19 ตุลาคม 2551 14:39 น.
แก้วประภัสสร
สดับเสียง กระพริบ กระซิบสั่ง
คนเคยรัก ยังดัง ข้างข้างหู
ชั่งหวานนัก หลงเพ้อ คร่ำครวญดู
ยังก้องอยู่ ข้างใจ มิวายจำ
เสียงหยอกล้อ กระซิก ระริกรี้
เสียงดนตรี ขับกล่อม ไพเราะล้ำ
ฤดีน้อย อ่อนไหว ไปตามคำ
ดนตรีงาม ใจงาม พ่อทรามเชย
ชวนเพื่อนเที่ยว เกี่ยวก้อย น้องน้อยไป
ประคองน้อง ด้วยใจ สุดเอื้อนเอ่ย
มองท้องฟ้า งดงาม เหมือนอย่างเคย
มองทะเล เพราะเคย พากันไป
มองภูเขา อมยิ้ม ปริ่มความสุข
พากันบุก ป่ายปีน ถิ่นเขาใหญ่
เดินหลงป่า ยังพา กลับด้วยใจ
ไม่ทำลาย รักสอง ให้หมองกัน
เกิดเพราะความ ห่างไกล ใจจึงห่าง
สุดอ้างว้าง วิมานน้อย รอคอยนั้น
จากคู่รัก แปรเปลี่ยน เป็นเพื่อนกัน
หลายปีผ่าน คบกัน ยังผันไป
ทุกทุกสิ่ง ไม่จีรัง และยั่งยืน
ไม่อยากฝืน ธรรมชาติ กำหนดไว้
ตั้งสติ สมาธิ ปลดด้วยใจ
ก็ผ่อนคลาย หายเศร้า บรรเทาลง
ขอบคุณท่าน บิดา ที่ลาจาก
แม้จะพราก ลูกน้อย เป็นผุยผง
แต่คำสอน ของพ่อ นั้นยังคง
อยู่ที่ตรง ใจลูกนี้ มิวันลืม
18 ตุลาคม 2551 22:07 น.
แก้วประภัสสร
บางอารมณ์ ชั่งบอบบาง อย่างที่กล่าว
แม้บางคราว ดูอ่อนไหว พลิ้วเอนอ่อน
บางอารมณ์ ยังเก็บไว้ ในบทกลอน
คนบางกลอน สอนให้คิด ให้ติดดิน
ไม่วายเว้น สิ่งมองเห็น เป็นบางอย่าง
บางอำพราง เรื่องในใจ ไม่วายสิ้น
บางบอกรัก บางบอกลา เป็นอาจิณ
บางรักสิ้น บางช้ำใจ ให้โรยรา
บางใดใด ก็ไม่เท่า เท่าบางรัก
แค่แลพักตร์ ก็หลงรัก เป็นหนักหนา
พอบางจ็บ แทบอัดอั้น ตันอุรา
บางรักพา บางรักจร อาวรณ์ตาม
17 ตุลาคม 2551 16:04 น.
แก้วประภัสสร
แม้ห่างกาย แต่ใจ ไม่ห่างรัก
ยังแวะเวียน เข้ามาทัก เพราะรักยิ่ง
จิตไมตรี ที่มอบให้ ด้วยใจจริง
ทุกทุกสิ่ง ยิ่งฝังลึก ผนึกทรวง
ด้วยอาจ ทำบุญร่วม เมื่อชาติก่อน
เลยมาจร พบกัน ในแดนสรวง
แดนแห่งรัก แดนแห่งใจ ไม่รักลวง
เป็นเหมือนห่วง โซ่ใจ ให้คล้องกัน
แม้นมิใช่ คบกัน เหมือนหนุ่มสาว
ต่างรุ่นราว คราวเดียว ไม่เกี่ยวนั้น
บทกวี ที่หมั่นเขียน เพียรทุกวัน
บอกถึงใจ ดวงเดียวกัน นั่นคือใจ
15 ตุลาคม 2551 21:54 น.
แก้วประภัสสร
ดอกกุหลาบ แทนไมตรี ที่ยื่นให้
บ่งบอกถึง เป็นความใน ให้รับรู้
เหมือนจะอาบ ด้วยน้ำรัก คอยเฝ้าดู
ทุกเช้าตรู่ เข้ามาทัก ชักหวั่นใจ
จิตดวงน้อย คอยรักษา มานานเนิ่น
ไม่สามารถ ประเมินใจ ของใครได้
กลัวผิดหวัง อีกครั้งครา พาเศร้าใจ
ความรักใคร่ หาใช่ผิด ให้คิดเอา
ด้วยความหมาย ของความรัก ต้องหนักแน่น
ไม่อยากกลับ ไปให้เป็น เช่นวันเก่า
ประคองรัก ด้วยสองใจ มานานเนา
ยังไม่วาย ต้องโศกเศร้า เพราะรักจร
อาจเคอะเขิน ตามประสา คนห่างรัก
แต่ก็จัก รอเวลา ไว้สั่งสอน
ขอแค่คอย ห่วงใยกัน หมั่นอาทร
อย่าเพิ่งจร จากกันไป ให้อดทน
แม้นเกิดมา เคียงคู่กัน อย่าหวั่นรัก
ขอฟูมฟัก เกื้อหนุนใจ ให้ผ่านพ้น
รอเวลา บ่มความรัก ด้วยใจตน
หมั่นฝึกฝน จิตเมตตา และปราณี
มีความรัก ต้องใจเย็น ให้เห็นชัด
คอยหมั่นขัด จิตใจเรา ด้วยศักดิ์ศรี
อย่าให้รัก ครั้งใหม่เรา ร้าวฤดี
ให้ชีวี มีแต่สุข ทุกคืนวัน
หมั่นสวดมนต์ ให้จิตแจ่ม แสล่มสร้าง
หมั่นปล่อยวาง เรื่องจุกจิก อย่าหุนหัน
มองโลกกว้าง ยิ้มแย้มไว้ ด้วยใจกัน
อย่าหวาดหวั่น จูงมือไว้ ไปด้วยใจ
ด้วยนับวัน คบกันนาน เกินฉันท์มิตร
อาจต้องคิด ทบทวนกัน ในวันใหม่
แม้นเกิดมา เป็นคู่แล้ว ไม่แคล้วไป
สิ่งสำคัญ คือให้รัก และภักดี
แก้วประภัสสร
15 ตุลาคม 2551 15:39 น.
แก้วประภัสสร
ดูข่าวเช้า วันนี้ มีเรื่องเล่า
เขาจะเอา ทักษิณกลับ มาแก้ไข
ด้วยสาเหตุ เกิดขึ้น ที่ตัวใคร
ก็จะให้ เอาคนนั้น มาคลี่ปม
คิดอย่างไร กันผู้ใหญ่ ในเมืองนี้
มีคนดี อีกมากมาย ยังทับถม
ไฟจะลุก น้ำจะท่วม อ่วมระบม
ไทยขื่นขม เพราะใคร ใยไม่จำ
รู้เขาดี ที่ความคิด อันฉลาด
เหมือนนักปราชญ์ คอยนำทาง คนอื่นช้ำ
กลับมาอีก อาจทำไทย ให้ระกำ
อย่ากระทำ เลยผู้ใหญ่ ที่ใจดี
หรือว่าอาจ เป็นเช่น หมอดูทัก
ไม่นานนัก กลับมาใหญ่ ในวันนี้
หรือชะตา กำหนดไว้ ให้ด้วยดี
แล้วคดี ที่ติดหลัง ยังไม่จำ
สงสารเอย บ้านเมืองเรา ชั่งวุ่นวาย
ขอหลบไป นั่งสมาธิ ให้หายช้ำ
เห็นเพื่อนร่วม ชาติไทยตาย ใจยังจำ
โปรดคิดทำ ทางอื่นไหม ผู้ใหญ่เอย