3 มีนาคม 2547 23:32 น.
แก้วประเสริฐ
วันแห่งคืนและฝันที่ฝันหา
คงจะอยู่ไม่ไกลตาให้สุดสอย
หนึ่งในนั้นที่ตัวฉันมั่นรอคอย
คือได้มิตรใหญ่น้อยมาคอยรอ
การกลับมาคราเยือนเหมือนเดิมนั้น
แบ่งความผูกและผันไม่ยลย่อ
แม้ทุกข์ก็จะหายหาใครรอ
เป็นกำลังสานต่อพอผูกพัน
ผู้หญิงไร้เงา
การสานฝันพรรณเพริศเลิศแล้ว
โอ้นางแก้วเช่นเธอหาใดเหมือน
แผ่นพิภพจบโลกายากแลเลือน
เธอเสมือนมิตรข้างกายใจฉันพลัน
ทุกวันนี้ใช่ห่างร้างในน้ำใจหญิง
ใจฉันนิ่งช่วยเพื่อนเราประสานฝัน
สิ่งใดทุกข์ย่อมแบ่งทุกข์ไว้ให้แก่กัน
ไม่เช่นนั้นจะนับเป็นเพื่อนได้อย่างไร.
แก้วประเสริฐ
3 มีนาคม 2547 15:49 น.
แก้วประเสริฐ
กลิ่นหอมดอกไม้ในดงพฤกษาชาติ
ดารดาษต้นไม้ไทยเรียงรายต้น
การเวกหอมหวลเย็นชื่นในนฤมล
ดุจดั่งอนงค์รสรักหวานซาบซ่านส์ทรวง
ห้วงหทัยใจประหวัดใฝ่ใจถึงน้อง
เคยประคองยอดอนงค์แสนสุดหวง
อิงแอบเคล้าน้าวโน้มแนบอกทรวง
เหนี่ยวรั้งดวงหทัยเจ้ามิให้จากไปไกล
เราสองเคยพรอดพร่ำรักใต้เงาพฤกษ์
มีวิหคผนึกรวมตัวส่งเสียงขับขานให้
ผีเสื้อลายหลากสีบินรำวนเวียนไป
ผนึกหัวใจเราขับขานเป็นตำนานทอง
ร่วมประสานตำนานรักไว้ใต้ต้นไม้
จารดวงใจสลักผนึกไว้เราทั้งสอง
ว่าจะไม่แยกแตกรักเพราะคัลลอง
ทำให้สองเราพลัดพรากร้างแรมไกล
ใกล้แล้วหนอการเวกนามของน้อง
พี่ยังจ้องมองต้นไม้การเวกมิไปไหน
มิเลือนลับยังกระชับรักเจ้าไม่ไปไกล
เด็ดดอกไม้ไว้ใต้หมอนนอนสูดดม
สัญญารักฝากไว้จะมาในปีหน้า
เหลือเวลาไม่นานนักรักคงได้สม
ขอเจ้าถนอมรักอย่าให้ใครเชยชม
พี่จะรอดมกลิ่นแก้มนางการเวกนวล.
แก้วประเสริฐ.
3 มีนาคม 2547
3 มีนาคม 2547 15:02 น.
แก้วประเสริฐ
วิเวกแว่วไก่แก้วขันประชันเสียง
สำเนียงเพรียกไพเราะเสนาะหู
น้ำค้างหยาดพร่างพรมร่างกายตู
บอกให้รู้ว่าวันใหม่ย่างใกล้เข้ามา
สายตายังคงจ้องดาราเฉิดฉันท์ฉาย
เปล่งประกายแสงสีสรรส่งมาหา
เหมือนดวงตาใครแลจ้องมองมา
ประสบตาตัวฉันพึงพรั่นสุดหัวใจ
อนาถหนอตัวฉันนี้คิดแล้วสุดเศร้า
อกเราแลน้ำใจใยช่างไม่ผ่องใส
นึกถึงวันเขาหนีรักสลัดไร้เยื้อใย
หนีจากไปไกลสุดขอบฟ้าเฝ้าอาดูร
ฉันผิดอย่างไรหรือเจ้าสุดที่รัก
จึงหน่ายนักหนีรักไปเสียสิ้นสูญ
อกพี่ช้ำในทรวงเศร้ายิ่งเพิ่มพูล
อยากจะกูลกอบเอารักให้กลับมา
ดาวเหนือเอ๋ยเหนือดาวกว่าใครเขา
เจ้าเป็นดาวดวงเด่นนภายากจะหา
ประกายเจ้าเคล้าแข่งแสงจันทรา
ประโลมฟ้าใยละพี่ไปสุดช้ำตรม
หลายวันนี้พี่รอเจ้าด้วยใจจิต
เพื่อลิขิตกำหนดชีวิตใหม่ให้สุขสม
สุดที่รักจงหันกลับมาอย่าใช้อารมณ์
ทุกคืนตรมยืนมองดาวเฝ้าคอยคืน
แสงอรุณฉายฉานดาวเหนือลับ
คงจะกลับหวนมาใหม่เขาไม่ฝืน
แต่รักพี่ที่เสียไปหวังได้กลับคืน
แต่เขากลืนเรื่องรักยากกลับมา
เดินเซซังหันหลังกลับนับแต่นี้
คงไม่มีวันเคียงคู่เขาดูเจ้าเสน่หา
ดาวเหนือเอ่ยค่ำคืนนี้พี่จะกลับมา
ชมดาราแทนหน้าเจ้าทั้งเศร้าตรม.
แก้วประเสริฐ.
3 มีนาคม 2547
1 มีนาคม 2547 23:44 น.
แก้วประเสริฐ
ขมิ้นน้อยอาจด้อยเรี่ยวแรงหด
บินลัดลดอ่อนล้าระอาหนอ
ไร้นกบินเคียงข้างหว่างพนอ
ไร้ปีกคลอคู่จิตคิดให้ตรม
หนทางไกลแสนไกลเกินไปถึง
อาจล้มตึงชีวาอุราขม
อาจบาดเจ็บปวดร้าวเศร้าระทม
อาจติดหล่มจมปลักปีกหักเอย
บินหลาเอ๋ยคอยอยู่ ณ ปลายฟ้า
ใจของข้าฯ อาจเศร้าเฝ้าเฉลย
บินเร่ร่อนรอนแรมแซมอย่างเคย
โดนเขาเย้ยเยาะอย่างหมางเมินกัน
แต่จะขอกล้าแกร่งแสดงอีกหน
กว่าชีพหม่นย่อยยับดับอาสัญ
ท่ามกลางแสงแรงกล้าของตาวัน
ยังคงมั่นฝ่าฟัน..วันถึงชัย
อัลมิตรา
ขมิ้นเอยเคยเก่งกล้าวาจาหาญ
เมื่อวันวานเคยโก่งร้องพนอเสียง
ไพเราะจิตจับหัวใจคนใกล้เคียง
เสียงร้องเรียงบินหลาน่าชมเชย
ระยะทางไม่อาจวัดได้ด้วยกำลังม้า
สติปัญญาบินหลาด้อยสุดจะเฉลย
แต่มอบให้นกขมิ้นมิตรอย่างเคย
แม้นจะเลยสติปัญาบินหลาก็ยอม
จะบินไปคู่เคียงเจ้าจนกายลับ
แม้นกลับถูกดูหมิ่นสิ่งแวดล้อม
ด้วยกายใจจะมิให้เจ้าตรมตรอม
สิ่งแวดล้อมดีชั่วล้วนตัวของมันเอง
โบราณท่านว่าไว้ในการคบหา
ให้นำพาใส่ใจเพราะตรงเผง
คนพาลนั้นมันมักชั่วตัวมันเอง
บัณฑิตเกรงหนีหน้าห่างหายไป
ขมิ้นเอยโลกเรานี้กว้างใหญ่ไพศาล
คนดีท่านมากมายกว่าชั่วเป็นไหนๆ
คนที่ชั่วควรหนีหลบไปเสียให้ไกลๆ
ถึงอย่างไรหากรบสู้เหม็นจะติดตัว
กลับมาเถิดไพรพฤกษานานาชาติ
มีที่วาดอักษรบทกลอนให้เฉิดฉันท์
บรรลือให้เจิดจรัสไม่สนเราช่างมัน
เราสองนั้นแคร์อะไรสิ่งไม่แน่นอน.
แก้วประเสริฐ.
แด่ยอดนักกลอนหญิงอัลมิตรา....กลับเถิดใช้ภูมิสติปัญญาที่เพริศแพร้าวพรรณรายของท่าน วาดบทกลอนท่านให้ระบือ......อย่าไปสนใจอะไรในสิ่งที่ไม่แน่นอน....ขอให้ท่านจงสร้างวีรกรรมสตรีในบทกลอนของท่านให้โลกระบือ....จดจำนามอัลมิตราไปชั่วฟ้าดินสลายเทอญ.....แก้วประเสริฐ.
25 กุมภาพันธ์ 2547 13:27 น.
แก้วประเสริฐ
ซบหน้าบนกิ่งแอบอิงแนบพฤกษา
ใจหวนหาพาจิตท่องใฝ่ปองหา
คำนึงคิดหวนด้วยจิตพิจารณา
จิตไขว่คว้าหานวลน้องต้องเศร้าใจ
วันแห่งหวานปานซึ้งถึงความรัก
ใจหวนหักแทบสิ้นใจกว่าไหนๆ
ชีวิตรักช่างยากเข็ญเหลือกระไร
ใจหวนไห้ยากจะฟื้นคืนกลับมา
โอ้นี่หรือคือความรักที่มอบให้
ช่างกระไรใจฉันชอกบอบช้ำหนา
สุดที่รักมีคำพูดไว้ใจไม่หวนคืนมา
สุดปราถนาเพียงแค่ใจใยละเลย
รู้หรือไหมว่าคำพูดนัยแห่งความรัก
มันช้ำนักใจแทบขาดไปสุดเฉลย
นี่แหละหนาที่เรียกว่ารักช้ำเราเคย
สุดเปรียบเปรยเอ่ยความรักยากกลับคืน
จะมีใครเล่าหนาที่มีใจใฝ่รัก
เพื่อฉันจักเก็บไว้ใจไม่ฝืน
ถนอมรักสุดบูชาไว้ทุกวันคืน
เพื่อกลับคืนความบอบช้ำระกำใจ
พลันถอนกายใจสุดช้ำน้ำตาสะอื้น
ยากกลับคืนตื่นจากฝันที่หวนไห้
อนาถแท้หนอชีวิตที่มีอันเป็นไป
ใจหวนไห้หันหวนคืนฝืนจากไกล.
แก้วประเสริฐ.
25 กุมภาพันธ์ 2547