3 มีนาคม 2548 14:36 น.
แก้วนีดา
สุขภาพใจที่ดี
ไม่ยินดียินร้าย ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์
เมื่อมีความรู้สึกตัวอยู่เสมอ จิตใจก็ไม่หลง
จิตไม่คิดไปตามกิเลสตัณหา
จิตใจก็ไม่หวั่นไหว ไม่ยินดียินร้าย
มีหิริโอตตัปปะ
ละอายแก่ใจ กลัวบาป ไม่กล้าทำบาป ไม่กล้าทุกข์
ทุกข์เมื่อไร ก็บาปเมื่อนั้น
พยายามรักษาใจให้เป็นปกติเป็นกลาง ๆ
ให้ตั้งใจปฏิบัติอย่างน้อย
ก็ก่อนนอนกับตอนเช้า
คล้าย ๆ อาบน้ำ ตั้งใจอาบน้ำ
นอกนั้นตลอดวันก็ทำบ่อย ๆ
คล้าย ๆ กับการล้างมือ ล้างหน้า ทำบ่อย ๆ
กลับมาหาลมหายใจบ่อย ๆ มาหาที่พึ่งที่ระลึกของเราบ่อย ๆ
แล้วเราจะมีสติ มีความสุขได้ในทุกสถานการณ์.
ใจหนอใจ....ใยใจชอบซน
ใจหนอใจ....ใจคนชอบวิ่งหนี้
ใจหนอใจ....ใยเจ้าไม่รักดี
ใจหนอใจ....ใยถึงวิ่งหนี้สุขรับทุกข์ใจ
ใจหนอใจ....ใยเจ้าชอบหาเรื่อง
ใจหนอใจ....ใยเจ้าขุ่นเขื่องในเรื่องรัก
ใจหนอใจ....ใยชอบรับแต่เรื่องอกหัก
ใจหนอใจ....ทำไมไม่รับแต่เรื่องที่ดี
ใจหนอใจ....ใยทำใจให้มีทุกข์
ใจหนอใจ....ใจเจ้าชอบนั่งจับเจ่าจุก
ใจหนอใจ....ใยทำไมถึงไม่ลุก
ใจหนอใจ....ขอมารับสุขในเรื่องของใจ
ใจหนอใจ....มาเถอะนะเจ้าดวงใจ
ใจหนอใจ....มารับเอาไปไวไวเรื่องสุข
ใจหนอใจ....เรานำมาปัดเป่าให้เจ้าหมดทุกข์
ใจหนอใจ....มารับความสุขเรื่องธรรมกันไวไว
รักจากใจ.....นำมามอบให้จ๊ะ
รักจริงจริงนะ.....เลยนำมามอบให้ด้วยใจ
มารับกันเอาไป.....ให้ไวไว
แก้วนีดา....นำมามอบให้จริงจริง
......คิ คิ คิ......
2 มีนาคม 2548 11:16 น.
แก้วนีดา
พระพุทธองค์บอกว่า
การเจริญอานาปานสติ มีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
แต่พวกเราส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินได้ฟัง ไม่เคยลองปฏิบัติ
ตั้งแต่เกิดมาเราก็มองข้ามไป
ถึงแม้ว่า การฝึกเจริญอานาปานสติจะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
พวกเราก็ไม่ค่อยสนใจ
บางคนก็คิดว่าเป็นเรื่องยาก บางคนก็คิดว่าเป็นเรื่องคร่ำครึ
ปล่อยให้คนอื่นเขาทำกันเถิด เราเป็นคนดีอยู่แล้ว
อันนี้เพราะเราไม่เข้าใจ
เพราะเรายังไม่ยอมลงมือปฏิบัติ
จริง ๆ แล้วการปฏิบัติก็ไม่ยากมากมาย
หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆก็เท่านั้น
และการปฏิบัติก็เป็นเรื่องของทุกคน.
ถ้าเราไม่ลงมือปฏิบัติ เราก็ไม่เห็นคุณค่า
ไม่เห็นประโยชน์ของการปฏิบัติ
เราปฏิเสธสิ่งดี ๆ ในชีวิตอย่างน่าเสียดาย
มาปฏิบัติ เจริญศีล ภาวนากันเถิด
แล้วเราจะมีความสุขทุกคนมีความสุขได้ในทุกสถานการณ์
เพราะผู้ปฏิบัติย่อมได้รับผลเอง ย่อมมีความสุข ย่อมอิ่มอกอิ่มใจ
ปฏิบัติเดี๋ยวนี้ ก็ได้ผลเดี๋วยนี้
และเมื่อเราได้ปฏิบัติ เราจะเคารพรัก
และบูชาพระพุทธองค์ได้อย่างจริงใจ
และเราจะเรียกตัวเองว่าชาวพุทธได้อย่างเต็มภาคภูมิ
หายใจเข้า ๆ หายใจออกยาว ๆ สบาย ๆ
เราไม่ต้องศึกษาอะไรมากมายก็ได้
พยายามทำความรู้จักกับลมหายใจ
กำหนดลมบ่อย ๆ จนเกิดความเคยชิน
มีฉันทะ ที่จะอยู่กับลมหายใจตลอดเวลา
อย่างน้อยสุขภาพจิตของเราก็จะดีขึ้น
การระลึกรู้ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
เป็นการทำให้ศีลบริสุทธิ์ที่จิต ที่เจตนาถูกต้อง
เป็นการเจริญสติ สัมปชัญญะ และปัญญาด้วย
เป็นการพัฒนาจิตใจโดยตรง
จึงมีอานิสงส์มาก มีประโยชน์มาก
เราจึงควรพยายามศึกษา
และพยายามทำบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย
เมื่อมีปัญหา ก็เอาลมหายใจเป็นสรณัง คัจฉามิได้
เมื่อเกิดปัญหาเป็นทุกข์ไม่สบายใจ
ก็รีบหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเป็นที่พึ่งที่ระลึกของเรา
เมื่อเราสามารถระลึกรู้ ลมหายใจออก
ลมหายใจเข้าได้ โดยธรรมชาติ สบาย ๆ
ในอิริยาบถยืน เดิน นั่ง นอนตลอดวันตลอดคืน
ก็เป็นอินทรีสังวรศีล
หรือแม้ว่าไม่ตลอดวันก็ตาม แค่ 10 นาที 20 นาที
ถ้าเรานั่งสบาย ๆ กำหนดลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
ติดต่อกัน ต่อเนื่องกันโดยธรรมชาติ ด้วยความพอใจ
ช่วงนั้นจิตใจของเราก็สงบ
เป็นปกติ เป็นศีล เป็นอินทรีสังวร
รักมากรู้ไหม...นำธรรมมาให้ด้วยใจ
รักมากรู้เอาไว้....จะอย่างไรอย่างไร
แก้วนีดาคนนี้จะไม่ขอละทิ้ง...หรือจากไกล
จะขอยืนยันมั่นคง...จะทำต่อไป
ขอทำด้วยหัวใจ...ที่มีรักมั่นคงให้กับเธอ
ต่อให้ดินฟ้าหรือว่า...ฝนตก
ถึงแม้มีลมพายุที่พัด...ด้วยโหดร้าย
เราคนนี้จะสู้...เพื่อเธอจะได้โปลอดภัย
ขอต่อสู้ด้วยใจ...สู้ต่อไปด้วยธรรม
พร้อมกับขอน้อมนำ...หลักธรรมให้เธอ
รักนะขอบอก...ใช้หลอกกันหนา
รักมากจ๊ะเจ้าเพื่อนของ...แก้วนีดา
รักจริงจะไม่ทอดทิ้ง...ให้เหว่าหว้า
รักมากเลยหละ...เลยนำธรรมมาสู่ใจ
ก็รักเพื่อนๆๆจริงๆๆๆนีค่ะ
1 มีนาคม 2548 10:31 น.
แก้วนีดา
ผ่านเห็นมา....นานา....สาระพันธุ์
ทุกสังคม.....ทุกชนชั้น......ระดับถิ่น
ผ่านร้อยแปด.....พันเก้า.....ให้ยลยิน
ล้วนดี-ชั่ว.....เคล้าชีวิน.....เป็นสัจจธรรม
สิ่งใดได้.....คล้ายเหมาะสม.....ควรบ่มเพาะ
จงพิเคราะห์.....ให้เจาะใจ.......ให้ชุ่มฉ่ำ
เย็นข้างนอก.....เย็นข้างใน.....ไม่ระกำ
ไม่ระส่ำ.....สั่นไหว.....ทั้งใจกาย.....
อันดี-ชั่ว.....จะรู้คล้าย.....เมื่อภายหลัง
ตัวตายยัง.....คนอยู่.....สิใจหาย
คนหมดทุกข์.....ตายไป.....ก็หมดร้าย
แต่คนอยู่........แทบวอดวาย.....ด้วยผลกรรม
เมื่อรู้ชิด.....สนิทสนม.....พอสมพักตร์
เก็บใจรัก.....ไว้สักนิด.....อย่าชิดถลำ
ค่อยเรียนรู้.....มองทุกด้าน.....ผ่านรสธรรม
ดีมานำ.....ชั่วทิ้งไป.....ไม่ใยดี
**ดีเก็บใช้**.....**ชั่วเก็บ-ละ**.....พระฯ ท่านสอน
ใจเมตตา.....อย่าคิดค่อน.....ไม่ควรที่
เขาไม่ดี.....ก็วางไว้.....รู้ไม่ดี
อธิษฐาน.....ชาติไหนนี้.....ไม่ดี-ไกล
รู้เขาดี.....คิดสรรเสริญ.....เจริญคุณ
ธรรมดีนี้.....ควรอุดหนุน.....นำมาใส่
สร้างในตัว.....ตนเรา.....ให้เข้าใจ
ฉลาดใช้.....แยกคัด.....สัจจะควร
จึงนิยม.....สมมาเกิด.....ประเสริฐคน
มีปัญญา.....พากมล.....ไม่เหหวน
รู้ยึดมั่น.....สรรค์แสดง.....แจ้งทบทวน
รู้ระบอบ.....ชอบกระบวน.....ล้วนคั้นคม
ใครจะดี.....ดีนั้น.....สรรค์มาเก็บ
ใครจะชั่ว.....ไม่ต้องเหน็บ.....ไม่ต้องผสม
เรียนโลกชั่ว.....ยกพันพัว.....มาปรารมภ์
ว่าไม่นิยม.....ขอไม่เป็น.....เช่นชั่วนั้น.....
จึงสะอาด.....ในดวงจิต.....คิดก็ผ่อง
จะหันมอง.....จ้องทางไหน.....ให้สุขสันต์
มีปัญญา.....รู้--แล้ว-วาง.....ทุกข้างพลัน
ปัญญานั้น.....คืออาวุธ.....ผุดในใจ
ถือสันโดษ.....ในความดี.....ที่ตนมี
ทุกวิถี.....เอาชั่ว-ละ.......เอาดีมา-ใส่
ไม่สะทก.....ไม่สะเทือน.....เลื่อนกับใคร
**เอาดีมาใช้.....เอาชั่วไปละ.**......พระฯ ให้จำ
แม้นมิรู้.....แยกมิได้.....คล้ายโกรธ-บ้า
มองที่หน้า.....ร้อนอย่างนี้.....ที่ถลำ
มองที่ใจ.....ใสอย่างนี้.....เย็นประจำ
นั่นแหละธรรม.....อยู่ในใจ.....คบได้ดี
**ดีมาใช้.....ชั่วมาละ**.....นั้นประเสริฐ
สมเป็นคน.....ปัญญาเลิศ.....ใช้ทุกที่
สมเกิดมา.....เป็นมนุษย์.....สุดทางดี
สวรรค์จะก้ม.....ทำพลี.....เพื่อบูชา
เกิดเป็นคน.....ใช้ใจตน.....บนสายกลาง
อยู่ระหว่าง.....นรก-สวรรค์.....สรรค์เห็นค่า
ภพที่เลิศ.....สุดแล้ว.....แว่วพรรณนา
คือโลกา.....ที่เรามา.....ใช้ยึดครอง..
ได้มาเกิดด้วยอย่างน้อยร้อยศีลห้า
จึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์สุดผุดผ่อง
อยู่ที่ธรรมนำมาเกิดกันก่ายกอง
สุดจะปองหนทางจะสร้างไป
เกิดเป็นคนอยู่บนทางสายกลาง
มีสิทธิ์เดินไปข้างไหนก็ได้
มีสิทธิ์เข้าไปที่ไหนเห็นทุกสิ่งได้ตามใจ
มีสิทธิ์เรียนเทียบสิ่งที่เห็นได้ด้วยปัญญา
ด้วยรักจากใจที่จะนำมามอบให้เสมอ
ขอเพียงแต่เพื่อนพ้อนอย่าพึ่งเบื่อ
แก้วนีดาคนนี้ยังมีข้อธรรมอีกมากขอให้เชื่อ
อย่าพึ่งเบื่อการอ่านข้อธรรม.......กันนะค่ะ.
ก็เพราะ รัก นะมีไรเปล่าจ๊ะ.