเฝ้าคอยช่วย
คงมอดม้วยผืนหล้าพาประสาน
ร้อนลมหนาวฝนผนึกนึกร้าวราน
คงจะผลาญความหวังพังทะลาย.
๐ แก้วประเสริฐ. ๐
31 มีนาคม 2554 16:55 น.
แก้วประเสริฐ
ฅนใช่คน
แสนอนาถหัวใจใคร่ร้องไห้
อิสระไร้บังคับนับกดหัว
ตอนเป็นไพร่ได้สิ่งอิงเมามัว
จนลืมตัวว่าไพร่ใช่อื่นไกล
ตอนเกิดมายากจนมิพ้นไพร่
พอเรียนได้ใหญ่โตโอ้สดใส
ตัวเป็นกาแซมขนหงส์ใส่ใน
ลืมยากไร้ถิ่นเก่าเฝ้าดูแคลน
เมื่ออยู่ป่าข้อหาคอมมูนิสต์
แผนการคิดอุดมการณ์ซ่านแถน
เบิกฟ้าผ่องอำไพทั่วทุกแดน
พอไหล่แขวนดาวยศหมดสิ้นไป
ถึงไพร่พลก็เถอะเลอะเทอะยิ่ง
สืมทุกสิ่งพี่น้องส่องหวั่นไหว
ดังใบไม้ล่วงปลิวละลิ่วไกล
ท้องถิ่นไสวลืมหญ้าทุ่งนางาม
ผิดหรือถูกอ้างอิงวินัยไว้
จนมอดไหม้ลืมตัวมิกลัวขาม
หากศัตรูลุกลามหยามเขตคาม
เข่นฆ่าตามหัวใจใคร่ชมเชย
ไทยฆ่าไทยด้วยกันดันเน้นเก่ง
คำสั่งเอ็งอ้างอิงสิ่งมาเฉลย
พ้นไพร่พลกลับคืนถิ่นที่เคย
มีหน้าเผยคืนอยู่กลับสู่นา
นี่หรือฅนดุจควายไปหมดสิ้น
หัวใจจินต์ดั่งสัตว์จัดสรรหา
ตัวเป็นไพร่ใยไม่คิดเจตนา
นายสั่งมาฆ่าผลาญจนบรรลัย
เลือดหลั่งโชลมหญิงชายทั้งหลายเอ๋ย
หากมันเผยกลับมาขออาศัย
จงส่งมันคืนหวนด่วนเร็วไว
ไล่กลับไปหานายที่ใช้มา
ประชาธิปไตยจะมีไหมหนอ
ไพร่ถูกหล่อฝังหัวมัวสรรหา
ได้อำนาจวาสนาพลิกผันพา
ลืมตัวข้าเป็นไพร่ในแดนดิน
เขาเลิกไพร่มานานผ่านร้อยปี
ล้วนพวกผีอุ้มไว้ใฝ่หาสิ้น
พาได้ยศตำแหน่งแฝงดวงจินต์
ล้วนโผผินผ่านไพร่ในท้องนา
ฅนใช่คนปนเปซวนเซแล้ว
กาขาวแจ้วเจื่อนคำพร่ำหรรษา
กูหาไพร่อย่างมึงซึ่งวาสนามา
อยู่ฟากฟ้าไพร่หญ้าข้าอำมาตย์
ประชาธิปไตยเสรีภาพอาบแสง
พิราปแฝงค้นคว้าหาได้ขลาด
คำว่าไทคือไทยไม่ยอมพลาด
ร่วมประกาศไขว่คว้าอิสระครอง.
แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2554 00:15 น.
แก้วประเสริฐ
กุหลาบขาว
๏ กุหลาบกลิ่นเฟื่องฟุ้ง หอมขจร อวลแฮ
หอมรื่นชื่นบังอร สุทธิ์แท้
ขาวงามผ่องกำจร แผ่ซ่าน จริงนา
สิเน่หาเปี่ยมแล้ ครวญซึ้งกลิ่นปอง๚ะ๛
๏ กุหลาบกลิ่นหอมฟุ้งขาวเร้าขจร
ผ่องกำจรอวลย้อมหอมนาสา
พราวพิสุทธิ์อัปสรเริงร่อนมา
สิเน่หากล่อมซ่านประสานใจ
๏ หยาดหยดน้ำล้ำดั่งเพชรเก็จแก้ว
วูบวาบแผ่วแวววับประดับใส
ชื่นเย็นซ่านอวลอบซบผ่านใน
วูบวาบไว้ตระการยามผ่านตา
๏ ยามเพ่งพิศกลีบดอกบอกซาบซึ้ง
ให้นึกถึงนกน้อยเฝ้าคอยหา
ไนติงเกลรักใคร่ให้บานมา
กลิ่นกายาดอกขาวเย้าอารมณ์
๏ ยามลูบไล้เร้าโลมบ่มหรรษา
ผิดท่วงท่าหนามเจ้าเฝ้าฝากขม
เกี่ยวหลั่งรินเลือดไว้ในเชยชม
เกิดเป็นปมสีแดงแห่งกุหลาบ
๏ เป็นตำนานกุหลาบแดงแฝงไว้
วาเลนไทม์ผูกพันฉันท์ถูกฉาบ
ด้วยเลือดนกไนติงเกลทอทาบ
ขาวจึงอาบสีแดงแห่งความรัก
๏ กุหลาบขาวคือเทพแห่งสรรสร้าง
กลิ่นเจือจางสิ่งหอมย้อมทอถัก
มอบให้เหล่าหญิงชายได้รู้จัก
อบอวลนักฝากชื่อเรื่องลือไกล
๏ อันดอกไม้กุหลาบขาวเคล้ากลิ่น
หอมโรยรินจากสรวงห้วงหวั่นไหว
ผ่านกำเนิดความรักประจักษ์ใจ
ยากหาใดเปรียบปานผ่านแดนดิน๚ะ๛
แก้วประเสริฐ.