2 กรกฎาคม 2554 18:05 น.
แก้วประเสริฐ
๐ รักซ่อนรัก ๐
๐ ทุกห้วงสิ่งซ่อนไว้..........รำลึก
ล้วงซ่านฝากติดผนึก.........ซุกไว้
ฟุ้งมากผ่านคราตรึก..........กลับเด่น จริงนอ
เผยสิ่งรักแด่คราไซร้.........พลิกคว้างกลางหาว.๐
........................................
๐ งามเอยจันทร์แจ่มฟ้าคราซ่อนไว้
เผยไฉไลนวลพักตร์ประจักษ์แสน
ลุ่มลึกล้ำคราฝากดุจจากแดน
ดุจดั่งแขวนสิ่งพราวแสนเหงาใจ
๐ รักครั้งหนึ่งพึงฝากแต่พรากแล้ว
โอ้นางแก้วยอกย้อนดั่งซ่อนใส
อิงเคยแอบหนีร้างดูห่างไป
ทิ้งฝากไว้โดดเดี่ยวช่างเดียวดาย
๐ ความอ่อนหวานออเซาะไพเราะเหลือ
ล้วนจุนเจือสร้างทางกลับวางสลาย
ฝากแต่กลิ่นหอมจางดุจนางพราย
หมอนเคียงกายไฉนร้างว่างเหลือเกิน
๐ ก่อนนั้นเล่าเฝ้าคลอมิขอพราก
หวานที่ฝากลืมแล้วจากแนวเถิน
เถียงน้อยนาช่วยสร้างอยู่กลางเนิน
แล้วเพลิดเพลินพนอรักประจักษ์ความ
๐ คืนดึกแล้วเหว่หว้าจนล้าจิต
เธอลิขิตเหตุใดจึงได้หยาม
เฝ้าแต่มองท้องฟ้าเพื่อหางาม
รักกลับลามฟุ้งซ่านผ่านถึงเสมอ
๐ คำรักหรือซ่อนไว้ในรักสิ่ง
ซึ้งใจจริงกลับทำจนพร่ำเผลอ
ขลุ่ยกังวานผ่านเรียกสำเหนียกเธอ
ฉันละเมอครวญคร่ำย้ำเรียกนาง.
๐ แก้วประเสริฐ. ๐
26 มิถุนายน 2554 14:54 น.
แก้วประเสริฐ
๐ บัวบังใบ ๐
๐ ปทุมเบ่งหุ้มห่อแก้ว..........เกสร
ระริกผ่านลมจร.....................รอบกว้าง
ไหวเอนยั่วภมร.....................ใบบัง เชยนา
ระเด่นยวนยั่วสล้าง...............ดุจคล้ายนารีฯ
๐ สุรีย์แสงทอทาบแล้ว........พร่างพราย
แวววับจับเฉิดฉาย................อวลฟุ้ง
หอมหวลกลิ่นเรียงราย.........สู่ซ่าน มากนอ
โลมสิ่งเคยแนบคลุ้ง.............กลิ่นแก้มเย้าขจรฯ
๐ ธาราละลอกพลิ้ว.............ละออง
ปทุมมาศสิ่งเรืองรอง...........ยลเคล้า
เช้าเย็นสวดสู่ครอง..............แนบสนิท ธรรมเฮย
มิอาจเลิกแนบเฝ้า................ม่านซึ้งหอมถวิลฯ
๐ ใบบังบัวห่อหุ้ม..............ซ่อนกลีบ
เกสรคลุกห้อมจีบ..............พลิกแพร้ว
ดุจมองเหม่อนางรีบ..........กลบหลีก กลิ่นแฮ
ยลหม่นยากผ่านแล้ว.........ใฝ่ซึ้งหวนถวิลฯ
๐ สีเหลืองสะบัดพลิ้ว........งามตา
เดินมุ่งธรรมค้นหา.............ซ่านซึ้ง
ข้าซิไขว่กลิ่นมา................กลับพราก นางแม่
สิ่งหมกเร้นจากบึ้ง.............ยากคว้าแนบครองฯ
๐กังสดาลผสานสิ่งก้อง....ลอยลม
เสมือนดั่งบัวใบจม............สู่น้ำ
สนธยาลับห้วงตรม............มองเหม่อ นวลเอย
ปทุมถูกใบบังช้ำ................อกข้ายากไฉน.๐
๐ แก้วประเสริฐ. ๐
18 มิถุนายน 2554 00:13 น.
แก้วประเสริฐ
๐ ลมหวน ๐
๐ ท้องฟ้าพิลาสล้ำ.............วกวน
สิ่งรอบกลางเวหน...............ลึกล้ำ
สรรป่วนวกเวียนจน.............สู่จิต มากนา
มวลสิ่งพลิกม่านย้ำ.............ส่งพลิ้วลับลวงฯ
๐ อวลอบป่วนผ่านฟ้า........พร่างพราย
วางส่งพลิ้วกระจาย.............ผ่านห้วง
สิ่งครึ้มคลั่งประกาย.............ม่านก่อ มากแฮ
ประหนึ่งดังไขว่ล้วง.............สบไว้คร่ำครวญฯ
๐ ห้วงเอยใยเปลี่ยวร้าง.........ชักชวน
วกคิดสิ่งเย้ายวน....................ลึกซึ้ง
ว้างจนสิ่งเร้าหวน...................สรรสู่ มากเฮย
ที่ฝากกลับป่วนขึ้ง..................ร่ำร้องมิคลายฯ
๐ ทรวงเอ๋ยใยเช่นนี้..............ม่านพลาง
ประดุจรุ้งเลือนราง................ฝากไว้
ย้อนยอกผ่านเจือจาง............ผันก่อ มากเอย
เปี่ยมดั่งลมแปรไซร้..............ซ่อนเร้นสิ่งถวิลฯ
๐ คลุ้มคลั่งดั่งฟากฟ้า..........ผ่านดิน
เวียนสิ่งวกอาจินต์................อ่อนล้า
พัดวนผ่านชีวิน.....................ส่งฝาก ตรึกเฮย
ห้วงรักมิอาจคว้า..................สูญสิ้นแผ่ขยายฯ
๐ ม่านฟ้าวนวกร้าง...............เปลี่ยนไป
ใยชอกช้ำภายใน..................มากแท้
ยอกย้อนสิ่งสู่ใจ....................แลลบ จริงนา
สิ้นสุดทางป่วนแล้................ดั่งคล้ายลมหวน.๐
๐ แก้วประเสริฐ. ๐
8 มิถุนายน 2554 17:05 น.
แก้วประเสริฐ
๐ นิรัติศัย ๐
..๏ภาณุมาศผ่องแผ้ว......นพคุณ
พิลาศเปล่งการุณ............เฉิดคว้าง
วุฒิเด่นพิรุณ....................ไสวเชิด วับแฮ
พริ้งส่งระยับสล้าง............ยลแล้วมิ่งสรวงฯ
..๏ฉาบทอระเด่นแพร้ว......งามตา
วิบแวบผ่านธารา...............ผ่องพลิ้ว
ระลอกคลื่นชลมา.............เบิ่งส่ง ยลเฮย
พวยพุ่งละอองริ้ว...............เปี่ยมคว้ารุ้งไสวฯ
..๏มโนรมย์เชิดไว้............มุ่งตรึก
แฝงสิ่งคล้ายรำลึก............ผ่านห้วง
อวลอบกลิ่นดังผนึก..........อบร่ำ ฝากนา
อนงค์ดุจยอกย้อนล้วง.......สู่ซึ้งนางถวิลฯ
..๏หมอกทาบผ่องพลิ้ว.........ระยิบ
ภาณุสร้อยพรายพริบ............สู่กว้าง
เวิ้งว้างแห่งห้วงลิบ...............พราวเด่น มากแฮ
อุษาส่งเคว้งคว้าง................สู่ไว้ยากสนองฯ
..๏ภูเทียบแลคลื่นแพร้ว.......อรุณลาง
แสงเฉิดส่งร้อนวาง..............ละน้อย
พิรุณเหือดรุ้งจาง..................หนีก่อ ลับแล
พร่างหยดจากใบย้อย...........ล่วงแล้วหนีหายฯ
..๏อุระล่วงลี้ละน้อง............บ่ปาน
ผิวชนแสนขาน...................แซ่ซ้อง
ภาณุมาศเปล่งราน.............มุ่งเลี่ยง หลบนา
โดดเดี่ยวใจร่ำร้อง..............ดุจข้าเหลียวหายฯ
..๏นิรัติศัยแห่งข้า..............ล่วงโรย
อุระซิบ่มโหย.....................ปริแล้ว
นามนี้ก่อหวนโบย..............สู่จิต มากแฮ
เหลือชื่อไร้ผ่องแผ้ว...........แค่ไล้อดปองฯ
..๏พิลาสซิบ่งซึ้ง................คิดลวง
เผยสิ่งห้วงเอนกปวง..........ชอกช้ำ
ดั่งภานุมาศหวง.................สีสรร ลับนอ
ดุจดั่งนางพร่ำย้ำ................บ่งไว้สู่สลาย๚ะ๛
๐ แก้วประเสริฐ. ๐
4 มิถุนายน 2554 17:58 น.
แก้วประเสริฐ
๐ หนูไม่รู้ ๐
๐ ดีแต่พูดเอียงหน้าทำตาเท่ห์
ให้มันเก๋ยิ้มแย้มแต้มฉาดฉาน
ประชานิยมชมชอบตลอดกาล
ด้วยไทยผ่านเงินกู้ดูเกรียงไกร
๐ เดบิตดีเหลือเกินเขาเชิญกู้
พวกเธอดูประชาหน้าผ่องใส
ต่างนวลผ่องละอองลำยองใย
ฉัีนใช้จ่ายหมื่นล้านผ่านประชา
๐ สร้างเคดิตไข่ช่างกิโลขาย
เธอกำไรมากมายใยกังขา
น้ำมันปาล์มตุนไว้ในตำรา
เพื่อประชานิยมชมเชยเรา
๐ ที่เขาตายกันนั้นฉันไม่เกี่ยว
ด้วยไม่เอี่ยวฆ่าเองละเลงเฉา
ฉันไม่รู้หนูไม่รู้ดูเอา
ปืนโป้งเขายิงฟ้ามาแกล้งตาย
๐ อเมริกาบอกว่ามาเป็นใหม่
เพื่อจะได้กู้ต่ออย่ารอสาย
เก็บไว้ให้ประชาอย่าพึงวาย
ชาติละลายไม่รู้กู้รูปเดียว
๐ ทุกอย่างนี้ฉันทำเพื่อชาตินะ
เพื่อเธอจะร่ำรวยด้วยอย่าเสียว
กระจายเงินแจกไปให้ตัวเกลียว
ไม่เคยเบี้ยวโป้ปดเงินหมดคลัง.
๐ แก้วประเสริฐ. ๐