20 พฤษภาคม 2550 23:07 น.
แก้ว กลางไพร
ขอเชิญชวนมวลมิตรสนิทใกล้
เชิญมิตรไปเฮฮาพาสุขสันต์
เชิญเที่ยวล่องคลองแกร่งแห่งสุพรรณ
ศรีประจันต์น่าสนุกทุกคนมา
ตกลงไหม..คุณเรไร..คุณไผ่ดำ
และขอย้ำ....แม่จิตร...และนางฟ้า
พี่ดอกแก้ว ....เฌอมาลย์...และคนป่า
คุณรินพา....แก้ว กรุงเก่า....เราเที่ยวกัน
20 พฤษภาคม 2550 22:55 น.
แก้ว กลางไพร
โอ้เวรดึกนึกไปใจยิ่งเศร้า
ช่างเงียบเหงาเปล่าดวงจิตคิดฉงน
เห็นคนไข้นอนหลับกันนั้นทุกคน
ดวงกมลให้เปล่าเปลี่ยวเสียวฤดี
โอ้ยามนี้ราตรีกาลผ่านเลยล่วง
ชนทั้งปวงต่างหลับไหลในคืนนี้
ทั้งสิงห์สา...ลาสัตว์...ปัฐพี
ทุกชีวีต่างพักผ่อนนอนนิทรา
แต่ตัวฉันนั้นนั่งอยู่ดูคนไข้
จะหลับไหลเช่นคนอื่นตื่นผวา
จึงต้องฝืนยืนมองท้องนภา
มืดจริงหนาฟ้าคืนนี้ไม่มีจันทร์
หันหลังเดินเข้าตึกใจนึกคิด
อยากสะกิตญาติคนไข้ใจนึกหวั่น
ให้เขาตื่นขึ้นมาพูดจากัน
แต่ว่าฉันทำไม่ได้...ได้แค่มอง
นั่งเหม่อมองนาฬิกาฝาผนัง
เดินช้าจังนาฬิกาพาหม่นหมอง
อยากจะเร่งเวลาให้ดั่งใจปอง
ได้แค่มอง...มองดู...อยู่นั่นเอง.
18 พฤษภาคม 2550 19:54 น.
แก้ว กลางไพร
สายฝนหลั่งจากฟากฟ้ายังนาข้าว
ท้องฟ้าขาวสกาวพราวสดสี
น้ำเจิ่งนองท้องทุ่งนาน่ายินดี
ในปีนี้ฝนไม่แล้งแห่งบ้านเรา
คงได้ข้าวเต็มนาพาสดชื่น
ไม่ต้องฝืนยิ้มรับกับความเหงา
ด้วยฝนมา...ลบน้ำตา...พาบรรเทา
ปีนี้เรา...ใช้นี้หมด...ไม่อดตาย
18 พฤษภาคม 2550 19:52 น.
แก้ว กลางไพร
เรือนแพน้อยลอยมาธาราใหญ่
ค่อยเคลื่อนไปในสายชลไม่หม่นหมอง
สองฝั่งมีผู้คนล้นฝั่งคลอง
เสียงนกร้องเจื้อยแจ่วแว่วตามมา
มองท้องฟ้าสีครามขาวราวกับมุก
ดวงดาวสุกยามคืนค่ำฉ่ำจิตหนา
เรือนแพน้อยลอยล่องท้องธารา
สุขยิ่งกว่าอยู่ตึกหรูที่ปูพรม
17 พฤษภาคม 2550 07:47 น.
แก้ว กลางไพร
เธอคงลืมหญิงหนึ่งซึ่งชื่อแก้ว
เธอลืมแล้วหรือไรไม่มาหา
จากวันนั้นถึงวันนี้สิบปีกว่า
รู้ไหมว่าแก้วรอพี่ที่บ้านเรา
ไหนพี่บอกว่ารักภักดีมั่น
ใยแปรผันเปลี่ยนไปใจหมองเศร้า
โอ้บ้านไร่...ศรีประจันต์...นั้นซบเซา
แก้วจึงเฝ้า...คอยวันที่...พี่มาเยือน.