14 ตุลาคม 2551 11:10 น.

น้ำพึ่งเรือ..เสือพึ่งป่า

แก้วประภัสสร

  
  น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า โบราณกล่าว
  เป็นคำเล่า เปรียบเทียบไป  ในโวหาร
  เปรียบเหมือนเรา มีเพื่อนไว้ ให้เจือจาน
  ยามทุกข็นั้น คอยพึ่งพา อาศัยกัน
      ครั้นมีเรื่อง เพื่อนมีใจ ให้หายเศร้า
     คอยพาเรา ลดความทุกข์ พบสุขสรรค์
     น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า เขาว่ากัน
     สิ่งสำคัญ คือน้ำใจ และไมตรี				
12 ตุลาคม 2551 11:58 น.

ขอไว้อาลัยให้กับปู่เย็น

แก้วประภัสสร


วันนี้ไม่มีบทกลอน 
จะมีก็แต่หัวใจอันบอบช้ำ
และหลั่งออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลพราก

พ่อจากไปก็ยังไม่หายศร้า
ปู่เย็นคนดีในหัวใจของฉัน
กลับมาจากไปอีกคน

บทกลอนที่ฉันเขียนขึ้นมาเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ถ้าฉันรู้ว่ามันเป็นบทกลอนบทสุดท้ายของชีวิตปู่เย็น
ฉันจะไม่มีวันเขียนมันขึ้นมา
เพื่อว่าปู่จะได้อยู่กับพวกเราไปนานแสนนาน

ฉันรู้สังขาร ความแก่ ความเจ็บ และตาย ไม่มีใครรั้งไว้ได้
แต่ก็สุดจะห้ามใจไม่ให้โศรกเศร้าเสียใจไว้ได้

ขอให้ดวงวิญญาณของปู่เย็น แก้วมณี จงไปสู่สุขคติสุข
ขอให้ปู่ เกิดในภพที่ดีงาม  
คนดีของแผ่นดิน

แก้วประภัสสร
12 ตุลาคม 2551 / 12.00 น				
8 ตุลาคม 2551 12:15 น.

ปู่เย็นเฒ่าทรนง

แก้วประภัสสร

ภาพของชาย ชราวัย กายงองุ้ม
ศรีษะคลุม โพกผ้า สะระบั่น
ผิวหนังเหี่ยว หน้าย่น ไปตามกาล
คนเมืองเพชร กล่าวขาน มานานปี

    เรือลำน้อย จอดลอย ในลำน้ำ
    เป็นเรือนนอน เรือนงาม ก่อนถึงที่
    ใช้ชีวิต อยู่นาน กว่าสิบปี
    เลี้ยงชีวี หาปลา มาทำกิน

เมื่อหาปลา มาได้ เอาไปขาย
นั่งอยู่บน สะพานใหญ่ ไม่ไกลถิ่น
เลี้ยงตัวเอง ด้วยปลา เป็นอาจิณ
หูได้ยิน ตาจ้อง มองนำทาง

    วันหนึ่งเรือ ลำน้อย กลับลอยคว่ำ 
    ปู่เย็นนำ เชือกผูกไว้ ไม่ให้ห่าง
    ร่างอิดโรย อ่อนแรง ไร้กำลัง
     รอความหวัง คนใจดี นี้ผ่านมา

เดชะบุญ ชาวบ้าน ผ่านมาเห็น
ช่วยปู่เย็น ขึ้นได้ ด้วยอ่อนล้า
กู้เรือน้อย ลอยคว่ำ น้ำขึ้นมา
ปู่น้ำตา ไหลอาบแก้ม ด้วยยินดี

    ข่าวทราบถึง สมเด็จ พระนางเจ้า
    เห็นปู่เศร้า เพราะความรัก ต่อเรือนี้
    รับสั่งให้ ซ่อมเรือนั้น ในทันที
    ทรงใจดี กับผู้เฒ่า มานานไป

 เรือลำน้อย ซ่อมสร้าง อย่างมิดชิด
 ต่อชีวิต ผู้เฒ่า เอาไว้ใหม่
 น้ำตาปู่ ไหลอาบ ซาบซึ้งใจ
 น้ำพระทัย ทรงมี มิใดปาน

   กอดรูปองค์ เหนือหัว ไว้แนบอก
   แล้วปู่ยก มือไหว้ ด้วยใจมั่น
   แม้นหมดลม สิ้นใจ ในเร็วพลัน
  ไม่มีวัน ลืมพระคุณแม่ แผ่แผ่นดิน

ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือ ไม่มีตีนมันยังหากินเองได้ ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย
คำพูดที่ปู่เย็นพูดในรายการคนค้นคนยังก้องอยู่ในหูเสมอค่ะ				
6 ตุลาคม 2551 13:43 น.

อยากลืม...

แก้วประภัสสร


หินแกร่ง เซาะกร่อน ร่อนลึก
ใจนึก พลั้งพลาด ขลาดเขลา
อ่อนไหว ไร้แรง แผ่วเบา
สุดเศร้า เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย
    น้ำตา ระริน อาบแก้ม
    แตะแต้ม เพราะตรอง หมองไหม้
    รึงรุม รุ่มร้อน ทรวงใน
    ช้ำใจ สิโหม โรมรัน
ดวงดาว คล้อยลับ อับแสง 
ดวงใจ หมดแรง ไหวหวั่น
บ่มรัก บ่มใจ ให้กัน
สิเห สิหัน เปลี่ยนไป
    หมดแล้ว สิ้นรัก ภักดี
    กี่ปี ที่เคย รักใคร่
    หมดแล้ว สิ้นเยื่อ ขาดใย
    หมดใจ แสนยาก อยากลืม

ข้าพเจ้า"แก้วประภัสสร" เริ่มหัดเขียนกลอนและเรื่องสั้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและเป็นกำลังใจ แต่บทกลอนจะสมบูรณ์และไพเราะไม่ได้ถ้าขาดซึ่งผู้มีความรู้และประสบการณ์แนะนำ วิจารณ์ งานเขียนของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะได้นำข้อผิดพลาดกลับไปแก้ใข				
1 ตุลาคม 2551 12:24 น.

มิตรแท้

แก้วประภัสสร


พูดบ่อยบ่อยเตือนสติให้ยั้งคิด
หมั่นเดินทางชีวิตด้วยเหตุผล
อยากให้ใครยอมรับนับถือตน
ควรเป็นคนยั้งที่วจีกรรม
   อย่าพูดปดมดเท็จคำเพ้อเจ้อ
   อย่าเผอเรอพูดไปให้ใครช้ำ 
   พูดทุกอย่างที่คิดคือเด็กทำ
   ประดุจคำคือหอกทิ่มที่หัวใจ
เพราะมัวมันนั้นในแต่อารมณ์
จึงเศร้าตรมคิดตัวเองเป็นใหญ่
จิตโมโหขึ้นมาพาวุ่นวาย
อยากถามว่าร้อนไหมใคร่ตอบที
   อย่ามัวรีบเชื่อคำที่คนบอก
   อาจกลับกลอกส่งร้ายให้ถึงที่
   ฟังแล้วคิดทบทวนควรให้ดี
   จะเป็นศรีแก่ตัวไปชั่วกัลป์
เตือนสติประดุจเป็นเช่นมิตรแท้
อย่าเพียงแต่ทำใครให้ร้าวฉาน
เพราะคบกันใช่วันนี้ยังอีกนาน
จึงเวียนวานมาบอกกล่าวให้เข้าใจ				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประภัสสร
Lovings  แก้วประภัสสร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประภัสสร