29 พฤษภาคม 2552 16:59 น.
แก้วประภัสสร
รักของเรา เหมือนปลาม้า คู่ปลาหมอ
อยู่เคลียคลอ เล่นหยอกเย้า เพียงเราสอง
ว่ายเริงร่า เคียงกันไป ด้วยใจปอง
ไม่หม่นหมอง ส่องสายตา มาทักทาย
รักของเรา เหมือนต้นหญ้า เกิดหน้าบ้าน
ดอกน้อยบาน ยิ้มแย้มรับ กับจันทร์ฉาย
มีดินดี ชุ่มอุ้มน้ำ ให้ฉ่ำกาย
ยามสายสาย เหมือนได้ปุ๋ย คุยเบิกบาน
รักของเรา เหมือนกล้วยฉาบ อาบน้ำผึ้ง
แม้ไม่ซึ้ง แต่ตรึงใจ ในรสหวาน
เพราะเคลือบด้วย ความสดใส คล้ายน้ำตาล
ยิ่งยาวนาน ทานกรุบกรอบ ชอบจริงจัง
รักของเรา เหมือนพ่อหมู คู่แม่ไก่
วิ่งเล่นไป ในทุ่งกว้าง แห่งความหวัง
ขาคุ้ยเขี่ย เล่นกับหนอน ก่อนนอนรัง
พ่อหมูนั่ง กลับเข้าเล้า เจ้าแสนเพลิน
รักของเรา นั้นพูดจา พาไพเราะ
ทุกคำเพราะ เสนาะหู ดูไม่เขิน
ขอบคุณครับ ขอบคุณค่ะ หาล่วงเกิน
คอยเชื้อเชิญ ทำความดี ที่นิยม
รักที่สุด สุดที่รัก ประจักษ์จิต
รักความคิด คิดสิ่งดี มิขื่นขม
รักจรรโลง โยงสัมพันธ์ พลันชื่นชม
รักเราบ่ม ข่มกิเลส ฟังเทศน์ธรรม
แก้วประภัสสร
29/05/09
ภาพจาก กูเกิ้ลค่ะ
28 พฤษภาคม 2552 10:24 น.
แก้วประภัสสร
ฝนทำท่า ตั้งเค้า สีเทาหม่น
เมฆก่อตัว เรียงตน บนเวหา
เมื่อตกหนัก ชะล้าง ทุกอย่างลา
บอกลางว่า เภทภัย มาใกล้ตน
บางครั้งฟ้า แสนสว่าง ยังมืดมิด
ดับแสงลง ปกปิด ผ่านเม็ดฝน
ผู้ได้รับ เห็นต่าง บ้างระคน
ยามยินยล ชุ่มฉ่ำ ยังช้ำใจ
เพราะสภาวะ เปลี่ยนเปลง ทุกย่างก้าว
คงถึงคราว ลำดับ รับให้ไหว
เคลื่อนความคิด ชั่วดี ที่ทำไป
ละเลิกได้ อาศัย วันเวลา
เมื่อสิ่งใด ให้ทุกข์ ปลุกใจหยุด
แล้วรีบรุด แก้ไข หายกังขา
หากสะสม เนิ่นนาน พาลเหมือนรา
คอยเกาะกิน หย่อมหญ้า ในหัวใจ
เป็นธรรมชาติ คล้ายฟ้า หาลิขิต
ปล่อยวางจิต วางตน พ้นขานไข
เตรียมชูธง เพิ่มพลัง กำลังใจ
ยกไว้ให้ ผู้ไม่ท้อ ต่อชีวิต
25 พฤษภาคม 2552 14:28 น.
แก้วประภัสสร
เจ้าช่างงาม นามเพราะ เสนาะหู
แม่ยอดพธู โสนน้อย สร้อยสีแสง
ดอกสีเหลือง เรืองอร่าม ยามสำแดง
ไม่เสรแสร้ง สวยนัก ชักอยากทาน
จึงเยื้องกาย หมายลง เด็ดเผด็จศึก
ลงคลองลึก ยื่นมือ ยื้อดอกหวาน
หวังจับเจ้า คลุกเคล้า เข้าน้ำตาล
ดอกแย้มบาน สดใส ถูกใจจัง
จึงหยิบโสน โชว์เพื่อน บนเรือนน้อย
นั่งรอข้อย สักพัก จักสมหวัง
จะทำผัด ถนัดแท้ ไม่แพ้วัง
น้องโสนหลั่ง น้ำตา หน้าคร่ำครวญ
เหตุใฉน แม่กุลา หน้าร้ายเหลือ
มาเอาเกลือ โรยเรา เศร้าโหยหวน
อีกทั้งยัง ดึงก้าน หลุดกระบวน
จึงนึกหวน หันหน้า หาเจ้าชาย
24 พฤษภาคม 2552 14:27 น.
แก้วประภัสสร
นั่งฝึกปรือ ถือครู รู้เป็นแบบ
ส่งใจแนบ บทกลอน อันอ่อนหวาน
ด้วยตั้งจิต ประดิษฐ์คำ นำกลอนกานต์
เพื่อสืบสาน อรรถรส ที่งดงาม
ท่วงทำนอง คล้องกัน ตามฉันทลักษณ์
เขียนตามหลัก อ่านตำรา ภาษาสยาม
มีครูแก้ว คอยสอน ศิษย์คอยตาม
เรียงบทความ นำลง เพื่อส่งครู
เอกโทมี วางไว้ ตามตัวอย่าง
มีพยางค์ครบ แปดคำ นำสวยหรู
ความอ่อนหวาน จากใจ ให้พรั่งพรู
เอาใจสู่ บทกลอน ทุกตอนไป
วันทาครู ดูผล คนฝึกหัด
แม้เรียนลัด ช่วยแถลง แจ้งขานไข
หากมีคำ ทำผิด คิดอย่างไร
ขอตั้งใจ เรียนรู้ ตามครูเอย
22 พฤษภาคม 2552 21:54 น.
แก้วประภัสสร
๑ เจ้าจะบินไปที่ใด ...?
นกพิราบหลากสีบินวนว่อน
ขนอุยอ่อนร่วงหล่นบนผิวน้ำ
เสียงลมใต้ปีกปะทะเช่นระบำ
พรึบพรับพรำประสานเสียงเรียงดนตรี
กระจิบน้อยลอยตัวกันอ้อยอิ่ง
พรั่งพร้อมสิ่งเพลิดเพลินเบิกบานนี้
ปีกของเจ้าฟุ้งกระจายทั่วไพรี
อิสระเสรีไร้ทิศทาง
๑ เจ้าจะล่องไปไหน..?
เรือสำราญลำใหญ่จอดรอท่า
อย่ารอช้าเชิญลงไปอยู่ไม่ห่าง
มีไวน์ดีชั้นเลิศคอยเปิดวาง
สิ่งบันเทิงรอบข้างเพื่อรับรอง
พื้นพรมนุ่มอุ้มเท้าเอาไว้ซับ
มีดนตรีกล่อมขับเพื่อสนอง
ให้นั่งเล่นริมระเบียงเคลือบสีทอง
ทุกคนต้องถูกตาพาผ่อนคลาย
แต่เรือไร้ทิศทางระหว่างเดิน
พาเที่ยวจนเพลิดเพลินไร้จุดหมาย
ทั้งสองฝั่งรายล้อมพร้อมอันตราย
แม้จะหมายหาที่จบไม่พบที
๑ คำตอบอยู่ที่ใด..
นกพิราบบินอิสระไปทั่วแคว้น
เรือพาแล่นสู่ทะเลกว้างใหญ่นี้
บทสรุปจุดจบไม่เห็นมี
ชีวิตนี้จะไปไหน...ที่ใดกัน...?
ชีวิตนี้จะไปไหน..เพื่อใครกัน..?
แก้วประภัสสร