13 มีนาคม 2553 12:25 น.
แก้วประภัสสร
ก่อนน้ำตาพล่าแก้มแตะแต้มท่าน
ใจร้าวรานอดทนบนวิถี
กี่วันคืนขื่นขมตรมฤดี
ในหน้าที่ปกป้องพี่น้องมา
สี่สิบปีผ่านไปจึงใคร่เห็น
ร้อนหนาวเย็นยังอยู่ดูรักษา
ขอเพียงวอนเกษียรที่เวียนมา
พักก่อนลาเท่านี้ที่ต้องการ
คำสั่งมาไร้ชื่อคือกำหนด
สุดรันทดเหมือนผลักหลักประหาร
ติดสินใจเรียกร้องตรองหลักการ
แต่พบพานจุดจบด้วยพบภัย
ขอท่านสู่ภพดีที่บนฟ้า
แด่คนกล้าก้มกราบทาบใจไว้
นามสมเพียรเอกสมญาคนกล้าไทย
ตราตรึงไว้คนรู้ทุกผู้นาม
ขอไว้อาลัยให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา
แก้วประภัสสร
13/03/2553
7 มีนาคม 2553 21:56 น.
แก้วประภัสสร
ลมพัดสะบัดโบก
ใบไม้โยกปลิวหวิวไหว
ระริกระรี้ไป
คล้ายกระดิ่งกริ่งกังวาน
ต้นอ้อล้อหยอกเย้า
โน้มพลิ้วเบาผสมผสาน
ดอกน้อยแย้มตระการ
ดูสวยสดและงดงาม
น้ำค้างยังพร่างพราว
ใสดุจราวเพชรสยาม
เกาะหญ้าเริงร่าตาม
ช่างสดชื่นระรื่นตา
เสียงของนกกระจิบ
ร้องจิ๊บจิ๊บเหมือนเรียกหา
สักพักเพื่อนบินมา
ร่อนถลาอยู่เคียงกัน
ธรรมชาติที่มองเห็น
เปรียบเหมือนเป็นสรวงสวรรค์
เปิดใจสัมผัสมัน
ย่อมเห็นสุขอยู่ทุกยาม
แก้วประภัสสร
07 /03 / 2553
ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ลค่ะ
5 มีนาคม 2553 12:19 น.
แก้วประภัสสร
แท้ที่จริงคนเราก็เท่านี้
ไม่เห็นมีจีรังเหมือนดั่งฝัน
ชอบท้าทายทะเลาะเบาะแว้งกัน
ผิดถูกนั้นโยนแพะแบะแบะไป
คนรอบข้างลุกฮือกระพือปีก
ไม่หลบหลีกยุแยงตะแคงไฉน
แล้วโลกนี้โสภาเวลาใด
คำว่ารักจริงใจแต่ใช่การ
เพราะความคิดมากมายหลากหลายแง่
หากมัวแต่โยงยาวให้ร้าวฉาน
ทั้งปนเปยุ่งเหยิงเป็นเพลิงบาน
มีกระจกรอบด้านแต่ลวงตา
สวมวิญญาณนักสู้รู้แต่ชนะ
ไม่ลดละยอมแพ้แม้วาสนา
เป็นคนไทยยังหมิ่นสิ้นศรัทธา
อย่าหวังว่าชาติอื่นจะชื่นชม
แท้ที่จริงคนเราก็เท่านี้
สรรพนามเรียกพี่มีแต่ขม
ในฐานะเรียกน้องก็หมองตรม
เหมือนโดนถ่มน้ำลาย...อายฟ้าดิน
แก้วประภัสสร
05 /03/2553
ภาพโดยแก้วประภัสสร
มาร่วมสนุกกันดีกว่าค่ะ ใครทายถูกท่านแรก แก้วฯมีของเล็กๆน้อยๆ
มอบให้ค่ะ
ภาพด้านบน คือภาพของอะไร ส่วนมากอยู่ที่ไหน ง่ายๆค่ะ คริ
2 มีนาคม 2553 12:03 น.
แก้วประภัสสร
ทอหวังเพื่อหวังเดินตาม ท้องฟ้างดงาม
ทุกยามเห็นแสงรำไร
ปลูกพืชทำสวนกันไป ไม่ช้าเร็วไว
ได้ผลผลิตชื่นชม
สวนสวยรวยรื่นภิรมย์ ชื่นตานิยม
เพาะบ่มด้วยหมั่นขยันเพียร
เหมือนแบบฝึกหัดอ่านเขียน เรียนรู้บทเรียน
วิถีที่แตกต่างกัน
บางคนอาจต้องแข่งขัน สู้ทนกัดฟัน
บากบั่นเพราะความยากจน
บางคนก็รวยเหลือล้น ทรัพย์สินมากจน
เหลือกินเหลือใช้ได้มา
เพียงหากทุกคนพึ่งพา ตรองด้วยปัญญา
ปัญหาก็จักหมดไป
เปรียบคนเป็นไม้น้อยใหญ่ ขาดน้ำวันใด
มีหวังอาจเหี่ยวเฉาตาย
มาเถิดมิตรรักสหาย มาร่วมใจกาย
สร้างรักและสามัคคี
คนไทยอยู่ดีกินดี มีศักดิ์มีศรี
เทียบเท่าไม่แบ่งชั้นชน
มองกันที่เหตุและผล ค่อยค่อยอดทน
ฝึกฝนให้เกิดความชิน
หากเรามีอยู่มีกิน เอาทรัพย์ในดิน
พลิกฟื้นให้คืนชีพมา
สองแขนพร้อมด้วยปัญญา อีกทั้งสองขา
จักพาพวกเราก้าวไป
จำคำในหลวงขึ้นใจ พอเพียงวันใด
คนไทยไม่มีวันจน
แก้วประภัสสร
02 / 03 / 2553
ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ลค่ะ
1 มีนาคม 2553 14:12 น.
แก้วประภัสสร
ยี่สิบเจ็ดกุมภาฯคุณอาจาก
น้ำตาพรากสิ้นแล้วดวงแก้วฉัน
ลาลับล่วงดับสูญอาดูรพลัน
ลูกหลานนั้นโหยหาด้วยอาลัย
เพราะความดีทีท่านนั้นปฏิบัติ
คอยเป่าปัดเยียวยารักษาไข้
เป็นหมอเก่งเชี่ยวชาญด้านแผนไทย
คนน้อยใหญ่เคารพนบนอบกัน
ทั้งตำบลพลับพลาไชยไกลใกล้นี้
สุพรรณบุรีมีหมอร่วมก่อฝัน
คอยช่วยเหลือชาวบ้านมานานวัน
แบ่งที่นั้นสร้างอนามัยใจเมตตา
ดอนเจดีย์ที่เรานั้นกราบไหว้
มีท่านไซร้บำรุงและรักษา
คอยเก็บกวดใบไม้ที่ล่วงมา
ตราบถึงวัยชรามาลาไกล
มาวันนี้คุณอาได้ลาล่วง
หมดสิ้นห่วงวาระอายุไข
ขอบิดาล่วงลับรับน้องไป
สถิตในทิพสถานวิมานแมน
หากดวงวิญญาณของคุณพ่อรับรู้..
โปรดมารับคุณอาไปอยู่ด้วยกันบนสวรรค์ด้วยเถิดค่ะ
คุณอา มีพี่น้องสี่คน แต่พลัดพรากจากกันตั้งแต่ยังอายุ 7 ขวบ
คุณพ่อของข้าพเจ้าได้ออกตามหาน้องชาย จนถอดใจ คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้พบกันอีกแล้ว
อยู่ๆวันหนึ่ง ขณะที่คุณพ่อของข้าพเจ้ากำลังรักษาคนไข้อยู่ที่บ้าน
ก็มีคุณลุงคนหนึ่งมาพร้อมกับลูกชาย ตามหาญาติ
ถามกันไปมา สักพัก ทั้งคู่กอดกันแน่นร้องไห้ น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อายใคร
พี่น้องที่จากกันนานถึง ห้าสิบปี แต่วิถีชีวิตกลับดำเนินไม่แตกต่างกัน
คุณพ่อของข้าพเจ้าเป็นอดีตหมอทหาร อดีตแพทย์ประจำตำบล
ขณะที่คุณอา ก็เป็นหมอประจำตำบล และเป็นคนนำแพทย์แผนไทยมาใช้
ในการรักษาคนไข้ในตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง
ท่านได้บริจาคที่ดินส่วนหนึ่ง เพื่อสร้างสถานีอนามัย
คุณความงาม ความดีที่ท่านทำ คงไม่สามารถเชิดชูเกียรติ์ประวัติได้หมด
ขอดวงวิญญาณคุณอาจงไปสู่สุขคติ ไปพบคุณพ่อบนสรวงสวรรค์นะคะ