20 มีนาคม 2547 14:37 น.
แก้วประเสริฐ
พระพายพัดโชยพลิ้วริ้วระริก
ท้องฟ้ามืดสนิทมวลดารากระจายแสง
บางดวงกระพริบบางดวงสนิทสีแดง
ใบไม้แกว่งโอนไหวอยู่ไปมา
ฉันยืนมองท้องฟ้าพาถอนจิต
ปล่อยชีวิตให้สบายใจเรียกหา
ประกายดาวที่ฉันมองทุกครา
ไฉนหนาแสงอ่อนไร้ให้มืดมัว
ให้แปลกใจเหตุไฉนไร้แสงสด
เคยสวยสดพร่างพรายกระจายทั่ว
เคยเฉิดฉันท์พรรณรายไม่มืดมัว
กลับสลัวมิทราบเหตุให้ข้องใจ
หรือว่าคนที่เคยเพ้อละเมอรัก
มีอันจักเป็นไปใจไม่ผ่องใส
จนเป็นเหตุผันแปรในดวงใจ
ฟ้าจึงได้กำหนดบ่งบอกดวง
ชีวิตหนอพอถึงสุดก็เพียงนี้
ยากที่จะปีนขึ้นได้ให้สู่สรวง
มนุษย์เราฟ้ากำหนดไปตามดวง
อยู่ที่บ่วงเวรกรรมที่ทำดี
โอ้ดึกเอยดึกแล้วเสียงเจือยแจ้ว
ลมพัดแนวกิ่งไม้เสียงเสียดสี
ดุริยางค์พฤกษาชาติมวลมาลี
กล่อมราตรีแนวโน้มหอมประโลมใจ
ใจเอ๋ยใจของฉันนั้นหยุดแล้ว
ไม่เลื้อยแว่วเสียงขานให้หวั่นไหว
หยุดเอยหยุดนะหัวใจแม้ใครใคร
เพราะฉันได้เคยอกหักจนหนักทรวง
หันเหรักภักดีไว้ให้ตัวบ้าง
ถึงชอกช้ำเพราะเราไม่ต้องห่วง
ตัวเราช้ำอย่างไรแล้วแต่ดวง
ไม่ต้องห่วงบ่วงรักจนหนักใจ
ร้องเพลงคลอขานรับราตรีจ๋า
คือกานดาที่ฉันต้องเพ้อจนสดใส
สร้างชีวิตให้เบิกบานสราญใจ
ช่างสดใสในยามแห่งราตรี
กลิ่นดอกแก้วหอมโชยไร้ดอกโศก
ชีวิตโศกหายลับกลับคืนที่
ดอกราตรีประโลมเราเคล้าราตรี
โลกมีราตรีนี้ฉันสุดจะประทับใจ.
แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2547 12:07 น.
แก้วประเสริฐ
รักของเธออยู่ไหนใคร่อยากรู้
หรือเพียงกู่ขับขานกานท์สนอง
ร้อยกลเล่ห์เพทุบายร้ายทำนอง
อาจเพียงคล้องใจหญิงแล้วชิงเมิน
รักของเธอพิสูจน์ได้กระนั้นหรือ
คำพูดคือสื่อไหนให้ขัดเขิน
ฤๅเพียงพร่ำย้ำคำลำนำเพลิน
กับคนที่บังเอิญเดินผ่านมา..
จาก : - อัลมิตรา
ขอจำแนกแยกจิตคิดบอกกล่าว
ถึงเรื่องราวผ่านมาน่าขื่นขม
เคยพลาดรักครั้งแรกให้อกตรม
มันฝืนตรงหาทางระบายในใจปลง
มิใช่ผมร้อยเล่ห์เพทุบายร้ายเรื่องรัก
เพื่อจะชักนำหญิงให้มาใหลหลง
ผมรู้ตัวว่าผมนี้ไม่มีใครที่หมายลง
จึงได้ปลงในเรื่องรักนี้มาตั้งนาน
ขอท่านโปรดย้อนกลอนผมที่เคยกล่าว
ไม่เคยสาวว่ารักใครชวนมาให้เพื่อสาน
เพียงระบายในหัวอกไว้ให้เป็นตำนาน
เพื่อคนผ่านจะได้รู้ไว้ให้เป็นทาน
ว่าบ่วงรักนั้นมักเกิดกับหญิงก่อน
มันร้าวรอนเพราะแยกจำแนกขาน
เรื่องครอบครัวประเพณีมีมานาน
เป็นกำแพงกั้นกลางความรักสะบั้นเชิง
ความปวดแปลบร้าวราญสะบั้นจิต
ยากจะคิดมีหญิงใหม่ให้ร้าวฉาน
นอกจากรอความรักจักให้ทาน
เพื่อลดผ่านความร้อนภายในกาย
อันรักใคร่ผมนั้นมันฝังลึกในจิต
ยากจะคิดผุดขึ้นมาน่าใจหาย
ปล่อยมันให้ชอกช้ำระกำกาย
แม้นจะตายขอฝังไว้ในอารมณ์
การคบพาหาเพื่อนเพราะความเหงา
ระบายความเก่าในใจให้เพื่อนได้สุขสม
เป็นหนทางเดียวที่ฉันยากเลือนมันตรม
แม้นจะขมให้เพื่อนรู้ไว้เป็นแนวทาง
สิ่งผ่านมาเป็นตำราไว้ให้ประจักษ์
ถึงเรื่องรักที่ผ่านมาน่าฉงน
อย่าผูกจิตมากรักจะยากจน
เหมือนเป็นปมยากจะแก้แก่ใจเรา.
แก้วประเสริฐ.
ขอบคุณมากครับที่ท้วงติง แต่ผมยังรักและชอบกลอนท่านเสมอมามิเปลี่ยนแปรหรอกครับ ขอบคุณ
18 มีนาคม 2547 22:31 น.
แก้วประเสริฐ
ความรักฉันนั้นมีไว้พร้อมใจภักดิ์
แสนหลงรักภักดีมั่นยังสลาย
ถึงแม้นมีสาเหตุอันมากมาย
แต่ผ่อนคลายแม้จะรักภักดีเธอ
พร้อมเสมอเพื่อจะรับความพ่ายแพ้
ที่แน่ฉันแพ้เธอแล้วเพราะใฝ่เพ้อ
เป็นลิขิตสวรรค์กางกั้นฉันและเธอ
ถึงละเมอทำอย่างไรได้พ่ายก็ยอม
ฉันสัญญาใจไว้แล้วในชาตินี้
ถ้าฉันมีคนใหม่รักษาไว้สุดถนอม
แก้วดวงงามที่ฉันได้จะมิให้ตรอม
เฝ้าถนอมมอบรักให้ด้วยหมดใจ
รักเอยรักรักจริงแท้อยู่หนไหน
ท่องไปในโลกกว้างยังหวั่นไหว
สุดขอบฟ้าเพื่อค้นหายากจริงไซร้
เหตุไฉนมีแต่รักแปลกปลอมจริง.
แก้วประเสริฐ.
17 มีนาคม 2547 12:34 น.
แก้วประเสริฐ
เสียงลมผ่านพัดพลิ้วทางเคี้ยวคด
รอบรายจรดป่าไม้สูงใหญ่ยิ่ง
เทียมคีรีรายรอบทางสุดประวิง
รถแล่นวิ่งเลี้ยวไหล่คดจรดแนวเนิน
กลิ่นหอมหวนนวลผกาป่าไม้รอบ
เป็นแนวขอบตามคบกิ่งสุดจะเหิร
อรรถรสจดนัยนาดูพาใจเพลิน
ระยะทางเกินกว่าที่คิดจิตใจนำ
เสียงนกป่าคาคบไม้ร้องก้องประสาน
ดุจดุริยางค์สวรรค์พาใจให้ระส่ำ
พวกเราร้องคลอต่อกระซิกจิตจำ
รถวิ่งนำมาถึงถิ่นสุดปลายทาง
เสียงลมพัดพลิ้วสนโอนเอนกิ่ง
คลื่นซัดวิ่งพลิ้วพลิกสียงซ่าซ่าน
หาดทรายขาวดั่งไข่มุกดุจวิมาน
น้ำทะเลฉานใสสะอาดปราศราคี
ปูลมวิ่งพริ้งพลิ้วเต็มชายหาด
ดารดาษหมู่ปลาน้อยหลายหลากสี
พวกเราลงเล่นน้ำเลาะคลื่นในวารี
ดูเป็นที่ร่าเริงสุขสนานบันเทิงใจ
เหมือนจะมีใครแอบจ้องมองดูฉัน
ตัวเรานั้นเมียงมองสาวสุดหวั่นไหว
แต่ก็ดีทำให้ฉันเพลิดเพลินเจริญใจ
ที่มีใครแอบจ้องมองเราหลังต้นไม้
ฉันเอนนั่งหลังพิงสนยลดูเงือกน้อย
ว่ายแหวกลอยบ้างวิ่งเล่นอยู่ในน้ำใส
เหล่าเด็กเล็กวิ่งเล่นบนหาดทรายไป
หาที่ใดจะมาเทียบเปรียบเมืองแมน
ได้เวลาพากันเลิกหันหวนกลับ
หากนับวันเวลาพาใจให้สุขแสน
ลาก่อนหนอประทิวสวรรค์เมืองแมน
ชุมพรแม้นมีเวลาจะมาเยือนชม.
แก้วประเสริฐ.
16 มีนาคม 2547 21:49 น.
แก้วประเสริฐ
วันหนึ่งนั้นฉันเพลิดเพลินเดินตามห้างฯ
ใจอ้างว้างเหงาหัวใจเปลี่ยวใจฉัน
มองเห็นสาวเขามีคู่พลอดรักกัน
คู่เคียงกันหัวร่อล้อต่อกระซิก
ฉันยืนเอียงเมียงมองต้องหัวร่อ
โอ้ละหนอโลกเรานี้ช่างวิปริต
นึกว่าสาวกับชายหนุ่มที่ฉันคิด
วิปริตกลับเป็นชายต่อชายปอง
แต่ยังมองช่างเหมือนสาวจริงๆหนอ
เธออ้อล้อต่อกระซิกไม่มีสอง
เธอเย้าหยอกเหมือนสาวที่ชวนมอง
จนฉันต้องหันมามองดูตัวเรา
ถึงเป็นชายและสาวประเภทสอง
ตามครรลองโลกยังรับประดับเจ้า
ดีกว่าฉันนั้นไม่มีคู่ข้างเคียงเรา
เขาและสาวยังดีกว่าน่าชื่นชม
คงได้สมอารมณ์รักสักวันหนึ่ง
ฟ้าท่านซึ่งคงเมตตาให้ได้สม
มีคนคู่เคียงกายให้รื่นรมย์
พากันชมดูตามห้างฯเพลิดเพลินตา
ก้าวเดินออกทอดน่องพลางครุ่นคิด
ถึงมวลมิตรสนิทที่เราเฝ้าเสน่หา
เรานั้นรักแต่เขาช่างโบกมือลา
เพราะวาสนาเราไร้คู่อยู่เดียวดาย
ยิ้มให้ตัวมัวเดินพลางห่างไร้คู่
แต่ก็ดูมีความสุขไม่เหือดหาย
แม้จะต้องไปไร้คู่แต่กายสบาย
ฉันจึงหายไปในหมู่ของผู้คน.
แก้วประเสริฐ.