4 มิถุนายน 2553 17:20 น.
แก้วประภัสสร
ยินดียามพี่น้อง.......สุขใจ
ยิ้มรับกับความใน.........อย่าง้าง
ไว้ใจเพราะรักใคร่.......เปิดอก คุยนา
จึงไม่ควรมาล้าง............เอ่ยถ้อยคำเกินฯ
ดีใดตัวย่อมรู้..............คือดี
เลวก็บ่งชัดที..............ส่วนนั้น
กาลแตกต่างต่างมี-......สาเหตุ เพื่อนเอย
ควรยื่นมือแต่งปั้น........แต่เนื้อนาดีฯ
มอบไมตรีอุ่นเอื้อ.........ทุกชน
เขาก็หวังพึ่งคน............โอบอ้อม
เมตตาจักเห็นผล.........เผื่อแผ่ ไปนอ
เขาจักกลับนอบน้อม.....แน่แท้ไว้ใจฯ
บทส่งก่อนกลับบ้าน ฝากให้ทุกคนไปนอนอ่านเล่นๆกันค่ะ
แก้วประภัสสร
04/06/2553
เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ
ลิลิตพระลอ
1 มิถุนายน 2553 16:39 น.
แก้วประภัสสร
อันหญิงงามเปรียบคล้าย .......มาลี
บานเบ่งหอมยวนฤดี..........เ.คลิบเคลิ้ม
คลอเคลียไม่ห่างหนี........แด่แม่ จริงนา
ลอยล่องดูหยาดเยิ้ม.......เสน่ห์น้องตรึงกมลฯ
หอมเอยหอมกลิ่นเนื้อ........จอมใจ
หอมบ่เห็นมีใคร............ เท่านี้
หอมแนบอุ่นอกใด........เทียมเทียบ จริงนอ
หอมจากเลือดเนื้อชี้.......ถ่องแท้มารดาฯ
แก้วประภัสสร
01/06/2553
27 พฤษภาคม 2553 21:37 น.
แก้วประภัสสร
นิ้วโป้งชูว่าฉันนั้นยอดเยี่ยม
เพราะเต็มเปี่ยมพลังดั่งช้างสาร
แม้ว่าสั้นนิดเดียวแต่เชี่ยวชาญ
อีกกล้าหาญกว่านิ้วใดในโลกา
ส่วนนิ้วชี้เย้ยหยันฉันสิแน่
ดีกว่าแท้มีอำนาจวาสนา
ใช้นิ้วชี้สั่งใครได้ทุกครา
แต่ไหนมาคนใช้และใฝ่ปอง
เรานิ้วกลางข้างนิ้วชี้ดีที่หนึ่ง
เป็นนิ้วซึ่งยุติธรรมนำเพื่อนผอง
ให้ความรักสามัคคีที่ปรองดอง
นิ้วอื่นต้องมองเห็นเพราะเป็นกลาง
ส่วนนิ้วนางคอยช่วยด้วยซื่อสัตย์
ผูกใจมัดด้วยความรักจักไม่ห่าง
ยึดคำมั่นสัญญาว่าจัดวาง
อยู่ระหว่างกลางก้อยนิ้วน้อยกัน
นิ้วสุดท้ายคล้ายทูตสัมพันธไมตรี
เป็นนิ้วที่เรียวเล็กเหมือนเด็กนั้น
มีหน้าที่เกี่ยวมิตรให้ชิดกัน
คล้องสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องร่วมท้องมา
นิ้วโป้งชูชันฉันยอดเยี่ยม
นิ้วชี้เปี่ยมอำนาจวาสนา
นิ้วกลางเป็นกลางระหว่างพา
นิ้วนางกล่าวว่าฉันมีรัก
นิ้วก้อยทำให้คนดีกัน
เกี่ยวก้อยสัมพันธ์นั้นประจักษ์
ทุกนิ้วสำคัญเหมือนกันนัก
สามัคคีเป็นหลักพร้อมเพรียงกัน
เปรียบคนเราควรเอาอย่างนิ้วกลางก้อย
เป็นคนคอยประสานสมานฉันท์
ให้ทุกคนหันหน้ามารักกัน
ผูกสัมพันธ์เกี่ยวก้อยร้อยรวมใจ
แก้วประภัสสร
27 / 05 2553
22 พฤษภาคม 2553 21:48 น.
แก้วประภัสสร
กระเทือนทุบกระแทก
แผ่นดินแยกเป็นหลุมยาว
ผู้คนล้มระนาว
ราวกับว่าปูปลา ตาย
ระเบิดดังกึกก้อง
เล็งและมองที่เป้าหมาย
เศษแก้วเกลื่อนกระจาย
เขากระหายอะไรกัน?
จุดไฟแล้วเผายาง
ถีบลงหว่างสะพานนั้น
ไฟลุกโชนเร็วพลัน
คงถึงวันมิกสัญยี
อีกฝ่ายเข้ารายล้อม
ตีวงอ้อมไม่ให้หนี
ต่อสู้ยิงทันที
ตามวิถีนายสั่งมา
ตากล้องต้องทำข่าว
มาถึงคราวถูกยิงขา
ร่างร่วงทรุดไปลงมา
ยื่นแขนขาช่วยผมที
เสียงคนที่กรีดร้อง
ช่วยประคองให้หลบหนี
ระเบิดตามอีกที
จบชีวีเลือดกระเซ็น
เจ็บหนอช่างร้าวลึก
ทั้งบ้านตึกกลิ่นไหม้เหม็น
จากเช้าจนถึงเย็น
หาดับมอดปลอดเชื้อไฟ
ดับเอ๋ยใจใกล้ดับ
ความย่อยยับเหตุไฉน
เกิดเหตุไทยฆ่าไทย
เพื่ออะไรหรือไม่พอ?
กลับมาเถิดพี่น้อง
รวมปรองดองไม่ต้องขอ
จับมืออย่ารีรอ
ร่วมพลิกฟื้นให้คืนมา
20 พฤษภาคม 2553 14:50 น.
แก้วประภัสสร
ท้องฟ้ามองดูสวยงาม ทะเลสีคราม
ทุ่งข้าวยังเขียวขจี
เราเริ่มต้นใหม่วันนี้ ทุกอย่างไม่ดี
ล้างลบและจบลืมมัน
ฟื้นฟูพลิกฟื้นคืนฝัน หลายคนร่วมกัน
สักวันคงกลับเหมือนเดิม
มาช่วยสร้างแรงส่งเสริม ตักน้ำใส่เติม
ให้เต็มด้วยปันน้ำใจ
เมตตาการุณเจือไว้ บ้านพังเพียงใด
หาใช่น้ำใจพังกัน
หลายคนอาจต้องโศกศัลย์ ญาติมิตรจากพลัน
สักวันคงค่อยผ่อนคลาย
หลายคนบ้านเรือนเสียหาย ถูกเผาวอดวาย
ทั้งหลายเพราะขาดสติกัน
ต่างคนต่างร้อนหุนหัน ไม่เชื่อฟังกัน
จาบัลย์ก็คือคนไทย
ท้องฟ้ายังดูสดใส กลับตัวกลับใจ
อย่าให้ลูกหลานทำตาม
นี่คือแผ่นดินสยาม ชาวโลกขนานนาม
งดงามรอยยิ้มพิมพ์ใจ
ควรจักรักษาภาพไว้ ลืมเรื่องร้ายไป
สร้างใหม่ด้วยมือพวกเรา
แก้วประภัสสร
20/05/2553
ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ลค่ะ