23 เมษายน 2554 17:50 น.
แก้วประเสริฐ
อัปสรเทวีกาหลง
๐ หอมระรวยเทวัญทุกชั้นฟ้า
อบฟุ้งมาโปรยซึ้งตรึงห้วงถวิล
ลุกลามย้อมยั่วเย้าเคล้าโชยริน
สู่ห้วงจินต์กลิ่นพลิ้วลอยลิ่วไป
๐ พึงพบนางคลอเคล้าเฝ้าพฤกษา
ภาพลักขณางดงามหวามสดใส
ปทุมพุ่มพวงโน้มเด่นเน้นภายใน
ป่วนหวานไว้อวลซึ้งคนึงจันทร
๐ แฝงแกว่งไกวนวลฉวีดั่งมณีเชิด
วาบหวิวเกิดซึ้งไสวในอัปสร
ย้อมกลิ่นเนื้อจรุงไว้ในบังอร
พิศเย้าจรผ่านล้อมสู่อ้อมจินต์
๐ ปวงทวัญรานจิตจริตซ่านฟุ้ง
อวลเน้นมุ่งคลอพฤกษ์รำลึกถวิล
หอมกลิ่นป่วนฟุ้งซ่านผ่านห้วงริน
แทบขาดดิ้นวาบหวิวพลิ้วใจครวญ
๐ ด้วยเดชะมนต์เสน่ห์พล่านเหหวน
เพลินรัญจวนรอบต้นระคนสวน
เรียงรายรอบเขตไว้คล้ายชักชวน
คลั่งปั่นป่วนยากกลับนับหลงกาย
๐ คลุ้งระรินย้อมซ่านผ่านมารศรี
ผกาเทวีพราวพฤกษ์ผนึกขยาย
เหล่านกกาจับคอนซ่อนเรียงราย
เพริศโฉมฉายห้วงฉ่ำเลิศล้ำทรวง
๐ มิอาจถอนร่อนพรากจากแนวนี้
เฝ้าคลุกคลีหลงใหลดุจคล้ายสรวง
กลิ่นกาหลงเผยหอมเคล้าดอมปวง
วาบหวามห้วงร่วงต้นปนคลั่งตาย
๐ อวลย้อนตลบโชยไปในแมนฟ้า
รัญจวนพาเทพซ่านผ่านขวนขวาย
แม้นแต่องค์ปิ่นสวรรค์ให้ครั่นกาย
พลางเสด็จผายพรากบรรถรร่อนมา
๐ จำละพฤกษ์จากไปด้วยใจเศร้า
พึงหมายเฝ้าเล้าโลมด้วยเสน่หา
คอยวาสนาสร้างบุญหนุนนำพา
ป่วนผวาลาคล้อยเสด็จระเห็จจร
๐ เทพอัปสรกาหลงคงฝากไม้
สร้างมนต์ไว้แดนดินถิ่นสิงขร
เพื่อหนทางศาสนาคราร้าวรอน
ผ่านขั้นตอนตบแต่งแฝงใช้นาง
๐ สานตำนานกาหลงผู้ทรงเดช
แว่นแคว้นเขตภิรมย์บ่มสะสาง
ผสานผูกจิตผ่านใจให้เลือนลาง
เมตตาสร้างผ่านเวทย์วิเศษจริง.
แก้วประเสริฐ.
19 เมษายน 2554 13:14 น.
แก้วประเสริฐ
ลุ่มลึกเกินจะรัก
..๏ วิวัฒน์กาลพลิกเด่นเน้นหมกล้ำ
พลีสิ่งช้ำพลิกสานสิ่งผ่านผอง
เมฆฟ้าดินน้ำหลั่งสร้างเนืองนอง
แสงสีทองเปลี่ยนผันคอยวันมา๚ะ๛
..๏ วิวัฒน์กาลเด่นเน้น.....ผ่านผอง
อาภากรแสงทอง.............สุดคล้ำ
ฟ้าดินเมฆเฉกปอง...........สวัสดิ์ผ่าน รอบแฮ
เคล้าคลุกลำพองย้ำ.........กลบสิ้นป่วนถวิลฯ
..๏ อุระป่วนพลิกสิ้น.......ธรณี มากเฮย
ลุ่มลึกผ่านหมกวจี..........ยากคว้า
สุดจับไขว่ปวงฤดี...........ทอทาบ นภานอ
เมฆม่านคล้ำเก่งกล้า......ลับห้วงกมลแดฯ
..๏ หยดรินห้วงหลั่งพลิ้ว....ใฝ่ปอง
ล่วงเวลาผ่านผอง..............มากล้ำ
แขนงแตกละออง..............ฝากผ่าน ปวงนา
หยามสิ่งมากฝากย้ำ..........ฉาบล้นธรณีฯ
..๏ สิ่งนี้มิอาจได้..............แผ่นคืน แน่เฮย
คลุกกรุ่นยากทนฝืน..........ล่วงสิ้น
อกหวั่นแตกทนยืน............พสุธา ครวญแฮ
มืดคล้ำดุจดั่งลิ้น...............พลิกฟ้าปิดครอง๚ะ๛
..๏ วิวัฒน์กาลผลาญเน้น
พลิกหลบเร้นสุดเปรียบเปรย
ยากแล้วจะได้เชย
หมุนเคว้งคว้างดำมืดครอง
..๏ ผืนน้ำดินที่รัก
ที่มาหักสิ่งทั้งผอง
สีเอยวับเรืองรอง
ต้องเศร้าแฝงสู่ช้ำใจ
..๏ ลุ่มลึกลำพองหนัก
เปรียบเหมือนจักรตัดสดใส
แสงทองผ่องอำไพ
กลิ่นสาบควายยากคืนมา
..๏ ฟ้าน้ำแผ่นดินหมอง
สุดจะครองสิ่งค้นหา
ห้วงรักควักวิญญา
ลบดั่งร้างสู่คืนกาย๚ะ๛
๐ แก้วประเสริฐ. ๐
15 เมษายน 2554 12:27 น.
แก้วประเสริฐ
รัญจวนสิเน่หา
๐ หอมกลิ่นดอกมัณฑนาเพลาเช้า
อวลลอยเคล้าผ่านโปรยสิเน่หา
พลันพลิกป่วนล้วนซึ้งลักขณา
พลิ้วโชยมาล้ำลึกตรึกทรวงใน
๐ กลิ่นกายซ่านระคนปนเนื้ออ่อน
สั่นสะท้อนเวียนวนระคนใส
อิงแอบทาบทอหวิวพลิ้วสู่ใจ
ล้วนผ่านให้คำนึงตรึงใฝ่ปอง
๐ อกไหวหวั่นต่อสิ่งยามอิงเคล้า
อลอวลเย้ากายอาบฉาบทั้งผอง
ลอยละล่องลมพัดจัดหมายจอง
หอมลำพองพลิ้วหวนป่วนสู่กาย
๐ ซ่านหอมเชยเผยรับแววผุดผ่อง
ยามจ้องมองสะท้านผ่านรวีฉาย
เก็จน้ำค้างคอดกิ่วพลิ้วปะปราย
หลุดหล่นหายสู่สลับวับโอนเอน
๐ ดูชวนเย้าเผยสล้างระหว่างพิศ
สู่แนบชิดเผยขจายคล้ายพิมเสน
ล้วนละมุนกรุ่นล้อมหอมชัดเจน
สู่ใบเร้นผ่านห้วงช่วงเปียกปอน
๐ พลิ้วต้องลมกลีบคลายสยายหอม
กลิ่นกายย้อมซ่านฤดีมิอาจถอน
สิ่งแนบเนื้ออิงเผยเฉลยบางตอน
วับวาวผ่อนสูดซ่านผ่านอบอวล
๐ อูมอวบนวลเต้นเร่าเคล้ากระแส
พลิกพลิ้วแผ่สั่นไหวในหอมหวน
ดอมภายในสะท้อนตอนเนื้อยวน
แยกแสนป่วนห้วงฉาบทาบพลีใจ
๐ นางแม่เอ๋ยซาบซึ้งตรึงใจซ่าน
กิ่วพลิ้วผ่านอบอวลชวนหลงใหล
อยากแนบชิดคลอเจ้าคลึงเคล้าใน
เกลือกกลั้วไว้ซ่านห้วงทรวงยุคล.
“สุดที่รักเอยใยเจ้าจึงทำให้ข้า
รัญจวนป่วนหทัยนัก เมื่อไหร่
หนอกลับมาสู่อ้อมกอดข้าอีกเจ้า”
แก้วประเสริฐ.
13 เมษายน 2554 14:17 น.
แก้วประเสริฐ
รับขวัญสงกรานต์
..๏ วันวิจิตรปีใหม่ไทยย่างขาน
สิบสามกาลเมษาพาเกษมสานต์
เลิศดิถีย่างก้าวเคล้าเบิกบาน
พลิกวันวานเริ่มเฉิดเกิดเรืองรอง
..๏ อรุณสางชำระกายให้สอาด
แล้วใส่บาตรสรงน้ำพระทั้งผอง
ด้วยน้ำปรุงอบไทยใจฉ่ำปอง
ขันสีทองเติมแต่งแฝงดอกผกา
..๏ จิตตั้งมั่นเจริญธรรมน้อมนำจิต
เคล้าประดิษฐ์ใจรื่นชื่นหรรษา
เข้าฟังธรรมทางวัดสร้างจัดมา
สู่น้อมพาสิ่งสอนตอนนำแสดง
..๏ นำน้ำในขันทองสรงน้ำพระ
พิพัฒนมงคลดลธรรมแฝง
ปราศจากทุกข์โรคภัยอ่อนแรง
อำนาจแห่งรัตนตรัยให้ภิรมย์
..๏ แล้วชำระเท้าภิกขุผู้ประเสริฐ
ซึ่งเลอเลิศมวลธรรมนำสุขสม
แห่งพระไตรปิฏกไว้ให้เชยชม
แสดงเป็นบ่มขจัดสิ้นสิ่งอิงใจ
..๏ เล่นรดน้ำสงกรานต์ผ่านฉ่ำชื่น
แสนระรื่นห้วงในให้ผ่องใส
ตกเย็นสร้างเจดีย์ทรายใส่วัดไป
อธิษฐานไว้ฝากเป็นพุทธบูชา
..๏ เข้าสู่โบสถ์ฟังธรรมน้อมนำจิต
แล้วใฝ่ปลิดพ้นจากซากทุกข์หา
ผ่านซ่อนเร้นหลุดออกนอกกายา
พร้อมรัตน์มาแฝงไว้ใส่ทดแทน
..๏ ภายในวัดจัดงานอันครึกครื้น
แสนระริ่นมโหรสพครบถ้วนแถน
ลิเกหนังชิงช้าสวรรค์ลอยรำแพน
นี่แบบแผนสงกรานต์แต่นานมา๚ะ๛
แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2554 14:48 น.
แก้วประเสริฐ
๐ ปีกแห่งรัก ๐
..๏ ปีกรักยากหักแล้ว.......เหลี่ยมลา หลบแฮ
ราตรีสิเน่หา.....................ห่อนคว้าง
ซ่านเสียงผ่านรุจา............ห่มห่อ ฝากเนาว์
โลมลูบไล้ซ่านสล้าง........ม่วนแต้วาบไหว๚ะ๛
..๏ ปีกรักยากหักแล้ว สุดผ่องแผ้วลับลาไกล
หวานซึ้งทั้งนอกใน พลิกวาบหวามตะลึงแล
หนทางใช่ร้างเหตุ มณฑลเขตยังเผยแผ่
ฝันใฝ่ครั้งมวลแล โชควาสนามาเชยชม
ฤดูเปลี่ยนรสสร้าง สู่เลือนลางที่เสพย์สม
กลิ่นหอมอวลภิรมย์ อุ่นอิงไว้ไล้ลูบเชย
อาหารทิพย์ส่งกลิ่น ย่อมถวิลใคร่พึงเสวย
บ่วงฝากรักล่วงเลย สิ่งแดนฟ้ามาสู่ครวญ
วิมานรักสล้างจิต ล้วนสถิตย์คิดใคร่หวน
พักตร์เจ้างามเย้ายวน ปานอัปสรอมรเทวี
แม้นจากยังฝากรัก สวามิภักดิ์แม่มารศรี
สาวสวยทุกกรณีย์ มิอาจล้างสิ่งอาวรณ์
พิลาสเหม่อมองฟ้า ปวงเมฆาล่องลอยจร
ห่วงหาแสนอาทร ห้วงฉะนี้มิอาจเลือน
สำเนียงถ้อยตรึงใฝ่ รำลึกใจมิได้เฝื่อน
คิดถึงม่านดาวเดือน สิ้นแลลับยังนับคอย
ดุจต่ายน้อยแหงนฟ้า แลจันทราสุดละห้อย
นวลเอ๋ยรักมิลอย ผูกพันไว้ใฝ่คำนึง
ปีกแห่งรักผุดผ่อง ดุจละอองยองใยถึง
พันผูกสุดตราตรึง ดวงใจน้อยคอยเวลา
กานต์เอ๋ยเจ้ากานดา บุญนำพาใคร่มาหา
ซึ้งโฉมลุ่มลึกมา เงาโลมรักประจักษ์ใจ๚ะ๛
..๏ กานต์เอ๋ยเจ้ากานดาของข้าเอ๋ย
ดวงจันทร์เผยลำยองสุดผ่องใส
ผ่านนุ่มเนื้อผุดผ่องเป็นยองใย
จนคลั่งไว้ห้วงจิตยากคิดเลือน
..๏ พักตร์น้องเจ้างามเด่นเช่นฟากฟ้า
ครวญใฝ่หาพลิกพริบระยิบเฉือน
ห้วงแห่งรักโหยหวนปั่นป่วนเยือน
ใจข้าเสมือนเหี่ยวร้างอยู่กลางนภา
..๏ สบม่านเมฆหมอกอวลป่วนดำคล้ำ
ฝากลมพร่ำผ่านช่วยระทวยหา
ปีกแห่งรักหลากล้นยามพ้นมา
ซ่านกานดาค่ำเช้าแสนเฝ้าปอง
..๏ รักเจ้าเอ๋ยอย่าเป็นดุจเช่นนี้
กาลนาทีสร้างไว้ฝากให้หมอง
ทุกอย่างผันเปลี่ยนเวียนใยยอง
ความเรืองรองสีสรรอย่าผ่านไกล
..๏ ประสบการณ์ที่เห็นมักเช่นนี้
ล้วนมากมีหลงใหลมิคว้าไขว่
จะอวลอบรอบข้างเพื่อสร้างใน
ความสดใสหวนคิดยากบิดเบือน
..๏ ยิ่งมองฟ้ายามเพ็ญที่เด่นสล้าง
สมสู่สร้างซ่านไว้ดุจคล้ายเฉือน
สิ่งไหวหวั่นฝากให้ดูคล้ายเลือน
อย่าให้เหมือนดวงจันทร์ดั้นเมฆา
..๏ ปีกแห่งรักห้วงนี้พลีเพื่อเจ้า
ทุกค่ำเช้าครวญคร่ำเฝ้าพร่ำหา
หวั่นจะหักแรมร้างเลือนลางมา
เป็นบ่วงผวาร้อนรุ่มดังสุมเพลิง
..๏ ลมเจ้าเอ๋ยเผยรักฝากผ่านเคล้า
สิ่งคลอเย้าจากใครอย่าใฝ่เหลิง
มิผันเปลี่ยนเผื่อไว้อย่าได้เถกิง
หลงระเริงมากนักจากคนไกล๚ะ๛
แก้วประเสริฐ.
(ภาพนี้ขอจากคุณ ครูกระดาษทราย
ขอรับท่านที่รัก)