17 ธันวาคม 2551 06:34 น.
แก้วประภัสสร
ไม่นานนัก เดือนก็ดับ ลับขอบฟ้า
รุ่งทิวา รับวันใหม่ ใจสุขสันต์
ชีวิตคน ก็ผันเปลี่ยน ไปตามวัน
เจ็บป่วยพลัน เข้ามาเยือน เตือนให้รู้
สังขารเอ๋ย เที่ยงแท้ ก็หาไม่
เจ็บและไข้ เวียนมา พาอดสู
ไม่ยึดติด สิ่งใด ที่พรั่งพรู
เพียงให้รู้ นี่หรือ คือความจริง
ยอมรับกับ โรคภัย ที่เข้ามา
ยอมรับกับ โชคชะตา ทุกทุกสิ่ง
ทำความดี ต่อไป ไม่ประวิง
ละเลิกทิ้ง กิเลส ที่ติดกาย
มองกันที่ น้ำใจ นั้นงามนัก
อย่ามัวมอง คนรัก เพราะคลั่งไคล้
อันความสวย และรวย เมื่อจากไป
เหลือทิ้งไว้ เพียงเถ้า เอาไว้แทน
หันไปมอง มารดา ผู้กำเนิด
สวยบรรเจิด หญิงใด หาได้แม้น
แสนสวยงาม ยามพิศ ในดวงแดน
สุดเมืองแมน ก็หาเปรียบ เทียบแม่ตน
เอาความสวย ของแม่ เป็นแบบอย่าง
เอามาวาง ที่ใจ ไม่สับสน
คือความดี เมตตา ต่อทุกคน
ความอดทน ต่อรัก จักนำไป
อีกไม่นาน ตะวันดับ ลับขอบฟ้า
ดวงดารา สวยแจ่ม แย้มยิ้มใส
ก็พลันดับ ลาโลก โศกที่ใจ
สุดอาลัย ความดี มีให้กัน
หากรักใคร จงรัก บอกรักเถิด
วันใดเกิด ร่างลับ กับโศกศัลย์
มีวันนี้ ยังยืน อยู่เคียงกัน
บอกตามใจ เธอนั้น ก่อนวันลา
12 ธันวาคม 2551 10:56 น.
แก้วประภัสสร
บ้านเคยอยู่ อู่เคยนอน ตอนฉันเมา
บ้านฉันเอา ไปล้ม ทับถมซาก
ร่างผู้คน เริ่มหาย และตายจาก
เหมือนกับพราก ลาลับ ไม่กลับมา
ลุงขี้เมา เดินโซเซ ร่ำร้องไห้
บ้านของใคร กันหนอ อย่ารอช้า
ลูกผู้ชาย ใจแข็ง ถูกแทงมา
ร่ำน้ำตา รินรด หมดกำลัง
แค่ลุงเมา เขาบอก ว่าลุงบ้า
แค่ลุงว่า บ้านฉัน พังหมดหลัง
บ้านหลังนี้ ของใคร อยากรู้จัง
ลุงถูกแทง ข้างหลัง เท่านั้นเอง
คำพูดชาย ขี้เมา เอามาฝาก
ถ้าว่าหาก ไร้บ้าน ถูกข่มเหง
เราจะอยู่ อย่างไร ให้คิดเอง
ทำลายไทย กันเกรง จะหมดตัว
พยุงร่าง ชายขี้เมา ให้ลุกขึ้น
ลุงยังฝืน พูดต่อ ว่าปวดหัว
หากลุงตาย จากไป อย่าได้กลัว
จากแต่ตัว ไม่คิดชั่ว ต่อบ้านเมือง
10 ธันวาคม 2551 22:08 น.
แก้วประภัสสร
เพียงคำหวาน ผ่านลม ชมน่ารัก
แค่ความรัก ผ่านเพียง เรียงอักษร
มิอาจทำ ให้ใจ ของบังอร
จะโอนอ่อน ผ่อนคล้าม ตามอารมณ์
อาจหวั่นไหว บางครั้ง ยั้งสติ
ใช้ความดี ให้เวลา มาสะสม
เพียงคิดว่า ไม่อยากให้ ใจระบม
เพราะความรัก ขื่นขม ตรมเหมือนเดิม
คอยมองดู ใจกัน ทุกวันเถิด
หากว่าเกิด รักใคร่ คอยส่งเสริม
จะถนอม กล่อมใจ ให้เหมือนเดิม
สิ่งที่เพิ่ม คอยเติม เธอยึดใจ
เหมือนจะคล้าย คล้ายว่า มารู้จัก
เหมือนเคยทัก รักมานาน วานถามไถ่
สิ่งที่พี่ ยื่นมา ใช่รักไหม
กลับไปถาม ดวงใจ ให้มั่นคง
หรือว่าแค่ ความเหงา พัดเงาผ่าน
หรือว่าแค่ วันวาน ผ่านมาหลง
หรือว่าเป็น ความรัก ที่มั่นคง
บอกให้ตรง ใจพี่ นี้ความจริง
หากว่าเป็น แค่ลม ที่พัดพา
ตรองเถิดหนา ก่อนพา พัดทุกสิ่ง
หากรักกัน แน่แท้ ควรประวิง
ช่วยมาอิง อ้างไว้ ให้แน่ใจ
8 ธันวาคม 2551 12:37 น.
แก้วประภัสสร
หญิงหลายคน หม่นหมอง ต้องร้องไห้
เพราะคำพูด ผู้ชาย ที่หวานหู
หลงคารม เหมือนรัก ยากมองดู
เพียงชั่วครู่ รักสลาย กลายเป็นตรม
จุดอ่อนหญิง ที่จริง แพ้วาจา
คอยซึมซับ รับมา ให้ถาถม
หล่อเลี้ยงใจ อิ่มเอม ในอารมณ์
จิตจ่อมจม คำหวาน ที่หว่านไว้
ลองหันมอง คนพูด ไม่หวานหู
ทั้งทั้งรู้ รักจริง ยิ่งกว่าไหน
กลับไม่ชอบ หลบลี้ หลีกหนีไป
เพราะหัวใจ ไม่ตรอง อาจหมองจริง
อันความรัก สัมผัส ด้วยสายตา
คงต้องใช้ เวลา มองทุกสิ่ง
หากว่าหลบ สายตา แน่แท้จริง
นั่นคือยิ่ง ความหมาย เปลี่ยนใจเลย
จริงไม่จริง แค่อิง ความรู้สึก
เพียงแค่นึก เล่นเล่น เหมือนที่เอ่ย
หากความรัก หวานหอม ดั่งคำเปรย
ใยจึงเอ่ย อกหัก เพราะรักกัน
อาจหวั่นไหว คำชาย เพียงหวังชม
ตามอารมณ์ พาไป ให้ไหวหวั่น
ควรดูใจ กันไป ให้นานนาน
เราช่วยกัน มาหวั่นไหว ในความดี
หล่อเลี้ยงรัก ด้วยความดี เถิดพี่น้อง
อย่าเพียงจ้อง มองตา พาหมองศรี
รักกันด้วย จิตใจ ใฝ่ทำดี
ประเสริฐศรี แก่ตน และคนรัก
3 ธันวาคม 2551 10:52 น.
แก้วประภัสสร
ห้าธันวา พระมหา ราชสมภพ
ขอน้อมนบ ก้มกราบ พระบาทพ่อ
ปิตุเรศ เกศคุ้ม ธรรมเพียงพอ
พ่อผู้ก่อ พุทธคุณ ค้ำจุนไทย
ขอพ่ออยู่ คู่ฟ้า ประชาชี
ขอพระบารมี ปกเกล้า คุ้มครองไท้
ขอพ่อหลวง เป็นร่มโพธิ์ และร่มไทร
ปกครองให้ บ้านเมือง ไทยร่มเย็น
ข้าพระพุทธเจ้า
แก้วประภัสสร