เสาร์รื่นรมย์เริงร่าตาหวานฉ่ำ ในคืนค่่ำหยดเย็นดั่งเม็ดฝน คลายอารมณ์ข่มดับกับร้อนรน มาฝึกฝนงานกลอนก่อนลืมเลือน  ( แก้วฯ) ระรื่นรู้อยู่ชั่วทุกขณะ เริงเรื่องร่ำอุระเพ-ลาเหมือน- ร้อนรุ่มรุกจุกบ่ายแล้วคลายเบือน ร่มไรไรทุกเอื้อนเสมือนรู้ (วางเสียงตรี อิอิ) ( กิ่งฯ) แม้ร้อนแรงแยงตาทั้งหน้าหลัง จงระวังใจกายอย่าหน่ายสู้ ร้อนภายนอกธรรมดาไม่น่าดู ลึกล้ำหรูคือจิตคิดให้เย็น  ( แก้วฯ) ๐ ข่มใจคลายจมระงมเจื่อน เตือนคิดติดเคลื่อนก็พอเข็น- ลากจูงรุ้งจ่างวางประเด็น เว้นแปลงแหว่งเป็นเช่นนี้นะ (วางตรีอีกที ) ( กิ่งฯ)  ฟังสิฟังทางนี้ทุกชีวิต ไม่ยึดติดร้อนเย็นเห็นผัสสะ ชวนเพื่อนเทียวเดี่ยวดูหมูกะทะ อย่านะจ๊ะแย่งฉันชิ้นมันชอบ.. 555  ( แก้วฯ)

๐ กระนั้นเถอะเชิญมิตรสนิทนี้ ท่องไพรป่านทีไหนสักหอบ หรือเทือกสวนไร่นาอยู่รายรอบ หวังคำตอบ แค่หรรษาอารมณ์ชื้น ( กิ่งฯ)  อันพืชสวนไร่นาอย่าให้พูด หญ้าคายขูดผิวน้องมองเป็นปื้น ต้องทาถูด้วยยารักษาคืน ผิวจึงฟื้นคืนสวยช่วยวาววับ ( แก้วฯ) ๐ ว่าแต่อย่าหยิบยาผิดขนาน ใบคาบาดห้ามอ่านข้ามลำดับ หม่องถือท้อก็พอแก้ยุบยับ หรือถ้วยทองระงับขับคันดี ( กิ่งฯ) คันดีคือเบ็ดแท้..ตกปลา ฝนขาดช่วงบอกลา...ขอดแห้ง คันดีที่อาสา. ขุดบ่อ.. พอช่วยดับทุกข์แล้ง..ดื่มน้ำ เย็นกันฯ ( แก้วฯ) ๐ ขันสองขันน้ำดื่ม......คงพอ น้ำแช่น้ำแข็งหนอ......ชื่นแท้ แม้นหากเปลี่ยนว่าขอ......ใส่เพิ่ม เติมนา หวานแต่งใส่ถ้วยแต้......นั่นน้ำแข็งไสฯ ( กิ่ง ฯ)

 นาดีเลือกปลูกข้าว..พันธ์ดี นาปีนั่นหนึ่งปี. ปลูกครั้ง นาหว่านก็เห็นมี. ทุกภาค นาน่าจิตคิดตั้ง..ต่อต้อง..ตรองตรึงฯ ( แก้วฯ)

๐ ถึงนาถ้านึ่งข้าว......สองแปบ จักจับกบเขียดแนบ.....ย่างปิ้ง แลมีแจ่วแจมแบบ.....บ้านทุ่ง คงอร่อยยากทิ้ง.....แบบบ้านนาเราฯ   ( กิ่งฯ)

กินใหญ่เลย. ท้องอืดสิพี่น้อง..   กิ่งโศก. ๐ จะอืดไม่อืดนั้น......ใช่เป็น อร่อยสิคือประเด็น.....ใหญ่น้อย หากสุดสุดย่อมเห็น....พุงยื่น หากนิดนิดแค่ย้อย.....โผล่โย้ยามแลฯ แก้วประภัสสร  เพลาณ.บัดนี้...ชายหญิง ทุกอย่างวางเรื่องจริง..แต่ต้น ร้อนเย็นอย่าประวิง..ลิงโลด. ตามนา ธรรมะช่วยผ่อนพ้น..ดับร้อน. กลายเย็นฯ.. นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ.. .