8 พฤศจิกายน 2549 12:44 น.
แก้วนีดา
ทางเลือก.เรียน หรือ งาน
คงไม่มีใครปฏิเสธนะว่า เมื่อตอนเป็นเด็กไม่ต้องเรียนหนังสือนะ
อย่างน้องก็ต้องเรียนให้จบตามภาคบังคับ
ของกระทรวงศึกษาหละจริงปะ
เพื่อที่จะได้เป็นคนที่ อ่านออก เขียนได้ไง
สรุปคือ ไม่ใช่คนโง่ 5 5 5
สรุป คือ เราไม่โง่ เพราะดันจบสูง เอิ๊ก ๆ ๆ
สมัยเด็ก ๆ เราก็ต้องไปโรงเรียน โอ้ย.
ไอ้เรานะมันโคตเบื่อเลย
เมื่อไหร่จะไม่ต้องไปเรียนก็ไม่รู้เน้ออออ หรือไม่ก็
เมื่อไหร่จะปิดเทอมสักที่หนอ
นี่ขนาดเราไม่ใช่พวกเด็กนักเรียนอยู่ประจำนะเนี้ยยย
ยังแสนเบื่อจะตายซักเลย
ดีอยู่อย่างนะที่เราไม่ต้องถูกส่งตัวไปอยู่โรงเรียนประจำ
เพราะว่า เตี่ยเรารับราชการ ต้องย้ายบ้านบ่อย
แต่ไหง ไม่ส่งเราไปอยู่โรงเรียนประจำก็ไม่รู้ได้.
รู้ปะว่าพวกเด็กอยู่โรงเรียนประจำนะ
มันเหมือนพวกต้องติดคุกเลยหละ.
เรานะ ถ้าต้องไปอยู่แบบนั้นนะมีหวัง.
ได้มีเรื่องสนุกๆที่นำมาเล่าไม่รู้จบ
และผู้ใหญ่ได้ปวดหัวกันไม่เว้นแต่ละวันเลยละ 5 5 5
แต่เด็กบางคน เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนแบบเราและเพื่อนๆ
เพราะว่า.ฐานะทางบ้านของเขาไม่ดีนะ
ต้องเรียนจบแค่ภาคบังคับเองเฮ้อ
หน้าเศร้าแทนพวกเขาเหล่านั้นเน้อออ
ทั้ง ๆ ๆ ที่บางคนเรียนเก่งด้วยนะ แต่ต้องออกมาทำงาน
แทนการได้เรียนต่อสูง ๆ แบบเรา
เขาไม่มีโอกาสจะมาเลือกว่า จะเรียน หรือ จะทำงาน
เขาต้องทำงาน ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อน่าเศร้าไหมละ
เราตอนเด็ก ๆ นะ ซนไม่เบาเลยละ
จะมีอะไรเสียอีกละ
ริมรั่วโรงเรียนมีร้านขายของ
เราก็ต้องอุดหนุนสิจิงไหมดังนั้น
เราก็ซื้อขนมบ้าง น้ำเปล่า กินนะสิ
แต่ดันทะลึ่ง กินในเวลาเรียนเสียนี่
ก็แหม คนมันหิวนี่หนาาาา
ได้เรื่อง พ่อจำรัส (บาทหลวง) มาเห็น วิว ๆ ๆ
จะมีอะไรละ
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจิง ๆ ด้วยแปลกวุ้ย มันแปลก แต่รู้ปะ
พ่อจำรัส ไปหาเตี่ยเราที่บ้านในวันหนึ่ง
โห้..(เดากันเอาเองบ้างจิว่าเกิดไรตามมา 5 5 5)
อีกหนึ่งกิจกรรมสนุกๆของเรา
ที่ทำกับเพื่อนๆรู้ไหมว่าอะไร
โน้นเลยยยย ยอดโบส์ที่มีระฆัง
ที่จะต้องตีทุกวันเวลาเที่ยงไงละ อิ อิ อิ
ไงอยู่มาวันหนึ่ง
ดันมีกลุ่มเด็ก 3-4 คนดันขึ้นไปอยู่กันได้ไงละหว่าา
ไม่ต้องถามนะ ก็ปีนบันไดลิงกันขึ้นไปไงละ
ยังมีอีก.
ในป่าช้าที่ฝังศพละเหรอ.ไม่พ้นสายตาของพวกเราไปได้
ก็แหม..มันอยากรู้อยากเห็นนี่.(ผีไงละ)
เขาทำกันแบบไหนแล้วไม้กางเขนนะ
เขาปักกันทำไม แล้วปักมันตรงไหนละของหลุมศพ
ได้เรื่องเลยแบบนี้ก็ต้องมีการ เรียนรู้จิ
ต้องเข้าไป Tour กันสักหน่อยแล้วววว
เห็นยังละ ว่าเราตอนเด็กๆ แสนจะเป็นเด็กดี๋ ดี
ไม่ซนเลย ยังชอบทำกิจกรรมต่างๆอีก
คงจะผิดกับเด็กที่ต้องช่วยทางบ้านทำงานเพื่อ หาเงิน
จะอะไรละเหรอ ก็เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานี่
เราได้ดูรายการ
คนเก่งหัวใจแกร่ง ทางช่อง itv กับ
รายการ สกรุ๊ปชีวิต ทางช่อง7
ได้เห็นชีวิต ของเด็กบ้าง ของผู้ใหญ่บ้าง
ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนให้ได้เงินมา
ต้องหาเก็บของเก่า หรือไม่ก็ต้อง
หาเก็บผัก หาปลา หาหอย
เพื่อนำมากินเป็นอาหาร ด้วยเพราะว่าเขาไม่มีจะกิน
เพราะเขายากจน และที่สำคัญ เขาไม่ได้เรียน
เพราะว่าทางบ้านไม่มีเงินจะส่งให้เรียน
เราเลยมาคิดว่า ชีวิต ของคนเรานี่..
มันช่างไม่สมดุลเอาเสียเลยเน้อออ
ไอ้คนที่อยากจะเรียนจะตาย ดันกลับไม่ได้เรียน
เพราะฐานะยากจน
ส่วนให้คนที่ไม่ต้องการจะเรียน
ดันถูกบังคับให้เรียน ก็แหม
ดันเกิดมาสบายบ้านรวยนะ
เลยทำตัวเป็นลูกเทวดามันเสียเลย
แบบเด็กยุคใหม่ สมัยใหม่ในทุกวันนี้ไง
ที่มันดันทำกันเป็นแถวเลย
คงคิดว่าเป็นแฟชั่นที่เท่ + เก๋อะไรแบบนั้น.
โอ้ย ๆ ๆ นั่นนะไม่ใช่เรานะ ขอบอก
ก็เราบอกแล้วไง ว่าเรานะดันจบสูง แถม
ยังชอบทำกิจกรรมพิเศษ
อย่างที่เล่ามาข้างบนไงละ 5 5 5
เราจะมาบอกว่า.ขอให้เพื่อน ๆ
ที่คิดว่าจะทำตัวเป็นลูกเทวดา
หรือเป็นนางฟ้า (สักวันมันได้ตกสวรรค์แล้วจะรู้สึก)
แล้วไม่คิดจะเรียนกันนะ.
ขอให้ดูรายการดังกล่าวบ้าง
แล้วคิด ๆ ว่า สักวันถ้า เพื่อนต้องกลายเป็นคนจน
เพื่อนจะทำอย่างไร หรือไม่ก็ พอโตเป็นผู้ใหญ่
จะทำงานอะไร ก็ดันไม่ได้เรียนให้จบสูงๆมานะ
ดีแต่ทำตัวเหลวไหลไปวันๆ เที่ยวสนุกไปวันๆ
อนาคต คงได้คตกันเป็นแถวละ
ในขณะที่คนจนๆเขาต้องคิดว่าเขา..
จะเรียน หรือว่า จะทำงาน
เพราะว่า.เขาไม่ได้มีโอกาสที่ดี
เขาไม่มีทางเลือกมากนัก
ส่วนเรานะเหรอ..เรามันเด็กดี.อิ อิ อิ
ก็เราบอกแล้วไงละ
ว่าเรานะดับจบมาสูง เลยได้มานั่งทำงานสบายๆ
ในห้องแอร์เย็นๆ วันๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมายนัก
ก็ได้เงินเดือนดีงานสบายอะไรแบบนั้นนะ
ใช้สมองคิดวางแผนงานแทนการใช่แรงงานไงละ
โห้เข้าใจยัง
นี่ละ ผลจากการตั้งใจเรียน ไม่ต้องมาคิดว่า
จะเรียน หรือว่า จะทำงาน
เพราะเราเรียน ๆ จบแล้วจึงมา ทำงานไง
เมื่อมีโอกาสก็รีบๆทำหน้าที่ของตัวเอง
ให้ดีเถอะนะเพื่อนๆ
ไอ้ที่คิดว่าจะไม่เรียน .
เอาแต่ชอบเที่ยวทำตัวเหลวไหลไปวันๆนะ
วันหน้ามาคิดได้ ..
มันก็สายไปแล้วนะ..5 5 5.จะหาว่าดันไม่บอก.
11 กันยายน 2549 10:56 น.
แก้วนีดา
เพื่อนๆ คะ เรามีเรื่องอยากเล่าไว้เพื่อเตือนใจลูกผู้หญิงทุกคน
ช่วยฟอเวิดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นะคะ
เราอยากให้เราเป็นรายสุดท้าย...
เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดว่า
เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
ทุกครั้งที่เราได้รับ FWD เมลมา เราเกิดความรู้สึกรำคาญ และกดลบทิ้ง
ทำให้เวลามีการเตือนอะไร เราก็ไม่เคยสนใจ ไม่เคยรับรู้ว่ามี
ภัยสังคม รอบตัว
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเราไปรู้จักผู้ชายคนนี้ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ
เราไปกับเพื่อนผู้หญิงหลายคน ทั้งๆ
ที่ปกติเราก็ไม่ได้เป็นคนเที่ยวกลางคืนนะ
แต่วันนั้นเรามีนัดพบเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันนาน
และเสียงโหวตของคนอยากไปที่นี่ก็มากกว่า
เราก็เลยต้องไปเจอเพื่อนที่นั่นทั้งๆ
ที่ไม่ได้อยากไปเลย
เพื่อนเราหลายคนก็พาแฟนมาเปิดตัว
ซึ่งเราเองไม่เคยมีแฟน
เราไปคนเดียวก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็นั่งพูดคุยกันตามประสาคนไม่เจอกันนาน
แต่เราก็นั่งได้ไม่นานเริ่มรู้สึกอยากกลับบ้านเพราะว่าเหม็นกลิ่นบุหรี่มาก
(เราเป็นภูมิแพ้ ) และเราก็ไม่ชอบเสียงหนวกหู พูดกันก็ต้องตะโกนอ่ะ
เลยบอกเพื่อนๆ ว่า ขอตัวกลับก่อน เอาไว้วันหลังค่อยเจอกันใหม่
แฟนเพื่อนเราคนหนึ่งก็อาสาเดินออกไปส่งขึ้นแท็กซี่
เพราะว่าไม่อยากให้เราเดินคนเดียวออกจากร้านไป
เพราะเราไม่คุ้นสถานที่เลย
และร้านนี้ก็ไกลจากบ้านมากๆ แต่พอเราเดินออกมาจากร้านไม่นาน
รู้สึกตัวอีกที
เราก็ตื่นขึ้นมาอีกทีอยู่บนเตียงในโรงแรมแล้ว....
เรามองตัวเอง...ในสภาพเปลือยล่อนจ้อน ...เนื้อตัวเป็นจ้ำๆ
เรารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา ยังกะหนังไทยเลยเนอะ
แต่มันคือเรื่องจริง
นี่คือตัวเรา
นี่เราหรือเนี่ย...
เราไม่คิดว่าครั้งแรกของเราที่ทนุถนอมมากว่ายี่สิบปีจะต้องมอบให้แก่สัตว์นรกตัวนี้
เรารวบรวมสติได้ในเวลาอันรวดเร็ว
บอกกับตัวเองว่าเราไม่สามารถย้อนเวลาคืนมาได้แล้วเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราอีก
ถ้าไอ้สัตว์นรกตัวนี้ตื่นขึ้นมา...
เราอาจจะถูกมันข่มขืนอีกก็รอบได้
เราเลยรีบแต่งตัวแล้วหวังจะออกจากโรงแรมให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะตื่น
เราจะวิ่ง ๆ ๆ เอาร่างอันโสมมของเราไปให้พ้นจะสถานที่แห่งนี้ให้ได้
เราจะต้องเอาเรื่องมัน เราจะบอกที่บ้านอย่างไรดี ....
ป่านนี้พ่อแม่เราจะห่วงขนาดไหนที่ลูกไม่กลับบ้านทั้งคืนโดยไม่ติดต่ออะไรเลย
เราจะแจ้งความดีไหม เพื่อนเรารู้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น
สารพัดคำถามที่เกิดขึ้นในใจของเรา
ทันใดนั้น..เราก็เห็นโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ของมัน
เราเลยรีบคว้าติดตัวออกมาด้วย หวังเป็นหลักฐานให้รู้ชื่อ สกุลว่ามันคือใคร
ที่อยู่ เบอร์มือถือที่จะติดต่อเอาเรื่องมันได้
เมื่อเราแต่งตัวเสร็จ
เราเลยคว้าเอาออกมาด้วย
ระหว่างทางที่นั่งแทกซี่ เราร้องไห้ตลอดทางจนคนขับ ถามเราว่า
หนูๆ เป็นอะไรรึปล่าว เราได้แต่ตอบไปว่า ไม่ได้เป็นอะไร
เพิ่งเลิกกับแฟนเฉยๆ
(จะให้เราบอกอย่างไร ว่าเราเพิ่งถูกข่มขืนมา ...)
ระหว่างนั้นเราได้ยินเสียงคนขับหวังดีคอยพูดปลอบใจเราแต่ฟังไม่ได้ศัพท์เท่าไรนัก
เพราะในใจครุ่นคิดแต่เรื่องที่เราจะต้องบอกพ่อแม่เมื่อ
เรากลับถึงบ้านให้ได้
ว่าเราเป็นอะไร ทำไมไม่กลับบ้าน เรา...ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
เราบอกให้คนขับแวะร้านขายยาซื้อโพสตินอร์มา
เราไม่เคยคิดเลยว่าเราเองคนนี้นะหรือ
ที่เคยรู้สึกภาคภูมิใจกับความบริสุทธิของตัวเอง
เรานี่หรือที่เคยรู้สึกเย้ยหยันลูกผู้หญิงด้วยกันเวลาที่พบกระทู้ตามเวบบอร์ดว่า
ยาอะไรกินป้องกันการท้อง หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้
เราเคยขยะแขยงคนเหล่านี้เพราะมองแต่เพียงว่า
เขาเหล่านั้นไม่รักนวลสงวนตัว
รักสนุกเพียงชั่ววูบ
แต่ก็เรานี่แหละที่วันนี้ต้องกลับมาเป็นฝ่ายกล้ำกลืนบอกคนขายยาว่าต้องการยาโพสตินอร์
... คนขายหยิบให้เราด้วยคำพูดว่า น้อง .. ทีหลังกินยาคุมดีกว่านะ
มดลูกจะได้ไม่พัง ด้วยสายตาเหยียดหยามอยู่ไม่น้อย...
แล้วเราจะทำอย่างไร .. เราจะบอกเขาได้อย่างไร
ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเรา..
เราได้แต่ก้มหน้ารับสภาพไป.....
เราขึ้นแทกซี่คันเดิมที่จอดรออยู่ให้ขับส่งไปถึงที่บ้าน
เมื่อถึงบ้าน วันนั้นเป็นวันเสาร์ พ่อแม่เราไม่ได้ออกไปทำงาน
เรารีบบอกพ่อแม่ว่าเป็นลม
มีคนนำส่ง รพ. ติดต่อพ่อแม่ไม่ได้ นี่เพิ่งฟื้นกลับมา
พอดีในกระเป๋ามีเบอร์เพื่อน ที่ รพ เขาเลยตามเพื่อนมาได้คนนึง
มารับตัวและจ่ายค่ารักษาไปแล้ว
เราไม่รู้ว่าเขาเชื่อหรือไม่ แต่เราคิดออกได้เท่านี้จริงๆ...
และรีบบอกพ่อแม่ว่าขอไปนอนพักที่ห้องนอนก่อน พอขึ้นห้องนอน
เรารีบหยิบเอามือถือและกระเป๋าสตางค์ของไอ้สัตว์นรกนั่นออกมาดู
แล้วเราก็ต้องตกใจที่พบว่าตัวเองเป็นกำลังเป็นนางเอกคลิปวิดิโออยู่
มัน...มันถ่ายคลิปเก็บไว้เพื่ออะไร เพื่ออวดคน เพื่อแบลคเมล์เรา
หรืออะไร...
และไม่ใช่แค่เราคนเดียว ยังมีเพื่อนเราในนั้น
มีคนอีกเกือบสิบคนที่ตกในสภาพเดียวกับเรา
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนเราคนนี้พยายามคะยั้นคะยอนัดพบเพื่อนเก่าเพื่อให้แฟนตัวเองได้ลิ้มรสชาติใหม่ๆ
หรือปล่าวเนี่ย
เราเลยโทรไปถามเพื่อนเรา เหมือนเพื่อนเราจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มันไม่ยอมรับโทรศัพท์ และเลิกติดต่อกับเราอีกเลย
เล่ามาถึงจุดนี้ อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนระวังตัวให้ดี
อย่าไว้ใจเพื่อนตัวเอง
อย่าให้ใครไปส่งเราตามลำพัง
และหากเกิดอะไรขึ้นต้องมีสติ
หากมีโอกาสหยิบมือถือหรือกระเป๋าสตางค์มันออกมาพร้อมกับตัวด้วยก็ได้
เผื่อจะได้มีหลักฐานให้รู้ว่ามันคือใคร
เรากล้าพิมพ์เพราะเราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ตอนนี้เรากำลังจะไปเรียนต่อที่อเมริกา
ป้าเรามีร้านอาหารที่นี่และคิดว่าจะทำงานที่นี่เลย
คงไม่ต้องได้พบเจอกับมันอีก
เราจึงกล้าเล่าให้ฟัง
และมันก็คงทำมาเยอะจนจบมือใครดมไม่ได้หรอกว่าเราคือใครเว้นแต่จะถามจากเพื่อนเรา
คนนั้น แต่เราส่งข้อความไปให้เพื่อนเราว่า ถ้ามันบอกว่าเราคือ ใคร
เราก็จะเอาคลิปของมันออกเผยแพร่เช่นกัน
เราขู่มันไปให้สมกับความชั่วที่มันทำกะเรา
เราก็ไม่แคร์แล้วเพราะว่าเรามีหลักฐานคือ
คลิปวิดิโอที่พร้อมเล่นงานมันทุกเมื่อ
และนี่คือ โฉมหน้าของสัตว์นรก
.................................................................
อ่านแล้วท่านคิดเช่นไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น
10 มิถุนายน 2549 12:29 น.
แก้วนีดา
ที่ห่างหายไปจากบ้านกลอนไทยเสียหลายเดือนนั้น
ไม่ใช่ว่าจะลืมเลือนบ้านแห่งนี้นะ....แต่เพราะว่า...
...งานยุ่งมากๆๆนั่นเอง แก้ตัวหรือเปล่าหนอ...ไม่เลย
ที่บอกเช่นนี้เป็นเพราะว่า เรายังคงเข้ามาคิดตามอ่านผลงาน
ของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในบ้านกลอนแห่งนี้บ่อยๆๆ....แต่
จะให้มาเขียนกลอนในช่วงนั้น คงจะยังไม่มีเวลาว่างมากๆนั้นเอง
ได้แต่เข้ามมองดูเพื่อนๆพี่ๆน้องๆอยู่ห่างๆ...และคนที่เราชอบเข้าไปอ่านเสมอ
คือ พี่สาวคนงามที่เขียนบทความเรื่องสั้นได้ไพเพาะจับใจ..และมีความหมาย
แอบแฝงเสมอ คนนั้นก็คือ พี่พุด นั้นเอง
คงไม่ต้องบอกนะว่า..ผลงานของพี่พุดนั้นดีขนาดไหน...เพื่อนๆที่เข้าไปอ่านประจำ
คงจะทราบกันดี...แก้วนีดาคนนี้จะขอบอกว่า...เป็นแฟนประจำ ของพี่พุดคน1จ๊ะ
ต้องขอบคุณพี่พุด พี่สาวคนดี ที่มาเขียนบทความเรื่องดีๆให้อ่านกันเสมอ
ขอบคุณนะค่ะพี่พุด
และอีกคนที่แก้วนีดาจะชอบเข้าไปอ่านเสมอ ถ้าได้เข้ามาในบ้านกลอนแห่งนี้
คือ พี่หญิงไร้เงา พี่สาวคนที่น่ารักที่สุดในใจของแก้วนีดา
จึงต้องมาขอว่า.....พี่หญิงจ๋า...แก้วนีดาคิดถึงพี่หญิงฯจังเลย
จะมาอ้อนขอกอดพี่หญิงด้วย....อิอิอิ
อีกคนที่แก้วนีดา ชอบเข้าไปอ่าน คือ ดาวอังคาร
ยิ่งนานวัน ดาวอังคารก็เขียนบทกลอนได้ประทับใจแก้วนีดา
มาชื่นชมจากใจจริงของเพื่อนคนนี้นะ ดาวอังคาร
ชมอักรษ ก็อีกคน ที่แก้วนีดาคิดถึงเสมอนะจ๊ะ
ลุงแก้วประเสริฐด้วย หลานแก้วจะเข้าไปอ่านผลงานบ่อยๆ
ทะเลไม่เคยหลับด้วยนะ
ไอซ์ก็อีกคนที่แก้วนีดาคิดถึงและจำหน้าได้เสมอ
กุ้งหนามแดงด้วย ว่าแต่ คนเมืองลิงไม่รู้ว่าหายไปไหนหนอ
แก้วนีดาคิดถึงนะ
คนชอบเมา บินเดี่ยว แอปเปิ้ล อัมมิตราหญิงเก่งแห่งบ้านกลอนไทย
เรนจังเจ้าน้องน้อยที่น่ารัก
น้ำแขงไส ,หลักไม้เลื้อย
ยังมีอีกหลานคนที่แก้วนีดาไม่ได้เอยชื่อถึง...แต่แก้วนีดาก็ไม่เคยลืมนะจ๊ะเพื่อน
ฉันคนเก่าคนนี้ยังคงอยู่
เธออาจไม่รู้ความในใจ
ตลอดเวลาของความห่วงใย
แก้วคนนี้ยังมีให้ใจคงเดิม
ที่ผ่านมาอาจไม่บอกเล่า
ในเรื่องเก่าเก่าที่สงสัย
มาวันนี้ทุกสิ่งประจัยนัย
ความสงสัยสิ้นหายในตัวตน
รักคือรักยังคงมั่นอยู่เสมอ
ยังรักเธอมั่นคงไม่สงสัย
ยังคงรักเธอแบบนี้ตลอดไป
นานเท่าไรไม่ต้องถาม...ตราบชีวี
ที่ผ่านมานึกว่าฝันครั่นพอตืน
เธอก็คืนความจริงสิ่งค้นหา
จะตอบกลับความรักหักใจลา
แต่อนิจา...คืนไม่ได้..ใจรักเธอ
1 กุมภาพันธ์ 2549 15:52 น.
แก้วนีดา
เครือออน.ของขวัญจากฤดูแล้ง
อัศจรรย์สีสันของป่าเขา
ย่างเข้าสู่ฤดูแล้งแห่งป่า
มวลไม้เปลี่ยนสีมองตื่นตา
เหลืองทองอร่ามตาพาย้ำเตือน
ฤดูแล้งย่างกายเข้ามาหา
มวลไม้ป่าต่างพาปลิดใบ
ต่างจากเครือออนกลับสดใส
เตรียมผลิตดอกไสวให้ชื่นชม
เครือออนไม้เถาเจ้าอ่อนช้อย
ดังสาวน้อยแต่งแต้มพงไพร
เจ้างามละมุนละไมดูอ่อนไหว
มองคราใดสุขใจใคร่ครวญ
สีม่วงอมชมพูดูงามพริ้ง
ถิ่นพักพิงป่าดงพงไม้ใหญ่
เกาะกิ่งอวดโฉมชโลมใจ
คนเดินทางไกลได้ชื่นชม
จากป่าเขาเขาพาเข้ากรุง
ปรับปรุงไปให้เลื้อยพาดเถา
พร้อมเรียกชื่อใหม่ถูกใจคนเรา
พวงประดิษฐ์ ฤา คือเจ้า เครือออน.
..
เวลาที่เราเดินทางขึ้นไปทางภาคเหนือในช่วงเดือน ธันวาคม
ซึ่งเป็นเดือนเริ่มต้นของการย่างเข้าสู่ฤดูแล้ง
จะเห็นต้นไม้บางต้นเริ่มเปลี่ยนสีสัน
จากใบสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามตา
แต่บางต้นกลับระบัดใบเป็นสีแดงก่ำอย่างน่าอัศจรรย์
ความหนาวเย็นและความแห้งแล้งของฤดูกาล
กำลังนำความร่วงโรยของไม้ป่าให้เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง
จนถึงฤดูร้อน การเปลี่ยนแปลงนี้ นำความร่วงโรยมาสู่ไม้ป่าส่วนใหญ่
ในความแห้งแล้งปลิดปลิวของไม้บางต้น
กลับเป็นช่วงความงอกงามของดอกไม้บางดอก กำลังเริ่มต้น
ถ้าใครเคยเดินทางผ่านไปทางผืนป่าในภาคเหนือ
และชอบมองระว่างสองข้างทาง ก็จะได้พบเห็นกับดอกไม้ป่าบางชนิด
ที่มีดอกสีขาวและสีม่วงอมชมพู
เป็นไม้เถาทอดคลุมตามพุ่มไม้ใหญ่เป็นระยะ
ออกดอกบานสะพรั่งเป็นกลุ่มงดงามตา
เครือออน คือชื่อของดอกไม้ป่า ที่กำลังเอ่ยถึงนี้
เครือออนจะเริ่มมีตุ่มดอกสีหม่นๆ
แล้วค่อยๆเป็นสีม่วงอมชมพู่เจอสีเขียวนิดๆแจ่มตาขึ้นเรื่อยๆ
บานและคงทนระยะเวลาหนึ่ง มีดอกเกือบถึงฤดูร้อนเดือนเมษายน
หลังจากนั้น สีของเครือออนจึงค่อยๆหม่นลงอีกครั้ง
และโรยสู่พื้นจนหมดเถา
ความงามของเครือออนคงต้องตาต้องใจผู้คนที่เดินทางผ่านไปมา
กิ่งเครือออนจึงถูกย้ายจากป่า
มาปักชำแพร่พันธุ์อยู่ในสวนดอกไม้ของผู้คนในเมือง
เป็นไม้ประดับตามซุ้มหน้าบ้าน อยู่บนระแนงไม้ข้างเรือนชาน
หรือไม่ก็ปลูกให้เลื้อยพาดเถาบนต้นไม้ใหญ่
โดยเรียกชื่อใหม่ ที่ทุกคนรู้จักกันดีว่า พวงประดิษฐ์
แต่สำหรับป่าเขาแล้ว
ชื่อ เครือออน ฟังดูเหมาะเจาะกว่า
เป็นดอกไม้ป่าอีกดอกหนึ่ง ซึ่งงามละมุนตา
จะออกดอกให้เห็นในช่วงคืนวันที่ความแห้งแล้ง
กำลังครอบครองไปทั่วทุกหนทุกแห่งราวกับเป็น
การต้อนรับอันนุ่มนวลของธรรมชาติที่ตอบแทนในความแห้งแล้ง
และโรยร่วงให้คนบางคนเห็นความสุขได้ง่ายในระหว่างหนทาง @
จาก เหมือนมองดอกไม้ ของ บุษกร
เป็นแรงบันดาลใจให้นำมาเขียนใหม่โดย แก้วนีดา
เพราะทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเดินทางขึ้นไปทางภาคเหนือ
จะชอบมองตลอดสองข้างทางที่รถวิ่งผ่านไป
จะพบเห็นกับดอกไม้สีขาวและสีม่วงอมชมพู่
ขึ้นปกคลุ่มอยู่ตามต้นไม้ใหญ่อยู่เป็นระยะๆ
ไม่รู้ว่าคือดอกไม้อะไร พอได้มาอ่านเรืองของคุณบุษกร
จึงรู้ว่านี้คือ ดอกเครือออน หรืออีกชื่อ คือ ดอกพวงประดิษฐ์ นั้นเอง
พวงประดิษฐ์หรือคือเจ้าเครือออน
ไม้เถาอ่อนดอกงามแห่งป่าพงไพร
สีขาวสีม่วงอมชมพูดูงามสดใส
ถูกตาต้องใจยามได้มาเห็นเช่น เครือออน
.
23 กันยายน 2548 13:10 น.
แก้วนีดา
เจ้า ตัว เหงา เอ๋ยยย
คงจะไม่มีใครปฏิเสธกันหรอกนะ..ว่า ตั้งแต่เกิดมา
และอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้. ท่านไม่เคยพบกับเจ้าตัวเหงา เลยสักครั้งในชีวิต
เราคนหนึ่งหละ. ที่พูดได้เต็มน้ำเสียงเลยว่า.
เราได้พบกับเจ้าตัวเหงามาแล้ววว.พบบ่อยไหมนะเหรอ ! ..
เราว่า. เราพบเจ้าตัวเหงาไม่บ่อยนะ ก็แหม !
เราไม่ใช่คนชอบคิดมากนี่หน่าาาา
พวกเพื่อน ๆ ชอบบอกว่า เราเป็นคนอารมย์ดี
ยิ้มได้ทั้งวัน . มันก็แน่แหละ เราเป็นคนโชคดีนี่นา ที่
มองโลกในมุมที่สวยงาม ชอบมองคนสวย ๆ อิ อิ อิ
แหม แหม ถึงแม้นว่าเราจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ชอบมองผู้หญิงสวยๆนะ
มันไม่ได้ผิดกฎหมายนี่ จริงปะ นี่แหละวิธีแก้ เจ้า ตัว เหงา ของเราละ
เมื่อ 2 3 วันที่ผ่านมา มีบางคน ได้พบกับเจ้าตัวเหงา
เราก็ไม่รู้สาเหตุหรอกนะ ว่าคนนั้นดันเดินไปสะดุดมันเข้าอย่างไรกัน
เรารู้แต่ว่า คนนั้นดันมาสะกิดเรา จะขอให้เราช่วยเป็นกิ๊กให้หน่อย
โอ๊ย ! นี่มันอะไรกันจ๊ะ เราเนี่ยนะ จะเป็นกิ๊กให้ ฝันไปเถอะ
รู้ไหม ? ว่าฉายาที่ยัยฟ้าสีโครมคราม แม่เพื่อนรัก แม่หวานใจของเรา
เธอตั้งให้เรานะ คือ อะไร..? ?
เออเน้อ เรายังไม่ได้บอกนี่หนา แล้วจะรู้ไหมแหละว่ามีฉายาว่าอะไร 5 5 5.
ฉายาที่ยัยฟ้าสีโครมครามเรียกเรานะ คือ ยัยสาวโบฯ
อย่า อย่าพึ่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโบผูกผมสีชมพูอะไรแบบนั้นนะ
เปล่าเลยแหละ ยัยแม่หวานใจบอกว่า เรานะหัวโบราณ ที่นี่เข้าใจยังละ
ว่า ยัยสาวโบ คือ โบอะไร
นี่แหละ ฉายาเราละ ยัยสาวหัวโบราณ
ก็จะไม่ให้โบราณได้ไงละ ก็เรามันเป็นคนไม่ชอบทำตัวเหลวไหลนี่นะ
มาได้ยินได้ฟังเรื่องของเด็กสาววัยรุ่น สมัยใหม่ ประเภท 15 ยกๆ 16 หย่อนๆ
คุณเธอมีกิ๊กกันเป็น 5 เป็น 10 คน โอ๊ย ไอ้เราสาวที่ยังไม่แก่
ก็เลยพาลลมจะใส่เอา
ช่วงที่เราอายุ 15 ยกๆ 16 หย่อนๆ นะ เจ้าเด็กหนุ่มๆมันพยายาม
จะเข้ามาจีบให้ได้รู้ไหมว่ามันเจออะไร อิอิอิ
พูดไปแล้วจะว่า ว่าเราดุ ปากจัดนะจิ เฮ้อ
รู้เอาไว้เถอะว่า เรานะมันเด็กเรียน ไม่สนนะ ต่อให้หล่อลากดินมาก็ไม่สน..วุ้ย
เที่ยวกลางคืนเหรอ ไม่ต้องมาชวนเลยยยย
ใครจะไปก็เชิญกันตามสบาย ส่วนเราขอนอนอยู่บนที่นอนนุ่ม ๆ
แล้วฝันถึงหนุ่ม ๆ หล่อ ๆ ดีกว่ากันเยอะเลย ที่จะไปนั่งอดหลับอดนอน
แล้วยังต้องทนดมกลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่เหม็น ๆ อีก โอ๊ย
ผิวหน้าเสียหมด แถมยังทำให้แก่ก่อนวัยอันควรอีกตะหาก อิ อิ อิ
จะมาจ้างให้เราไปนะเหรอ ฝันไปเถอะนะ บอกแล้วไง ว่าไม่ชอบ ไม่ไป
แต่ ถ้าไปเที่ยวทะเล ภูเขา น้ำตก เดินป่า แล้วไม่มาชวนกันนะ
ได้เรื่องละ.ไม่ต้องถามนะว่าชอบไปอะเปล่าาา
ไงละ ถ้าคิดว่าคนอย่างเราจะเป็นกิ๊กแก้เหงาให้ได้ละก็
เราว่านะ เตรียมใจไว้รับความผิดหวังได้เลย 100 % ขอบ๊อกกก
จ๋มหน้าพวกเหงาแล้วมาหากิ๊กแบบเรา และ
จ๋มหน้า เจ้า ตัว เหงา