13 เมษายน 2547 14:26 น.
แก้วประเสริฐ
วันนี้สิบสามเมษามหาสงกรานต์บรรจบ
ขอน้อมนบอัญเชิญเหล่าเทพทุกทิศา
ที่มหิศรฤทธานุภาพทุกแคว้นแห่งโลกา
จงแสดงพลาผลพวงน้องเพื่อนจงสุขอารมณ์
คิดอะไรจงได้ในปราถนาสมความคิด
จะประดิษฐ์สิ่งใดจงได้สมประสงค์
ทั้งโรคภัยภยันตรายที่จะเข้าจงลดลง
สลายตรงเบื้องหน้าเหล่าข้าฯทุกคนไป
แก้วประเสริฐขอนอบน้อมอวยพรให้
เหล่าหญิงชายเพื่อนจงสุขจิตผ่องใส
อีกทั้งทุกข์นิรภัยจงสลายพลันหายไป
จิตแจ่มใสคิดอะไรได้สมอารมณ์ปอง
เพื่อนทั้งผองของข้าฯอันดารดาษ
ขอรดด้วยหยาดน้ำคงคามหากาพย์สนอง
ทั้งครอบครัวตัวของท่านรวมคนที่ฝันปอง
จงสนองให้มีสุขปราศจากทุกข์นิรันดร์กาลเทอญ.
แก้วประเสริฐ.
9 เมษายน 2547 12:53 น.
แก้วประเสริฐ
วันที่สิบสามเมษาคราเอกะมาศ
ประเพณีสารทวันสงกรานต์แจ่มใส
ชาวประชาไทยแสนสดชื่นระรื่นใจ
อากาศร้อนอย่างไรไม่หวั่นพลันทำบุญ
หลังพิธีสงฆ์ตรงแน่วไปหาผู้ใหญ่
แล้วรดน้ำกราบไหว้ขอพรท่านที่ค้ำหนุน
สร้างชีวิตให้เกิดมาที่เอ็นดูเกื้อและการุณ
ซึ่งบุญคุณท่านยิ่งใหญ่เหลือจะนับคณา
เมื่อสิ้นเสร็จการคาราวะท่านที่เคารพ
ล้วนนัดพบกันในลานงานตามประสา
เด็กและหญิงชายถือน้ำหอมกันเข้ามา
แล้วต่างพากันรดน้ำฉ่ำชื่นรื่นอารมณ์
พอมืดค่ำพากันแต่งตัวโอ้อวดโฉม
เพื่อแนวโน้มประโลมรักจักได้สม
เที่ยวในงานมหรสพที่จัดไว้ให้ชม
แสนภิรมย์สุขใจระรื่นสดชื่นวิญญา.
แก้วประเสริฐ
9 เมษายน 2547
8 เมษายน 2547 17:46 น.
แก้วประเสริฐ
รักเอ๋ยรักที่หวานซึ้งปานดวงจิต
รักสนิทแนบหทัยใจวาบหวาม
นอนยืนนั่งเช้าจรดเย็นมิดูงาม
คิดถึงความเรารักแรกจากใจจำ
ตื่นแต่เช้าเฝ้าคำนึงถึงนวลน้อง
สายหมายจ้องอนงค์รามแม่งามขำ
บ่ายคำนึงคิดหาคำพูดเพื่อความจำ
เย็นพรอดพร่ำคำว่ารักฝากใจเธอ
ท้องฟ้ากว้างเมฆมากมายยังว่าสวย
ลมไม่ช่วยอากาศร้อนยังเย็นเสมอ
ทางกันดารยังบากบั่นไปหาเธอ
ขอเพียงเจอพบเห็นกลับชื่นบาน
กาลเวลาผ่านพ้นไปใจพันผูก
รักจึงถูกเหมือนบ่วงบาศมัดใจฉัน
ใจถูกมอบหมดหัวใจไร้แบ่งปัน
โอ้รักนั้นดุจกุหลาบส่งกลิ่นโชย
ดำมีขาวขาวกลับดำคล้ายจะแกล้ง
ลบสีแสงแห่งจิตนการณ์ที่เพ้อฝัน
พลันลิขิตชีวิตรักแยกออกจากกัน
ภินท์สวาทพลันพังทลายไม่ผูกใจ
สายใยรักบังคับให้ใช้หนี้เสน่หา
วันเวลาพาหมองเศร้าไม่ผ่องใส
สิ้นหน้าที่รักแล้วทุกอย่างขอลาไกล
แต่ส่วนในของห้วงหทัยให้ใฝ่ปอง
ดอกรักเอ๋ยยามเบ่งบานไม่ลืมต้น
พอลืมตนกลับว่าต้นทำให้หมอง
สนองตัณหาพาให้ต้นน้ำตานอง
จนต้นหมองไร้คนปองหมายเชยชม.
แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2547 15:12 น.
แก้วประเสริฐ
โอ้นี่หรือคือความรักประจักษ์แจ้ง
ดุจดั่งแสงประกายดาววับวาวไข
กระพริบริบหรี่แล้วคลายสูญไป
เหมือนรักใครหายวับไปกับตา
ครั้นรักติดห้วงหทัยใจเรียกร้อง
เพื่อหมายปองตามรักจักเรียกหา
ดั่งบ่วงบาศพาดพันกันไปมา
คล้องวิญญาแล้วหายมลายไป
นี่นะหรือความรักสุดแสนรัก
คล้ายกับดักกักดวงใจไม่ผ่องใส
พรานล่อเนื้อเถือรักจากดวงใจ
เมื่อได้ไปแล้วสลัดพลัดพรากกัน
โลกนะโลกนี้หรือคือโรครัก
สุดแสนภักดิ์รักไปคล้ายเนื้อสมัน
ถูกเขาถากถอนเถือเนื้อทุกวี่วัน
แต่ก็หันกลับสู่รักแปลกใจจริง
อนิจจาโรคความรักมักแตกยอด
พอเล็ดลอดปลอดภัยในทุกสิ่ง
ยังถูกแมลงหนอนกัดจนหยุดนิ่ง
จนทุกสิ่งสร้างไว้หายมลายพลัน
ฉันสาธกวกเวียนไว้เพื่อให้คิด
จึงลิขิตบทกลอนอักษรสมานฉันท์
สร้างตำนานผ่านรักมาไว้ให้แก่กัน
เพื่อสร้างสรรค์คนที่คิดรักจักได้ชม.
แก้วประเสริฐ.
6 เมษายน 2547 23:31 น.
แก้วประเสริฐ
อันความรักห้วงหทัยยากไถ่ถอน
แม้จะนอนยืนนั่งสุดหวั่นไหว
ทุกค่ำเช้าเย็นคิดเห็นอยู่ร่ำไป
โอ้ดวงใจใยถึงร่ำสุดคร่ำครวญ
อันความรักยากแท้ให้ดั่งใจจิต
ยิ่งใกล้ชิดรักสนิทจิตโหยหวน
ปากมิกล้าแต่ดวงใจสุดรัญจวน
แม้จะหวนยิ่งรัดทดสุดอาลัย
อันสิ่งอื่นหมื่นแสนยังหาได้
รักนี้ไซร้ยากแท้สุดจะอาศัย
เหมือนลิขิตจากสวรรค์นภาลัย
กำหนดให้รักนี้ได้ต้องตรอมตรม.
แก้วประเสริฐ.