5 เมษายน 2547 16:14 น.
แก้วประเสริฐ
เทพอัปสรนารีมิ่งเกสร
อรชรร่ายเพลงรำงามสดศรี
เหล่ามวลเทพรื่นเริงเทพนารี
สุดเปรมปรีดิ์หยาดฟ้านภาลัย
ทั่งวิมานเมืองแมนแดนสวรรค์
แสนสุขสันต์ออกจากแหล่งที่อาศัย
พาร่ายรำฟ้อนดีดเป่าดนตรีงามวิลัย
ต่างพาใจไร้ทุกข์สุขแสนเป็นอาจินต์
หากมาดแม้นแดนดินถิ่นมนุษย์
จงได้หยุดแก่งแย่งกันทั้งหลายสิ้น
มาประกอบความดีมีสุขทุกเช้าเย็น
โลกจะเป็นเช่นสวรรค์วิมานในแดนดิน.
แก้วประเสริฐ.
3 เมษายน 2547 15:32 น.
แก้วประเสริฐ
แสงพระธรรมบังเกิดขึ้นในโลกนี้
แสดงชี้หนทางธรรมหมู่คนทั้งหลาย
ให้พ้นทุกข์บังเกิดสุขเมื่อยังไม่ตาย
แต่คนทั้งหลายเมินหน้าหาทุกข์ใจ
แสดงให้เห็นเช่นน้ำใจคนโลกนี้
ไม่ชอบที่จะทำจิตกายใจให้ผ่องใส
กลับดิ้นรนค้นคว้าหาทางอื่นร่ำไป
พอใกล้ตายถึงได้คิดจิตทางธรรม.
แก้วประเสริฐ.
23 มีนาคม 2547 15:12 น.
แก้วประเสริฐ
รักเอยจริงหรือว่าหวานซึ้งในดวงจิต
รักสนิทจิตใจหวนรัญจวนหา
รักแรกเริ่มประเดิมรักหนักอุรา
รักนานมาพาดวงจิตคิดระแวง
รักครั้งแรกแปลกนักประหลาดจิต
รักใฝ่คิดชวนฝันคล้ายดังมีสีแสง
รักฝันเพ้อละเมอรักใจให้มีแรง
รักมันแฝงอารมณ์เร้าเคล้าใจปลง
รักนั้นคงเปรียบคล้ายน้ำผึ้งเจือยาพิษ
รักสนิทพิษยิ่งมากเพราะไหลหลง
รักน้อยไปเขาหาว่ารักไม่ใฝ่พะวง
รักลุ่มหลงเกินไปเสียใจอีกนาน
รักเอ๋ยรักจักทำใจอย่างไรแน่
รักผันแปรเพราะเรามิได้ประสาน
รักจึงแยกแตกรักไปอีกตั้งนาน
รักกันนั้นจะให้หวานต้องทำใจ
รักพอได้สู่สมอารมณ์หมาย
รักก็กลายหน่ายรักไม่ผ่องใส
รักเรารักเขาไม่รักทำอย่างไร
รักไฉนจึงหาได้จริงแท้ยากเย็น
รักบริสุทธิ์ผุดผาดดุจหยาดฝน
รักสะอาดจนผ่องใสยากได้เห็น
รักนี่หรือคนพูดแต่รักทุกเช้าเย็น
รักที่เห็นทะเลาะเบาะแว้งกันและกัน
รักมันกรุ่นครุ่นคิดรักหนักจิต
รักสนิทมันแฝงไว้ด้วยสุขสันต์
รักออดอ้อนต่อรักทุกคืนวัน
รักจริงนั้นมันซาบซ่านห้วงหทัย.
แก้วประเสริฐ.
23 มีนาคม 2547
22 มีนาคม 2547 15:34 น.
แก้วประเสริฐ
ใต้ร่มพฤกษาพระพายโชยชวนชื่นจิต
ความย้อนคิดถึงอดีตจิตหวั่นไหว
มันซับซ้อนยอกย้อนในดวงใจ
สิ่งผ่านไปหลายหลากยากกลับคืน
ยืนจ้องมองมวลไม้หลายสีสัน
สีของมันเปลี่ยนไปคล้ายสะอื้น
ต้นเดียวนั้นใบมากสียากจะฟื้น
สู่กลับคืนสีเดียวกันนั้นยากจริง
อนิจจาทุกสิ่งนี้มีขึ้นอยู่ในโลก
ย่อมมีโศกสุขคละคล้าในทุกสิ่ง
มันผันแปรเปลี่ยนไปสุดประวิง
หัวใจหญิงหรือชายให้เหมือนกัน
อนิจจังนั้นถ่องแท้แก่คนทั้งหลาย
มันกลับกลายแปรผันไม่สุขสันต์
ทุกข์ทั้งหลายย่อมครอบครองใจกัน
อนัตตานั้นพลันตามมาหาแน่นอน
ลมโบกพัดใบไม้หลุดจากขั้ว
ปลิวไปทั่วใกล้ไกลคล้ายคำสอน
สัจธรรมพระสัมมาว่าไว้เป็นตอน
ใช้สั่งสอนให้หลุดพ้นจากทุกข์ใจ
อนิจจาอนิจจังฉันกล่าวไว้ให้ได้เห็น
ดุจดังเช่นใจฉันผ่านไปไม่ผ่องใส
บัดนี้เล่าคืนสู่กลับสุขไม่ทุกข์ใจ
จิตผ่องใสคล้ายมองเห็นสัจธรรม
ทรุดกายลงนั่งมองธรรมให้เกิดจิต
เพ่งพินิจจิตเอามวลแมกไม้เป็นตัวกล้ำ
กระทำจิตกายใจไว้เพื่อให้เกิดทางนำ
เพื่อกระทำใจเราคลายให้สบายอารมณ์.
แก้วประเสริฐ.
21 มีนาคม 2547 15:16 น.
แก้วประเสริฐ
ด้วยความฝันรื่นเริงบันเทิงจิต
นำมิ่งมิตรเพื่อนสนิทมารวมฝัน
ชวนพากันล่องลอยชมดวงจันทร์
ร่วมเต้นรำกันบนเมฆาพาสุขใจ
แล้วร้องลำนำเพลงหวานอันซึ้งจิต
พระพายกรีดเสียงรับจิตสดใส
ฝันเอ๋ยฝันช่างรัญจวนซึ้งข้างใน
ดาราไซร้กระพริบแสงแข่งราตรี
นกกลางคืนบินร้องก้องขับขาน
ช่วยสร้างตำนานฝันฉันให้สุขศรี
มีเพื่อนรักชักชวนร้องก้องเวที
มีนกกวีพระพายคลอล้ออารมณ์
หัวเราะล้อต่อกระซิกระริกจิต
ทุกคนคิดสนิทสนานกันเหมาะสม
ไม่ถือเพศชั้นวรรณะให้หมองตรม
ล่องลอยลมจนฟ้าใหม่ใกล้เข้ามา
แล้วโบกมืออำลาลาแล้วเพื่อน
ราตรีเยือนสัญญาว่าจะมาหา
เราต่อกลอนล้อรำนำเพลงมา
ประสานตาแลหัวใจสบายอารมณ์
พระพายพัดเมฆาพลิ้วลิ่วหายจาก
นำเพื่อนยากส่งยังวิมานในอาศรม
แยกจากกันใจมิแยกแฝงอารมณ์
แล้วมาชมอารมณ์ฝันในวันต่อไป.
แก้วประเสริฐ.