7 เมษายน 2548 10:42 น.
แก้วนีดา
เวลาที่มีกับคนดีของใจ
เก็บวันเวลาที่มีเก็บความทรงจำที่ดีเอาไว้
หากวันหนึ่งชีวิตสองเราต้องมีวันพ้นผ่านจากกันไป
ไม่ว่าจะเป็นด้วยเพราะสาเหตุใดที่ต้องทำให้เราทั้งสองต้องห่างกันไกล
แต่ขอให้เธอรับรู้เอาไว้ใจของฉันไม่เคยห่างไกลเธอเลยสักที
ถ้าเป็นไปได้ฉันทำอะไรเพื่อเธอในวันนี้ได้ไหม
ด้วยแต่ถ้าพรุ่งนี้ฉันยังมีเวลามากพอ..
ฉันคนนี้จะเก็บเอาสิ่งดีที่มีอยู่ในใจเอาไว้และเฝ้ารอ
เพื่อกลับมา..มาพบเจอ และมาทำเพื่อเธอนะคนดีของใจ.
แต่สิ่งเดียวที่ฉันพอจะทำได้ในเวลานี้
คือเรียงร้อยถ้อยคำเสนาะไพเพราะออกจากใจที่มี
แสดงถึงความรักและความห่วงใยถึงเธอนะคนดี
จากดวงใจที่ยังคงมีรักมั่น.ระหว่างเธอกับฉันเอาไว้นิรันดร.
รักเหงาเหงา...รักเศร้าเศร้า...จากใจของเรา...คนที่ไม่คิดจะมีรัก
5 เมษายน 2548 14:40 น.
แก้วนีดา
คืนเหงา..เศร้าเดียวดาย
วันนี้ฉันเหนื่อยมากนัก
อยากจะขอหยุดพักก่อน
จะปิดบ้านเปิดพัดลมห่มผ้านอน
พร้อมกอดหมอนนอนฝันถึงคนดีคนที่รัก.
ฉันคงทำอะไรได้ไม่มากนักนะคนดี
แค่ส่งความรู้สึกดีดีมาให้
คนที่ฉันผูกพันอยู่อีกด้านของฝากฟ้าไกล
ยากจะทำอะไรให้กับเธอตั้งมากมายนะคนดี
ได้แต่เพียงขอแค่คนดีคิดถึงฉัน
คิดถึงกันในวันที่ไกลห่างกันอย่างนี้
เพียงแค่ส่งความรู้สึกลึกลึกที่เรามี
เพียงเท่านี้ก็พอทำให้ฉันสุขใจได้แล้วเธอ.
แต่
ถ้าหากทำได้มากกวานี้อยากไปยืนตรงหน้า
พร้อมกระซิบข้างหูเธอว่าคิดถึงมากแค่ไหน
แต่ทำได้เพียงส่งผ่านสื่อภาษาบอกออกไป
ผ่านขอบฟ้าไกลส่งจากใจไปถึงกัน
คืนนี้ใจฉันมันสั่นแสนหวั่นไหว
คืนที่ใจไหวหวั่นด้วยใจกลัวช้ำหม่นหมอง
คืนที่น้ำตาอาจจะอาบแก้มนอง
คืนที่ฉันอาจจะต้องนอนร้องไห้เพียงเดียวดาย..
คืนที่ไร้เธอมาดูแลอยู่ใกล้ชิด
คืนที่มีแต่ความมืดมิดของความว่างเปล่า
คืนที่ใจของฉันมันเศร้าด้วยฉันคนเดียวที่เหงา
คืนที่มีเพียงเสี้ยวใจของคนเศร้าที่นอนเหงาอยู่คนเดียว..
กับความเหนื่อยและอ่อนล้า......กับจิตใจที่ยังอ่อนไหว......ดังสายลมและสายฝนที่โปรยกระหน่ำลงมา........ดังสายน้ำตา..ที่ไหลลงอาบแก้ม.......คนคนอ่อนแอที่อ่อนล้า........ดังว่า.......ฉันไม่มีใครเลยสักคน
4 เมษายน 2548 12:43 น.
แก้วนีดา
แม้อยู่คนเดียวก็จะไม่ร้องไห้ (ธรรม..ข้อคิด..สำหรับการใช้ชีวิตคู่)
เราลองนึกภาพดูซิว่า วันที่เกิดมาลืมตาดูโลกอันสดใสนั้น
เรามากับใคร มากันกี่คนเรามาของเราเพียงคนเดียว
ไม่ได้เกี่ยวก้อยกับผู้ใดออกมา แต่เมื่อยามที่เราถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว
โดยที่สามีหนี้ไปอยู่กินกับผู้หญิงอื่น หรือภรรยาหนีไปกับชู้
ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องที่แปลก หรือพิลึกพิลั่นอะไร
เพราะต่างคนต่างก็มาคนเดียวหากจะต้องอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง
หรืออยู่ด้วยกันสองคนก็ไม่เห็นจะสำคัญนักเพราะ
เมื่อฉากสุดท้ายของชีวิตมาถึง ต่างคนก็ต่างไป
บุญบาปของใครก็ของมัน และให้ย้ำคิดไว้เสมอว่า
ชีวิตนี้เรามาคนเดียวไปคนเดียว แม้ต้องอยู่คนเดียว
ก็จะไม่ขอร้องไห้ไม่คิดน้อยใจ.
........................................................................................................
ใจเอ๋ยใจ ใยเจ้าร้องไห้
ใจเอ๋ย.
วันนี้เจ้าเศร้าหมอง
เมื่อความรักที่ได้ครอง
มาลอยล่องจากไป
ใจเอ๋ย.
เจ้าร้องไห้
จะให้ใครเช็ดน้ำตา
วันนี้มีเพียงข้า
กับความเหนื่อยล้าอ่อนแรง
พอเถอะนะวันนี้
หยุดพักหัวใจที่โหยแห้ง
ถึงร้องไปก็รังแต่จะหมดแรง
น้ำตาแห้งรักก็ไม่กลับคืน.
บทความนี้.....เราขอลงเป็นตอยสุดท้ายแล้ว......
ไม่ใช่เพราะสาเหตุอื่นใด.......ด้วยเพราะว่า......เรื่องที่เราเขียนนั้นมันได้มาถึง
ตอนจบแล้วเท่านั้นเอง......และบทความเรื่องธรรม คือธรรมชาติ หรือ
คำสอนที่เราประทับใจ หรืออาจจะมีอีกหลายชื่อ ที่เราเรียก แต่ทั้งหมดนี้เราได้
เคยเขียนและนำไปลงใน เว็ต บ้านนอก มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในการนำไปลงใน
ครั้งนั้นจะมีรายละเอียดมากว่าที่นำมาลงในบ้านกลอนแห่งนี้....
จะมีต่างกันก็ตรงที่ บ้านกลอนนี้เราจะมีการนำเอาบทกลอนมาลงต่อท้ายของ
บทความเสมอ.....เพราะเราคิดว่า ณ ที่นี้ คือบ้านกลอนไทย....
จึงควรจะต้องมีบทกลอนด้วย..ให้สมกับเป็นบ้านกลอนค่ะ....
และถ้าการเขียน..หรือการนำมาลงเรื่องเกี่ยวกับธรรม ในครั้งนี้
จะมีการทำให้มีบางคนไม่พอใจ....เราก็ต้อง ขอโทษท่านมา ณ ที่นี้ด้วยแล้วกัน.....
เราไม่เคยบอกว่า เราเป็นผู้รู้ในเรื่องธรรม เป็นอย่างดี..หรือว่า...
เราได้ลดละเลิกได้แล้ว.....แต่อาจจะตรงกันข้ามด้วยซ้ำไป..
คือเรายังมีกิเลสอยู่อีกมาก....เลยต้องการจะศึกษาหาความรู้ในเรื่องของธรรม...
เพื่อที่จะได้นำมาใช้ในชีวิตประประจำวันของเรา.....
ผู้ที่ยังอยู่ในโลกของบุคคลธรรมดา.....ยังไม่คิดที่จะออกบวชเช่นใครบางคน.....
และเราก็ไม่เคยคิดที่จะต่อว่าใครในเรื่องใดใดของธรรม..
หรือเรื่องอื่นใดเลย.....และเราก็ไม่ได้ต้องการประโยชน์จากใคร...
หรือว่าคิดจะให้ใครมาให้ประโยชน์กับเราด้วย.....เรามีความคิดว่า....
โลกทุกวันนี้สับสนวุ่นวาย.....น่าจะมีข้อคิดดีๆ....
เกี่ยวกับเรื่องของธรรมคือธรรมชาติ....
สำหรับผู้ครองชีวิตในโลกของคนธรรมดาสามัญ..ได้อ่าน...
และนำไปใช้กันบ้างเท่านั้นเอง...
แต่ ถ้ามันจะทำให้ท่านต้องระคายเคืองต่อจิตใจของท่าน....
เราก็ ขอโทษท่านมา ณ ที่นี้ด้วยแล้วกัน.........
และเราจะขอจบบทความเรื่องเกี่ยวกับธรรม..เอาไว้ ตรงนี้.....
คำชี้แจงจากเรา.........แก้วนีดา.........
1 เมษายน 2548 10:11 น.
แก้วนีดา
ในที่สุดต่างคนต่างทิ้งกัน (ธรรม..ข้อคิด..สำหรับการใช้ชีวิตคู่)
บางคนคิดไม่เป็น ทำอะไรไม่ถูก เมื่อต้องเจอเหตุการณ์ สามีหรือภรรยาทิ้ง
จะทำได้ดีก็เพียงแค่เสียใจร้องไห้หรือน้อยใจ หรือคิดได้ทำได้เพียงเท่านี้
คิดหาทางออกช่องอื่นไม่เป็นบางคนถึงกับคร่ำครวญ เพ้อคลั่งจนเสียสติ
หรืออาจจะคิดฆ่าตัวตาย เพื่อหนีเรื่องราวที่คิดว่ามันเลวร้ายที่สุดในชีวิต
อันที่จริง หากว่าเราคิดให้ดีๆ ลึกๆ เสียหน่อย ตัวเราเองจะพบว่า
สามีหรือภรรยาของเรานั้น ก่อนหน้าที่จะมาพบเจอกัน
ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน และมาจากภพภูมิใด
จู่ๆ ต่างคนต่างเพิ่งมาพบเจอกันในช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น
จึงไม่น่าจะมีความสำคัญหรือมีความหมายอะไรกับชีวิตของเรามากนัก
จนถึงขั้นต้องเป็นทุกข์ กลัดกลุ้มใจเสียจนคิดอยากจะฆ่าตัวตาย
แม้เราจะขอโทษสามีหรือภรรยาก็แล้ว อ้อนวอนขอร้องให้เห็นแก่ลูกหรือ
เห็นแก่ใครๆก็แล้ว เขาก็ยังไม่สนใจ คืออยากจะทิ้งเราท่าเดียว
และเมื่อต้องถูกทิ้งจริงๆ อย่างไม่มีทางเลือก ก็ขอให้คิดเสียว่า
ถึงทิ้งไปก็ไม่เป็นไร เพราะเมื่อช่วงบั้นปลายชีวิต
ต่างคนต่างก็ต้องทิ้งกันอยู่ดีด้วยความตายมาพราก
มาคอยบีบบังคับให้เราต้องทิ้งกัน หรืออาจจะคิดถึงถือเสียว่า
เป็นบทฝึกซ้อมการทิ้งกันเล่นๆ ไปพลางๆ ก่อนที่การทิ้งกันจริงๆ จะมาถึง
แม้ว่าจะมองเห็นเป็นเรื่องธรรมดาก็จริง ที่ใครๆ ก็ตามเจอเข้ากับเหตุการณ์ถูกทอดทิ้ง
จะต้องเศร้าโศกเสียใจด้วยกันทุกคน แต่มันจะไม่ดีไปกว่านั้นหรือ
ถ้าเราคิดให้เป็น คิดให้ถูก คือคิดให้เหนือธรรมดาที่เขาคิดๆ กันอยู่
เราจะได้ไม่ต้องโศกเศร้าตามพวกเขาเหล่านั้น และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปคิดเดือดดาล
โกรธแค้น หรือน้อยเนื้อต่ำใจกับเรื่องถูกทิ้ง
เพราะมันจะทำให้ชีวิตเกิดความเลวร้ายมากกว่าความดีงาม.
.
ความรักสีจาง
เมื่อความรักจาง
น้ำตาก็รินไหล
เหงาเหงา เศร้าหัวใจ
เมื่อเขาจากไป.
ไร้คำร่ำลา
เจ็บเจ็บ หัวใจ
เหนื่อยล้าเต็มทน
ชีวิตคนทั้งคน
เธอทิ้งไว้.
เดียวดายได้อย่างไร.
สำหรับคนที่ถูกท้อดทิ้ง....หรือว่ากำลังจะถูกท้อดทิ้ง......และคนที่กำลังคิดจะท้อดทิ้งใครบางคน.....ขอให้คุณคิดให้ดีๆ..คิดให้นานๆ...คิดถึงวันแรกที่ได้พบกันให้มากๆนะเพื่อน
31 มีนาคม 2548 11:03 น.
แก้วนีดา
ชีวิตคู่ควรมีจุดหมายอยู่ที่การเรียนรู้ (ธรรม..ข้อคิด..สำหรับการใช้ชีวิตคู่)
เมื่อชีวิตต้องแต่งาน หรือคิดร่วมอยู่กินกับใครสักคนหนึ่ง
มิใช่มองกันแค่ความร่ำรวย ชื่อเสียง รูปร่างหน้าตา การศึกษา
การงาน เพียงเท่านั้น แต่ต่างฝ่ายต่างต้องมองกันให้เห็นจนตระหนักชัด
ถึงความจริงที่ว่าชีวิตนี้เราถูกความเกิด ความแก่ ความเจ็บ
และความตาย เข้าครอบงำแล้ว เราถูกลูกศรคือ
ความทุกข์ทรมานจากการต้องพลัดพราก สูญเสียเสียบแทงเข้าแล้ว
จึงต้องเร่งหาทางแก้ไข เพื่อดึงลูกศรคือ ความทุกข์ให้หลุดออกไปจากชีวิต
แต่เมื่อชีวิตเราเดินไปเพียงลำพังคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยเพื่อน
จึงจำเป็นต้องแต่งงาน แต่เป็นการแต่งเพียงเพื่อต้องการหาเพื่อนร่วมเดินทาง
ร่วมด้วยช่วยกันคิด ศึกษาเรียนรู้ เพื่อให้เข้าถึง
ความหมายของชีวิต
จนจิตใจเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวง แต่เมื่อการแต่งงานเป็นไปเพื่อเหตุผลอื่นๆ เช่น
เป็นไปเพื่อต้องการความสุขทางเนื้อหนังเพียงอย่างเดียว
เป็นไปเพื่อต้องการทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง
เป็นไปเพื่อต้องการการมีบุตรไว้สืบทอดอำนาจรับช่วงมรดก
เป็นไปเพื่อป้องกันคำครหานินทาจากผู้คนในสังคม
หรือเป็นไปเพื่อเหตุผลอื่นๆก็ตาม
ไม่ได้เป็นไปเพื่อเพาะบ่มสติปัญญาให้เกิดมีขึ้น
ชีวิตคู่ย่อมหาความสุขสงบเย็นได้ยาก เพราะต่างฝ่ายมีเป้าหมายของชีวิตในลักษณะที่
ทำให้ร้อนรุ่มกลัดกลุ้มใจ มีแต่ปลูกฝังความมืดบอดให้แก่จิตวิญญาณ
อย่างไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อเป็นเช่นนี้ ชีวิตคู่ก็มีแต่ ความสับสนวุ่นวาย
เกิดการระหองระแหง ด่าทอ ทุบตีกันไม่เว้นวัน
จนในที่สุดถึงขั้นต้องเลิกรากันไป ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่กลาดเกลื่อน
บางคนตอนแรกๆ มีทีท่าว่าจะไปกันได้สวย อยู่กันได้นาน
แต่ต่อมาสักพักหนึ่งกลับกลายเป็นว่าต่างคนต่างไป
เราควรต้องทำความเข้าใจในการแต่งงานเสียใหม่
คือต้องเป็นไปเพื่อการศึกษาเรียนรู้ เพื่อการฝึกฝนตนเอง
ให้เกิดสติปัญญาได้รู้เท่าทันโลก และชีวิตตามความเป็นจริง
จึงจะถือได้ว่า เราได้รับประโยชน์จากการแต่งงานอย่างสมบูรณ์ที่สุด.
................................................................................................................
..ทบทวน..
..ควรทบทวนหลายครั้งก่อนจะรัก
ก่อนสมัครฝากใจให้กับเขา
เมื่อพบรักอย่าทำตัวให้มัวเมา
อย่าโง่เขลารักล้นจนหมดใจ
เหลือช่องว่างไว้สักนิดเมื่อผิดหวัง
อย่างจริงจังมากนักจะหมองไหม้
ใจของคนนั้นลึกสักเท่าใด
สุดหยั่งได้วัดไม่ถึงสักครึ่งเลย...
ยังรักเธอเสมอมิรู้ลืม......ยังคิดถึงเสมอตลอดมา............ยังคอยห่วงหา........เวลาที่ได้รู้ว่าเธอกำลังทุกข์ใจ.........จะคอยอยู่ดูแลเธอไกลๆ.....แม้ว่าเราจะต้องอยู่ห่างกันเช่นทุกวันนี้............ยังคิดถึงคนดี.......และจะคิดถึงและรักมากขึ้นทุกวันตลอดไปนะจ๊ะฟ้าสีคราม.........เพื่อนรัก........เพื่อนใจ......ของแก้วนีดา........รักเธอนะ..ฟ้าสีคราม