4 กรกฎาคม 2553 13:20 น.
แก้ว กลางไพร
อยากจะบอกความในใจไม่กล้า
อยากบอกว่าฉันคิดถึงคนึงหา
แอบห่วงใยคนดีนี้เรื่อยมา
ทั้งรู้ว่าเธอไม่มองหมองใจเรา
เธอแอบรักหญิงหนึ่งซาบซึ้งนัก
เธอแอบภักดิ์ดวงใจมอบให้เขา
ฝากถ้อยคำหวานหวานผ่านตัวเรา
เธอฝากเขาผ่านเราแสนเศร้าใจ
แล้ววันหนึ่งเธอผิดหวังนั่งซึมเศร้า
นั่งกอดเข่าเฝ้ารำพันฉันหวั่นไหว
เธอฝากฉันให้ติดตามถามหัวใจ
ว่าทำไมเขาใจร้ายทำลายเธอ
ใยคนดีจึงมองเห็นฉันเป็นเพื่อน
ใยลางเลือนความภักดีนี้เสมอ
ใยมองเห็นฉันเป็นเพียงเพื่อนของเธอ
ใยเธอเพ้อแต่หญิงอื่นขมขื่นจริง
27 มิถุนายน 2553 13:47 น.
แก้ว กลางไพร
ฉันเป็นเพียงคนเดินดินตามถิ่นนี้
มีบางทีอาจหลงทางอย่างเหงาเหงา
ก็แค่คนเดินดินถิ่นบ้านเรา
มีใครเขาเข้าใจคงไม่มี
เขียนกลอนเศร้าเขาว่าบ้าน่าอายหนอ
กลอนรักก็เพ้อเจ้อกระไรนี่
ไร้สาระไร้แก่นสารฉันไม่มี
กลอนดีๆอย่างใครเขาเราไม่จำ
กลอนธรรมะกลอนภาษิตคิดไม่ได้
ช่างน่าอายเหลือเกินเจ้าคมขำ
แต่บทกลอนที่ฉันเขียนเพียรประจำ
คือกลอนช้ำกลอนหม่นหมองลองอ่านกัน
ถ้าผิดพลาดพลั้งไปอภัยเถิด
ด้วยฉันเกิดหงอยเหงาเศร้าโศกศันต์
กลอนที่เขียนจึงหงอยเหงาเศร้าจาบัณท์
อย่าว่ากันเลยคนดีที่ออกตัว
27 มิถุนายน 2553 13:21 น.
แก้ว กลางไพร
ขอบันทึกจารึกเขียนถึงแม่
ลูกอ่อนแอเกินกว่ามาแก้ไข
อยากจะเก็บความช้ำนี้ที่หัวใจ
สุดหวั่นไหวเกินจะรับกับเหตุการณ์
อยากจะบอกกับแม่พ่อให้รับรู้
แต่คิดดูท่านคงเศร้าเราสงสาร
จึงต้องเก็บความหงอยเหงาเศร้าดวงมาลย์
แม้ร้าวรานเพียงใดใจต้องทน
ต้องฝืนยิ้มเริงร่าหน้าตาชื่น
ความขมขื่นเก็บไว้ใจหมองหม่น
อยากจะบอดแม่เหลือเกินลูกทุกข์ทน
แต่อับจนคำบอกเล่าเราไม่มี
ขอเพียงแต่แม่รับรู้ว่าลูกสุข
เก็บความทุกข์ไว้ในดวงใจนี้
แม้อ่อนแอเกินจะรับกับชีวี
ควรหรือที่บอกแม่เราให้เศร้าใจ
27 มิถุนายน 2553 11:53 น.
แก้ว กลางไพร
ขอเชิดชูครูกลอนสุนทรภู่
บรมครูเอกกวีศรีสยาม
ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอนอักษรงาม
ระบือนามสุนทรภู่ครูกวี
ยี่สิบหกมิถุนามาบรรจบ
ขอน้อมนบครูกลอนอักษรศรี
ร่วมรำลึกกตัญญูกตเวที
ด้วยวลีแทนมาลัยให้ครูกลอน
ท่านเป็นยอดกวีศรีสยาม
ระบือนามเลื่องลือสื่ออักษร
สุภาษิตคติธรรมล้ำคำกลอน
คำสั่งสอนชวนให้คิดติดตามกัน
ขอวันทาครูกวีนี้อีกหน
ขอท่านดลบันดารให้ตามใจฝัน
ด้วยใจรักอักษรบทกลอนนั้น
ขอครูท่านช่วยบันดารผลงามมี
มาช้าไป 1 วัน .....ขอร่วมรำลึก และ ขอพร ด้วยคนค่ะ
24 พฤศจิกายน 2552 09:55 น.
แก้ว กลางไพร
ขอเชิญชวนพี่น้องและผองเพื่อน
เชิญท่านเยือนสุพรรณบุรีนี้เถิดหนา
ที่บ้านไร่ศรีประจันต์เชิญท่านมา
เที่ยวท้องนาบ้านควายไทยให้รื่นรมย์
มีไม้ดอกออกช่อล้อลมหนาว
พร้อมเรื่องราวประเพณีที่สุขสม
การแสดงของควายไทยมีให้ชม
มารื่นรมย์ธรรมชาติอากาศดี
อนุสรณ์ดอนเจดีย์ที่กู้ชาติ
พระองอาจนเรศวรพระทรงศรี
ทรงกอบกู้เอกราชชาติเรามี
สุพรรณบุรีเป็นตำนานเล่าขานกัน
หอบรรหารเด่นตระการไม่นานนัก
เชิญท่านพักเที่ยวชมมังกรสวรรค์
ไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองของสุพรรณ
ขอพรท่านสุขสมหวังดังตั้งใจ
แล้วปิดทองไหว้พระประจำบ้าน
สืบตำนานหลวงพ่อโตที่ยิ่งใหญ่
เด่นตระการอยู่ที่ป่าเลไลก์
เชิญเพื่อนไหว้ท่านคุ้มครองพ้นผองภัย
แล้วไปเที่ยวบึงผวากอีกฝากหนึ่ง
กว่าจะถึงหนึ่งชั่วโมงคงพอได้
ชมสวนสัตว์สวนผักพักเรื่อยไป
อุโมงค์ใหญ่ปลามากมายให้ชมนาน
เชิญท่านเที่ยวเขื่อนกระเสียวกันเถิดหนา
แล้วแวะมาที่สามชุกสนุกสนาน
ตลาดเก่าหนึ่งร้อยปีมีตำนาน
จะเห็นบ้านเก่าแก่ไม่แพ้ใคร
แล้วแวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์อู่ทองนี้
แล้วแวะที่ทุ่งทานตะวันบานสดใส
เป็นสถานที่เที่ยวใหม่ของเมืองไทย
ทุ่งไม่ใหญ่แต่งดงามยามต้องตา
แล้วแวะพักคุ้มสุพรรณนั้นก็ได้
หรือจะไปศรีอู่ทองไม่ไกลหนา
หรือพักที่สองพันบุรีมีตามมา
หรือท้องนาบ้านควายไทยให้ยินดี
มีของขวัญของฝากมากมายนัก
ขึ้นชื่อหลักของสุพรรณนั้นสาลี่
ทั้งลูกเต๋าครองแครงของเรามี
หรือลูกหยีข้าวเกรียบปลาน่าลองกัน
ปลาสลิดตัวโตโตโชว์ให้เห็น
กุ้งเป็นเป็นมีมากมายให้เลืกสรร
ผ้ามัดหมี่มีมากมายให้เลือกกัน
พิพิธภัณฑ์ไม้กวาดบ้านสานด้วยมือ
แล้วแวะเที่ยววัดทับกระดานนั้นอีกที่
วัดนี้มีหุ่นพุ่มพวงที่ลือชื่อ
ทั้งวัดไผ่โรงวัวคนเลื่องลือ
วัดนี้สื่อแห่งกฎกรรมให้ทำดี
ใช้เวลาหนึ่งวันกับการเที่ยว
เชิญเก็บเกี่ยวความสนุกแสนสุขขี
เชิญทุกท่านมาสู่บ้านสุพรรณบุรี
คนที่นี่มีน้ำใจให้คุณคุณ