เก้าโมงเช้า เดินทางออกจากบ้าน ไปตามเส้นทาง ผ่านอำเภอตระการฟืชผล แล้วตรงไปยังอำเภอโพธิ์ไทร เพื่อไปเที่ยว " สามพันโบก" โบก ภาษาอีสาน หมายถึง หลุม ซึ่ง ที่นี่ หมายถึงหลุมที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ และธรรมชาติ มีให้เห็นมากมายเลยค่ะ เพื่อให้เห็นความงามของหิน ลานหิน ทั้งสองฝั่ง ไทย และ ลาว พี่ๆ พาลงเรือ ล่อง ชมธรรมชาติ ค่าเรือก็ หนึ่งพันบาท ทีแรกคิดว่าแพง แต่พอได้ไปสัมผัสแล้ว ไม่แพงเลย ภาพด้านล่างที่เห็นเป็นหลุมๆ นั่นแหละค่ะ เขาเรียก " โบก " ต้นไมยราพยักษ์ หนามคมมาก ขอจบด้วยภาพพระอาทิตย์กำลังตกหลังบ้านแก้วฯ ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านค่ะ แก้วประภัสสร 17 เมษายน 2554
13 เมษายน 2554 06.00 ออกเดินทางด้วยรถยนต์ เพื่อเดินทางกลับไปเยี่ยมคุณแม่ที่ จังหวัดอุบลฯ สภาพการจรจรไม่มีปัญหาค่ะ คล่องตัว มีบางช่วงที่ชะลอตัวเล็กน้อย ใกล้จะถึงสระบุรี หยิบมือถือ ส่งเมสเสสหาเพื่อนๆ ในบ้าน และนอกบ้านหลายคน สักพัก ลิงเชียงราย ส่งเมสเสสมาหา แก้วฯยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วส่งข้อความกลับ ช่วงระหว่างเดินทาง เสบียงอาหาร ไม่ขาด หิวปุ๊บ หยิบปั๊บ กระติบข้าวเหนียว หมูทอดกระเทียม ไข่ต้ม น้ำพริก ขนม ที่พีสาวเตรียมไว้ให้ พวกเรา คือว่า เดินทางพร้อมกัน สองคันรถค่ะ แวะตามรายทางหลายที่ค่ะ กว่าจะถึงบ้านก็ปาเข้าไปเกือบ สองทุ่ม พี่ๆ ที่บ้านเตรียมอาหารไว้รอ ขณะที่แม่นอนหลับแล้วละ พอได้ยินเสียงวอก เอ้ย เสียง พวกเรา ท่านก็ตื่น ได้กราบเท้าท่าน กอดๆ หอมแก้มซ้ายขวา ส่วนเหลน หลาน ก็ผลัดกันไปอาบน้ำ หลังจากเสร็จภาระกิจส่วนตัว ทานอาหารเรียบร้อย ต่างก็แยกย้ายไปนอน เพื่อเตรียมตัวตื่นแต่เช้า ไปตลาดเช้ากันค่ะ 14 เมษายน 2554 05.30 ตื่นอาบน้ำ แปรงฟัน เตรียมกระโดดขึ้นรถ ต้องรีบค่ะ เพราะหากช้า มัวอืดอาด พี่ๆม่รอ อดแห๋มๆ อิ พี่พาไปตลาดที่อำเภอวาริน ซึ่งต้องข้ามฝั่งแม่น้ำมูลไปทางสถานีรถไฟโน่นค่ะ เราจอดรถไว้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ตลาด เป็นบ้านหลังเดิม ที่เดิม ที่ไปทุกครั้งก็ขออนุญาตเจ้าของบ้านจอดรถ พอเจ้าของบ้านเห็นพวกเรา เขาเดินออกมาดู เนื่องจากสุนัขในบ้านเขาเห่า บทสนทนา คนที่ไม่คุ้นเคยก็เริ่มขึ้น รอยยิ้ม ความเป็นมิตร เหมือนทุกครั้ง ที่พวกเราไปจอดรถที่นั่น ซื้ออาหารเพื่อเตรียมไปทำบุญและทำอาหารให้คุณแม่ทานกัน พืชผัก หลายๆอย่าง ก็คงไม่ต่างจากที่กรุงเทพ แต่มีบางชนิดที่แก้วฯคิดว่า หลายท่านคงยังไม่เคยเห็น เลยขอนำภาพ มาให้ชมกันด้วย หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เหลนๆ เรียกร้องอยากไปเที่ยว สามพันโบก ตั้งใจจะพาคุณแม่ไปด้วย แต่ท่านบอกว่า คงไม่ไหว แม่บอกว่า หากย้อนหลังไป ยี่สิบปี แม่คงไม่ปฏิเสธลูกๆ พี่สาวขออาสาอยู่กับคุณแม่เอง พวกเราก็เลย ลุย.. อิ ขอนำภาพถ่ายที่บ้าน ตลาด และ สามพันโบก มาให้ทุกท่านชมกันนะคะ หวังว่าของฝากจากอุบลฯ คงทำให้ทุกท่าน มีความสุข ไม่มากก็น้อย ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ ดอกทานตะวันหน้าบ้านกำลังแบ่งบาน ดูแล้วสบายตา ส่วนด้านล่าง ดอกลีลาวดี ก็กำลังออกดอก สีแดงกำมะหยี่ - - - -- - - - - - - - ภาพซ้ายมือ ต้นผักกระโดน ภาพขวา ต้นมะรุม ด้านล่าง มะม่วงค่ะ -..-..---- ปลูกต้นแคแคระไว้ ตอนนี้ได้ภาพมา ขณะที่พี่เขยกำลังเล่นขำๆ หาไม้มาสอยแค พวกเราได้ไอเดีย ปลูกผักนอกรั้ว สร้างดินให้ชุ่ม และอุ้มน้ำด้วยการปลูกผัก ไหนๆก็จะปลูก ลงพืชผักสวนครัวดีกว่า เหลือกินก็ไว้ขายหรือเผื่อแผ่ เพื่อนบ้านได้ค่ะ ..-----.. ไก่งวง ผักเม็ก ขนุน .______________ กาใบนี้จำได้ว่า ใช้มานานกว่า สามสิบปีแล้วละ ตอนนี้กลายเป็นที่ต้มน้ำสมุนไพรประคบประหงม บรรดาไก่งวง ไก่ชน ไก่อู ไก่แจ้ กุ๊กไก่ด้วย อิ _________ เป็ดก๊าบๆๆ .________________ ตลาดเช้า ซ้าย ดอกกระเจียว ภาพขวาดอกแคนาค่ะ ด้านล่างซ้าย ใครเคยเห็นหนังควายบ้างคะ เขาเอาไว้ใส่แกงขี้เหล็ก รอชมต่อภาคสองนะคะ กลัวเครื่องโหลดช้าค่ะ
" ลูกจงถามตัวเองก่อนว่า ก่อนจากโลกใบนี้ไป ลูกปรารถนาที่จะนำอะไรติดตัวไปด้วยก่อนตาย" เสียงแม่ถามทางโทรศัพท์ ข้าพเจ้าตอบแม่ว่า " ชาตินี้ใจลูกหม่นหมองตรองระทม จมอยู่กับโลกส่วนตัว มัวแต่เล่นไม่เป็นท่า ข้าวปลาไม่ยอมทาน นั่งจมกับคอมพิวเตอร์ตั้งนาน ขาแข้งพาลเจ็บร้าวราวถูกประหาร จึงปราถนาทำบุญหนุนทาน ไว้เป็นอาหารในชาติหน้าถ้ามีจริง แต่เกรงใจเป็นอย่างยิ่ง ชาติหน้ามีจริง ลูกจะเกิดซนยิ่งกว่าลิงนะแม่เฮย" แม่ " ชาติหน้ามีจริงฉันใด แม่ไม่ปรารถนาเป็นแม่ลิง . นะแม่แก้วประภัสสร " 5 5 5 5 เชิญชมภาพค่ะ ไม่เกี่ยวกับบทเกริ่นนำ ขออนุญาตไม่บรรยาย และขออนุญาตรอบสองไม่ตอบคำถาม ข้าพเจ้าเพียงอยากให้ภาพทุกภาพ และบุญที่ร่วมทำกันมา เก็บไว้ในความทรงจำที่งดงาม ทางเดินข้างหน้า ยังมีอะไรที่เราต้องเรียนรู้กับอีกมากมาย ร้ายบ้าง ดีบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง นับหนี่งผ่านไป ในแต่ละวัน เมื่อนับสอง นับ สาม ไปเรื่อยๆ นั่นหมายถึงว่า แต่ละก้าวของชีวิต เราอาจจะเดินทางด้วยสวัสดิภาพ แต่บางวันอาจจะสะดุดและล้มลง ขอเพียงมีสติ และศีลธรรมอยู่ในใจ เราจะผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ เหมือนที่แก้วฯเคยผ่านมันมาค่ะ - -- ------------------------------------------------
04 มีนาคม 2554 " คุณ มีอะไรวางไว้บนรถมั้ย อย่าลืม " ปู่ถามแม่แก้วแบม ขณะมาส่งที่บ้าน " ไม่มีค่ะ แต่ เอ้อ รู้สึกว่าจะมีลืมอยู่นะคะ " ชีกล่าวพร้อมกับอมยิ้ม " ลืมหัวใจไว้ที่คุณ .5 5 5 5 " ชีพูดพร้อมกับหน้าเขินอายหน่อยๆ จริงๆแล้วอายุปูนนี้ ไม่น่าจะอายเล้ย..นะ ..แม่คุณ อิๆ " นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว หัวใจคุณนะอยู่ที่ผมตั้งนานแล้ว" หุๆๆ ได้ทีๆ แม่แก้วแบมหยอดต่อ " ฝากไว้แล้วห้ามเอามาส่งคืนนะ.." เอิ๊กๆๆ " แน่นอนครับ จะรักษาไว้เป็นอย่างดี " เขามองตาฉัน ฉันมองตาเขา แล้วเราก็มองตากัน ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง สักพัก เสียงลุงยามดังขึ้น " จะถอยมั้ยครับรถนะ จะถอยหลังมั้ยครับ " อะเจ๊ยยย "บ๊ายบายค่ะ อ้อ พรุ่งนี้จะไปชมโขนกลางแจ้งกับเค้ามั้ย วันก่อนเห็นเขามาออกรายการทีวีช่องเก้า อยากไปชมค่ะ " " ดูก่อนครับ พรุ่งนี้ผมสัมนาอีกวัน ถึง 16.30 " " ได้คะ เค้าจะชวนเจ้เล็กไปด้วย บ๊าย บาย " 05 มีนาคม 2554 หลังจากงานเลิกช่วงบ่าย แก้วฯไปโฉบแถวๆเยาวราช ไปพบพี่ที่นั่น เนื่องจากพี่ขัดใจไม่ได้ ชวนแกไปชมโขน ซึ่งเคยไปชมนานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยอาจารย์เสรี หวังในธรรมยังแสดงอยู่ ตอนนั้นประทับใจมาก จนลืมเรื่องนี้ไปเลยค่ะ มาวันนี้ หากพลาดโอกาสได้ชมอีก ก็ต้องรอปีหน้าโน่น ถึงจะได้สัมผัส กลิ่นไอ กับเสียงพากย์อันตรึงใจเช่นนั้น บ่ายสองโมง เราแวะทานอาหาร ที่ร้าน แคนตั้น ที่อยู่ติดกับ โรงแรมไชน่าทาวน์ เป็นอาหารแบบจีนๆ อาหารตามสั่งและติ่มซ่ำ แก้วฯเลือกร้านนี้ เพราะราคาไม่แพงมากค่ะ หลังจากอิ่มหนำสำราญหทัยแล้ว ก็ได้เวลา เดินทางต่อไปยังที่จุดหมาย ยังมีเวลาเหลืออีกสามชั่วโมง แก้วฯก็เลยชวนพี่ เดินเล่นชมของที่แม่ค้า พ่อค้า นำมาวางขายแถว ท่าช้าง ถึงท่าพระจันทร์ แผงพระให้เช่าเยอะแยะ แต่กลับไม่ใช่จุดสนใจของแก้วฯเลยสักนิด พี่สะกิดถาม " เห็นชอบส่องพระ พระสะสมเยอะแยะ หล่อนไม่สนใจเหรอ" แก้วฯส่ายหน้า " พระที่เค้ามีและได้มา ล้วนมาจากของสูง มีคุณค่าทางจิตใจ และกราบไว้ด้วยความศรัทธา แต่แบบแบกับดิน ขอชมแต่ไม่นิยมสะสมอะเจ๊ " " พี่ก็เห็น หลายๆองค์คล้ายของเธอ ทำไมละ ดูเก่าๆทั้งนั้นเลยนี่นา" เจ๊ถาม " เอาเป็นว่า เค้าไม่ศรัทธาอะเจ๊ เดี๋ยวจะพาเจ๊เดินไปตรงแถวๆ หน้าร้านศูนย์หนังสือเกี่ยวกับธรรมมะ ให้ดูชัดๆ แล้วเจ๊จะไม่สงสัยอะไรเลย เราพาพี่เดินเลี้ยวขวา ไปฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ แล้วชี้ให้ดู เป็นตัวอย่างหนึ่งแผง เจ๊พูดเบาๆ " โห....เขามีพระแบบเดียวกันเป็นร้อยๆ แยกถุง ยังกับ สินค้ายกโหลแถวสำเพ็งเลยอะ " แก้วฯยิ้ม " เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าทำไม ไม่สนใจ ของจริงก็คงหลงมาอยู่บ้าง และของปลอมก็เยอะ พระดีๆ ไม่ถึงมือคนที่ตาไม่ถึงหรอกเจ๊ ไปอยู่กับเซียนพระดังๆ หมดแล่ว .." หลังจากพาพี่เดินชม จนเหงื่อไหลไคลย้อย เราก็เดินไปถึงหน้า พิพิธภัณสถานแห่งชาติ ซึ่งอยู่ติดใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ การแสดงโขนกลางแจ้ง มีมาเป็นปีที่ 58 แล้วค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 23 สำหรับท่านที่สนใจจะไปชม ยังมีอีกหลายสัปดาห์ค่ะ เขาแสดงวันเสาร์และอาทิตย์ เริ่มแสดงเวลา 17.00-19.00 แต่ละวันการแสดงไม่ซ้ำกัน ส่วนคนแสดงก็มาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์และจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เราโชคดีที่ได้เกิดมาในแผ่นดินไทย ที่มีวัฒนธรรมและการแสดง ที่เป็นเอกลักษณ์มาแต่ช้านาน สำหรับเมื่อวาน เป็นการแสดงโขนผู้หญิง เรื่องรามเกียรติ์ ชุดศึกสิบขุนสิบรถ และละครใน เรื่องอิเหนา ตอนอิเหนาลานางจินตะหรา แก้วฯขอนำภาพบางส่วนมาให้ชมกันค่ะ เสียดายนั่งไกลหน่อยค่ะ ข้างๆ ลานแสดง จะมีอาหารขาย สามารถซื้อนำมาทานขณะนั่งชมได้ค่ะ กะรเป๋าเชี่ยนหมากแม่แก้วฯ อิ ดูสิคะ เข้ากับบรรยากาศเชียว อาทิตย์เริ่มอัสดง น้องๆ เริ่มเตรียมตัว นักข่าวและตากล้อง เตรียมพร้อม พิธีกรกล่าวรายงานการแสดง เริ่มการแสดงเรื่องอิเหนา ตอนอิเหนาลานางจินตะหรา เป็นละครใน แต่ในวันนี้ ใช้ตัวแสดงเป็นชายล้วนค่ะ การแสดงจะสมบูรณ์ไปไม่ได้ หากไม่มีคนพากย์เสียง ตอนเสียงกรับดัง ท่วงทำนองผสมเสียงเอื้อน ฟังแล้วทึ่ง ตรึงใจ ขนลุกเลยค่ะ ต่อไปเป็นการแสดงโขนหญิง เรื่องรามเกียรติ์ นักแสดงเป็นหญิงล้วนๆ พระราม พระลักษณ์ หน้าหวานจังค่ะ ทศกัณฐ์ คงต้องอวสานการลงภาพให้ทุกท่านชมเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ สงสัยเครื่องคอมกำลังจะมีปัญหาแล้วละคะ ช้าและอืดมาก อิ ฝากภาพรังนกริมระเบียง ให้ชมกันอีกภาพค่ะ ริมระเบียง ปลูกดอกอัญชัญ กำลังคิดว่า จะตัดทิ้ง เนื่องจากใบมักจะร่วง ลงไปใส่หลังคาบ้านอื่น แต่เหตุไฉน เจ้านกน้อย มาทำรังเสียนี่ เลยปล่อยเขาอยู่ไปค่ะ ส่วนหนึ่งจากใจ คือมอบเป็นของขวัญวันเกิด ให้ " โคลอน " คนดีแห่งบ้านกลอนจ้า
เราทั้งคู่ดูแปลกรักแรกพบ หญิงแกล้งหลบให้พี่นี้ตามหา เหมือนหนังแขกแรกรักปักอุรา ข้ามภูผาซ่อบแอบดูแยบยล หากว่ามีวาสนามาเคียงคู่ น้องขออยู่ร่วมสุขทุกแห่งหน ยามใดท้อเหนื่อยกายหน่ายกมล ม่วงมงคลจักเสริมเพิ่มเต็มกัน หอมใดเล่าเท่าไม้ในชั้นเทพ ยามสุขเสพดมดอมหอมเจ็ดชั้น หอมโอบบุญสุนทานเนานานกัน แม้นสวรรค์น้อมรับกับหอมนวล พวงครามงามหยดย้อย โยงใย สีจับกับริ้วใบ ดั่งแก้ม เรืองเรื่อผ่องนวลใส ฉายเด่น เหมือนนุจน้องหน้าแฉล้ม พี่นี้คนึงหวลฯ งามมังกรคาบแก้ว ทำฉงน เจ้าช่างงามแสนซน หยอกเย้า โน้มเหนี่ยวเกี่ยวดุจคน อ้อนออด พี่จึ่งหลงเวียนเฝ้า ไปเว้นคอยถนอมฯ รำเพยเชยชื่นชู้ ปองนาง เรียวกลีบจีบดอกบาง ค่ำเช้า เหมือนนางร่างสะอาง โอนอ่อน หากพี่ครองจะเฝ้า กล่อมน้องทรามวัยฯ