15 กรกฎาคม 2551 11:20 น.

ต้องขอโทษ

แก้ว กลางไพร

ต้องขอโทษทุกท่านนั้นนักหนา
ที่เข้ามาช้าเกินไปใช่ไหมเพื่อน
ขอขอบคุณทุกทุกท่านที่มาเยือน
ขอบคุณเพื่อนชายหญิงด้วยจริงใจ

ช่ออักษราลี 
ขอบคุณที่น้องเข้ามาพาสดใส
ดีใจที่เจอน้องสาวทุกคราวไป
ว่างเมื่อไรแวะมาพักทักทายกัน

กันนาเทวี 
ขอบคุณที่เข้ามาเยือนเป็นเพื่อนฉัน
ขอขอบคุณในไมตรีมีต่อกัน
มิตรสัมพันธ์เพื่อนมอบให้ชื่นใจจริง

ขอขอบคุณครูพิมที่มาเยี่ยม
พี่เต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้มอิ่มใจยิ่ง
อยากจะบอกกับครูพิมจากใจจริง
ทุกทุกสิ่งน้องมอบให้พี่ไม่ลืม

แสนดีใจพิมญดามาเยี่ยมพี่
ดีใจที่น้องเข้ามาพาปลาบปลื้ม
มิตรสัมพันธ์น้องมอบให้ไม่เคยลืม
แสนปลาบปลื้มน้องเข้ามาพาชื่นใจ

ขอเชิญชวนครูกระดาษทราย นั้นเข้าบ้าน
เชิญสำราญเชิญพักผ่อนก่อนได้ไหม
ต้องขอโทษเชิญคนดีนี้ช้าไป
โปรดอภัยให้พี่ด้วยช่วยเมตตา

ขอต้อนรับคุณก่องกิกนี้อีกหน
ดวงกมลดีใจนักเป็นนักหนา
ดีใจที่คุณก่องกิกนี้เข้ามา
ร่วมสร้างสรรค์เฮฮาภาษากลอน

สวัสดีคุณฝนทองน้องของพี่
ดีใจที่น้องเข้ามาว่าอักษร
เชิญนั่งพักเชิญพักเหนื่อยเมื่อล้าก่อน
หรือว่ากลอนยินดียิ่งเหนือสิ่งใด

สวัสดี....ผู้หญิงไร้เงา...ที่เยือนเยี่ยม
บ้านนี้เตรียม....ให้น้องรัก...พักอาศัย
หายเหนื่อยแล้ว.....น้องค่อย....เดินต่อไป
ว่างเมื่อไร...เชิญแวะพัก....ทักทายกัน

สวัสดี...คุณวชรกานท์ ...ที่ทายทัก
ขอบคุณนักที่มาเยือนเป็นเพื่อนฉัน
ขอขอบคุณที่มาเยือนเป็นเพื่อนกัน
มิตรสัมพันธ์เพื่อนมอบให้ฉันไม่ลืม

อรุโณทัย...การัณยภาส ....นิลวรรณ 
เชิญทุกท่าน...ในบ้านก่อน....พักผ่อนได้
เชิญทุกท่านพักผ่อนนอนสบาย
เมื่อยล้าหายมาว่ากลอนอ้อนวจี

แสนดีใจคนบนเกาะมาเยี่ยมบ้าน
นานแสนนานที่ไม่พบประสบท่าน
แสนดีใจที่ท่านนี้ไม่ลืมกัน
มาสังสรรค์วันดีที่บ้านเรา

สวัสดี....คุณฝากฝัน....นั้นอีกหน
สุขมากล้นเมื่อเพื่อนรักทักทายฉัน
ขอขอบคุณคำแนะนำที่ให้กัน
เป็นรางวัลคนช่างฝันนั้นเรื่อยมา

น้องช.
สุขจริงหนอที่น้องช.มาเยี่ยมพี่
ขอขอบคุณความรู้สึกที่ดีดี
ที่น้องมีให้พี่ทุกวันวาร

สวัสดี.....จิตรำพัน... .เชิญนั่งพัก....
พี่แก้วจัก...หาน้ำท่า......มาให้หนอ
โอวัลติน...ร้อนร้อน...พี่เตรียมรอ
พี่แก้วขอ...น้องดื่มก่อน....ค่อยจรลา

ต้องขอโทษทุกท่านนั้นนักหนา
ที่เข้ามาช้าเกินไปใช่ไหมเพื่อน
ขอขอบคุณทุกทุกท่านที่มาเยือน
ขอบคุณเพื่อนชายหญิงด้วยจริงใจ

 ทราบนะคะว่ากลอนบทนี้แต่งวกไววนมาแถมยังไม่มีสัมผัสระหว่าบทอีก....ก็ต้องกราบขออภัยทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ....พอดีเขียนถึงทุกท่านที่เข้ามาคอมเม้นให้ที่http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem116977.html  สุขสันต์ในวันว่างก็ไม่เคยเขียนอะไรที่ยาวๆแบบนี้มาก่อนไงก็ขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ...ยินดีรับฟังคำแนแนะนำและข้อชี้แนะต่างๆค่ะ....หรือท่านใดจะช่วยขัดเกลากลอนให้ก็ยินดีค่ะ   ขอบคุณทุกท่านที่แนะนำ				
13 กรกฎาคม 2551 07:24 น.

สุขสันต์ในวันว่าง

แก้ว กลางไพร

รุ่งอรุณแสงทองสอดส่องฟ้า
พี่แก้วมาทักทายเพื่อนชายหญิง
ด้วยอากาศเช้านี้แสนดีจริง
เพื่อนชายหญิงตื่นเถิดหนาพี่ยารอ

ทั้งครูพิม   ครูเจี๊ยบ   ครูรินนั้น
จิตรำพัน   ดาวระดา   น้องยาหนอ
ยาแก้ปวด   มณีจันทร์ และน้องช.
พี่แก้วขอน้องต่อกลอนอ้อนวจี

เชิญนกยูง   เชิญนางฟ้ามาที่บ้าน
สุขสำราญเชิญสังสรรค์ที่บ้านพี่
ทั้งไผ่ดำ   พิมญดา   กันนาเทวี
บ้านหลังนี้ขอต้อนรับกับทุกคน

เชิญน้องรัน   คุณฝากฝัน   ท่านทั้งหลาย
เพื่อนหญิงชาย   ปลายตะวัน   นั้นอีกหน
ทั้งก่องกิก   มิตรรัก   ของทุกคน
เชิญคุณฝนทองด้วยช่วยช่วยกัน

เชิญแสงเหนือ   นรสิริ    คุณหนุ่มน้อย
เชิญน้องกลอยผู้หญิงไร้เงาเข้าบ้านฉัน
เชิญนิลวรรณเข้ามาเยือนเป็นเพื่อนกัน
ร่วมสังสรรค์ในวันหยุดสุดสัปดาห์

ขอทุกท่านมีความสุขในวันนี้
ลาภทวีพร้อมเงินทองและยศฐา
ขอโชคดีมีชัยไร้โรคา
ทุกชีวาต่างก้าวหน้าสถาพร				
12 กรกฎาคม 2551 21:33 น.

*** ต้องมีสักวัน ***

แก้ว กลางไพร

คงต้องมีสักวันฝันเป็นจริง
มีทุกสิ่งที่ฉันวาดปรารถนา
มีคนดียืนอยู่คู่กายา
ร่วมฟันฝ่าขวากหนามตามทางไกล

จะก้าวไปพร้อมกันวันข้างหน้า
จะตามหาความฝันอันสดใส
มีคนดีที่ปรึกษาแห่งหัวใจ
แม้ใกล้ไกลขอเผชิญเดินร่วมทาง

ขอเพียงแต่ให้คนดีนี้ยึดมั่น
จับมือกันมั่นไว้ไม่เหินห่าง
พร้อมเผชิญขวากหนามตามริมทาง
แล้วพร้อมสร้างอนาคตให้งดงาม

แม้จะเหนื่อยจะยากลำบากนิด
แม้ชีวิตข้างหน้าล้วนขวากหนาม
คงต้องมีสักวันฝันงดงาม
จะขอตามหาฝันดีที่เป็นจริง				
12 กรกฎาคม 2551 14:04 น.

*** อ้างว้าง ***

แก้ว กลางไพร


เสียงหรีดหริ่งเรไรซร้องร้องประสาน              
ราตรีกาลดาวกระจ่างกลางเวหา              
สายลมโชยโรยระรื่นชื่นอุรา               
โสมส่องหล้านภาพราวสกาวนวล 

ธรรมชาติยามราตรีมีมนต์ขลัง                                                          
เสียงลมสั่งพัดกระโชกวิโยคหวล                                                      
เสียงหริ่งหรีดเรไรร้องก้องรัญจวน                                                       
คิดถึงนวลคนที่รักเขาจากไกล  

มองเวหาฟ้าสว่างที่กลางหาว
มองดวงดาวเดือนเด่นเห็นสุกใส
มองภูเขาลำเนาป่าพนาไพร
หริ่งเรไรวิหคซร้องร้องเรียกกัน

มองดูห้องหอเราเศร้าดวงจิต
เพราะมิ่งมิตรไม่กลับมาพาโศรกศัลย์
ช่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวเสียวชีวัน
โอ้ตัวฉัน..อ้างว้าง..เหมือนอย่างเคย.				
12 กรกฎาคม 2551 13:20 น.

*** ทนหน่อยลูก ***

แก้ว กลางไพร

สิบห้าค่ำขึ้นแรมใจแช่มชัด
ดั่งลมพัดพลิ้วผ่านลานดินเหลือง
ดูแห้งผากยากไร้ได้ประเทือง
ความสิ้นเปลืองมากมายตามรายทาง

ถึงสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจใครจะรู้
เพราะเงินกู้แต่ละทีหนี้เพิ่มสร้าง
ราชการจนจนหมดหนทาง
อย่าหวังสร้างอนาคตงดงามตา

บ้านต้องเช่าข้าวซื้อ   ซื้อทั้งหมด
อนาคตของลูกน้อยคอยข้างหน้า
กินเงินเดือนกับงานเนิ่นนานมา
เพียงหวังว่าอนาคตแสนงดงาม

จากวันนั้นถึงนี่หลายปีแล้ว
ยังนอนแกร่วบ้านเช่าลูกเฝ้าถาม
อีกเมื่อไรอนาคตถึงงดงาม
คือคำถามตอกย้ำให้ช้ำใจ

ขอลูกแม่จงเรียนเพียรฝึกฝน
จงคิดค้นอนาคตที่สดใส
แม้ไม่มีสตางค์อย่างใครใคร
จงทุ่มใจร่ำเรียนเพียรวิชา

ลูกอาจมีไม่เทียมเทียบเท่าเพื่อน
อย่าแชเชือนอายเขาเฝ้าศึกษา
คนจะดีดีที่เรียนเพียรวิชา
ภายภาคหน้าลูกจะดีมีคนชม

ถึงวันนั้นแม่สิ้นใจคงไม่ห่วง
เพราะลุล่วงห่วงใยไม่ขื่นขม
ด้วยลูกแม่พ้นผ่านด่านระทม
แม่สุขสมหลับสนิทนิราลัย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กลางไพร
Lovings  แก้ว กลางไพร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กลางไพร
Lovings  แก้ว กลางไพร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กลางไพร
Lovings  แก้ว กลางไพร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้ว กลางไพร