13 กรกฎาคม 2551 07:24 น.

สุขสันต์ในวันว่าง

แก้ว กลางไพร

รุ่งอรุณแสงทองสอดส่องฟ้า
พี่แก้วมาทักทายเพื่อนชายหญิง
ด้วยอากาศเช้านี้แสนดีจริง
เพื่อนชายหญิงตื่นเถิดหนาพี่ยารอ

ทั้งครูพิม   ครูเจี๊ยบ   ครูรินนั้น
จิตรำพัน   ดาวระดา   น้องยาหนอ
ยาแก้ปวด   มณีจันทร์ และน้องช.
พี่แก้วขอน้องต่อกลอนอ้อนวจี

เชิญนกยูง   เชิญนางฟ้ามาที่บ้าน
สุขสำราญเชิญสังสรรค์ที่บ้านพี่
ทั้งไผ่ดำ   พิมญดา   กันนาเทวี
บ้านหลังนี้ขอต้อนรับกับทุกคน

เชิญน้องรัน   คุณฝากฝัน   ท่านทั้งหลาย
เพื่อนหญิงชาย   ปลายตะวัน   นั้นอีกหน
ทั้งก่องกิก   มิตรรัก   ของทุกคน
เชิญคุณฝนทองด้วยช่วยช่วยกัน

เชิญแสงเหนือ   นรสิริ    คุณหนุ่มน้อย
เชิญน้องกลอยผู้หญิงไร้เงาเข้าบ้านฉัน
เชิญนิลวรรณเข้ามาเยือนเป็นเพื่อนกัน
ร่วมสังสรรค์ในวันหยุดสุดสัปดาห์

ขอทุกท่านมีความสุขในวันนี้
ลาภทวีพร้อมเงินทองและยศฐา
ขอโชคดีมีชัยไร้โรคา
ทุกชีวาต่างก้าวหน้าสถาพร				
12 กรกฎาคม 2551 21:33 น.

*** ต้องมีสักวัน ***

แก้ว กลางไพร

คงต้องมีสักวันฝันเป็นจริง
มีทุกสิ่งที่ฉันวาดปรารถนา
มีคนดียืนอยู่คู่กายา
ร่วมฟันฝ่าขวากหนามตามทางไกล

จะก้าวไปพร้อมกันวันข้างหน้า
จะตามหาความฝันอันสดใส
มีคนดีที่ปรึกษาแห่งหัวใจ
แม้ใกล้ไกลขอเผชิญเดินร่วมทาง

ขอเพียงแต่ให้คนดีนี้ยึดมั่น
จับมือกันมั่นไว้ไม่เหินห่าง
พร้อมเผชิญขวากหนามตามริมทาง
แล้วพร้อมสร้างอนาคตให้งดงาม

แม้จะเหนื่อยจะยากลำบากนิด
แม้ชีวิตข้างหน้าล้วนขวากหนาม
คงต้องมีสักวันฝันงดงาม
จะขอตามหาฝันดีที่เป็นจริง				
12 กรกฎาคม 2551 14:04 น.

*** อ้างว้าง ***

แก้ว กลางไพร


เสียงหรีดหริ่งเรไรซร้องร้องประสาน              
ราตรีกาลดาวกระจ่างกลางเวหา              
สายลมโชยโรยระรื่นชื่นอุรา               
โสมส่องหล้านภาพราวสกาวนวล 

ธรรมชาติยามราตรีมีมนต์ขลัง                                                          
เสียงลมสั่งพัดกระโชกวิโยคหวล                                                      
เสียงหริ่งหรีดเรไรร้องก้องรัญจวน                                                       
คิดถึงนวลคนที่รักเขาจากไกล  

มองเวหาฟ้าสว่างที่กลางหาว
มองดวงดาวเดือนเด่นเห็นสุกใส
มองภูเขาลำเนาป่าพนาไพร
หริ่งเรไรวิหคซร้องร้องเรียกกัน

มองดูห้องหอเราเศร้าดวงจิต
เพราะมิ่งมิตรไม่กลับมาพาโศรกศัลย์
ช่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวเสียวชีวัน
โอ้ตัวฉัน..อ้างว้าง..เหมือนอย่างเคย.				
12 กรกฎาคม 2551 13:20 น.

*** ทนหน่อยลูก ***

แก้ว กลางไพร

สิบห้าค่ำขึ้นแรมใจแช่มชัด
ดั่งลมพัดพลิ้วผ่านลานดินเหลือง
ดูแห้งผากยากไร้ได้ประเทือง
ความสิ้นเปลืองมากมายตามรายทาง

ถึงสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจใครจะรู้
เพราะเงินกู้แต่ละทีหนี้เพิ่มสร้าง
ราชการจนจนหมดหนทาง
อย่าหวังสร้างอนาคตงดงามตา

บ้านต้องเช่าข้าวซื้อ   ซื้อทั้งหมด
อนาคตของลูกน้อยคอยข้างหน้า
กินเงินเดือนกับงานเนิ่นนานมา
เพียงหวังว่าอนาคตแสนงดงาม

จากวันนั้นถึงนี่หลายปีแล้ว
ยังนอนแกร่วบ้านเช่าลูกเฝ้าถาม
อีกเมื่อไรอนาคตถึงงดงาม
คือคำถามตอกย้ำให้ช้ำใจ

ขอลูกแม่จงเรียนเพียรฝึกฝน
จงคิดค้นอนาคตที่สดใส
แม้ไม่มีสตางค์อย่างใครใคร
จงทุ่มใจร่ำเรียนเพียรวิชา

ลูกอาจมีไม่เทียมเทียบเท่าเพื่อน
อย่าแชเชือนอายเขาเฝ้าศึกษา
คนจะดีดีที่เรียนเพียรวิชา
ภายภาคหน้าลูกจะดีมีคนชม

ถึงวันนั้นแม่สิ้นใจคงไม่ห่วง
เพราะลุล่วงห่วงใยไม่ขื่นขม
ด้วยลูกแม่พ้นผ่านด่านระทม
แม่สุขสมหลับสนิทนิราลัย				
9 กรกฎาคม 2551 07:38 น.

*** ฉันขอยืม ***

แก้ว กลางไพร

ขอควงแขนเป็นแฟนฉันนั้นได้ไหม
หลอกใครใครว่าคนดีนี้แฟนฉัน
มากไปไหมนะคนดีที่ขอกัน
ยืมเธอนั้นควงแขนเป็นแฟนเรา

ขอควงแขนเที่ยวทะเลเที่ยวชายหาด
ควงแขนวาดรูปหัวใจฉันและเขา
เที่ยวเชียงใหม่เที่ยวสงขลานะสองเรา
ขอเป็นเงาของคนดีที่ต้องการ

ขอควงแขนชมดอกไม้ที่ชายป่า
ดูนกกาเที่ยวน้ำตกสนุกสนาน
ควงขึ้นดอยควงขึ้นเขาสุขสำราญ
ดอกไม้บานแมลงดมชมความงาม

ขอยืมแขนเป็นแฟนกันนั้นได้ไหม
ขอมากไปหรือเปล่าหนอฉันขอถาม
ขอเคียงคู่อยู่ใกล้ชิดคอยติดตาม
ขอไถ่ถามยามเธอเหงาเธอเศร้าใจ

จะดูแลคนดีนี้เสมอ
ดูแลเธอคนดีนี้ชิดใกล้
จะเคียงคู่อยู่กับเธอด้วยหัวใจ
มากไปไหมนะคนดีที่ขอยืม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กลางไพร
Lovings  แก้ว กลางไพร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กลางไพร
Lovings  แก้ว กลางไพร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กลางไพร
Lovings  แก้ว กลางไพร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้ว กลางไพร