5 กรกฎาคม 2552 02:09 น.
แก้ว กลางไพร
เสียงหรีดหริ่งเรไรซร้องร้องประสาน
ราตรีกาลดาวกระจ่างกลางเวหา
สายลมโชยโรยระรื่นชื่นอุรา
โสมส่องหล้านภาพราวสกาวนวล
ธรรมชาติยามราตรีมีมนต์ขลัง
เสียงลมสั่งพัดกระโชกวิโยคหวล
เสียงหริ่งหรีดเรไรร้องก้องรัญจวน
คิดถึงนวลคนที่รักเขาจากไกล
มองเวหาฟ้าสว่างที่กลางหาว
มองดวงดาวเดือนเด่นเห็นสุกใส
มองภูเขาลำเนาป่าพนาไพร
หริ่งเรไรวิหคซร้องร้องเรียกกัน
มองดูห้องหอเราเศร้าดวงจิต
เพราะมิ่งมิตรไม่กลับมาพาโศรกศัลย์
ช่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวเสียวชีวัน
โอ้ตัวฉันหงอยเหงาเศร้าอย่างเคย.
5 กรกฎาคม 2552 01:50 น.
แก้ว กลางไพร
.ฉันเฝ้ามองจ้องจันทร์วันสดใส
ฉันคลั้งไคล้ดวงดาวสะกาวฟ้า
ฉันเฝ้ายืนเหม่อมองท้องนภา
ฝากจันทราบอกเขาว่าเรารอ
5 กรกฎาคม 2552 01:06 น.
แก้ว กลางไพร
ร้อยดวงใจ...รวมความฝัน...วันดอกปีป
ดังประทีป...สุกสว่าง...กลางเวหน
รวมน้ำใจ...รวมพลัง..เพื่อปวงชน
ทุกกมล...ร่วมรวมใจ...ใฝ่ทำดี
จะก้าวไป...พร้อมกัน...วันข้างหน้า
เพื่อประชา...เพื่อชุมชน...เพื่อหน้าที่
แม้เหนื่อยบ้าง...ท้อบ้าง...ในบางที
ทุกคนมี...ความหวัง...ที่ตั้งใจ
ยี่สิบเอ็ด...ตุลา...ฟ้าบรรเจิด
ก่อกำเนิด...วันสานฝัน...วันฟ้าใส
รวมพี่น้อง...รวมรัก...รวมน้ำใจ
รวมเอาไว้...ในวันที่....นี้ตลอดกาล
4 กรกฎาคม 2552 12:41 น.
แก้ว กลางไพร
ร้อยอักษรเป็นคำกลอนอ้อนไปถึง
ใครคนหนึ่งที่บ้านกลอนอ้อนไถ่ถาม
ให้คนึงถึงคนดีนี้ทุกยาม
คอยติดตามอ่านกลอนเธอเสมอมา
ด้วยเพราะว่าหลงบทกลอนอักษรศรี
ของคนดีมอบให้ไม่ลืมหนา
แม้เป็นเพียงแค่อักษรกลอนส่งมา
จะเก็บไว้รักษาที่ในใจ
แล้วตอนนี้คนดีเป็นไงบ้าง
แล้ววันว่างของคนดีมีบ้างไหม
แล้วอากาศทางโน้นเป็นอย่างไร
อย่าไว้ใจสุขภาพหมั่นดูแล
หากเหนื่อยนักพักผ่อนบ้างอย่างที่ว่า
ขอเพื่อนอย่าหักโหมจนได้แผล
สุขภาพกายและใจควรดูแล
จะย่ำแย่ถ้าป่วยไปคงไม่ดี
4 กรกฎาคม 2552 12:02 น.
แก้ว กลางไพร
เดี๋ยวก็ลืมกันไปในไม่ช้า
เพียงเข้ามาคลายเหงาเท่านั้นหนอ
พอหายเหงาเขาจากไปไม่รีรอ
เราเหงาต่อเพราะเชื่อมั่นสัญญาใจ
ด้วยคิดว่ารักจากใจใช่สิ่งอื่น
เขาหยิบยื่นมอบไมตรีสิ่งดีให้
คำหวานหวานเขาบอกออกจากใจ
ความห่วงใยเขาคนดีมีเรื่อยมา
เข้า hi5 วันนี้หวังมีเพื่อน
เพื่อคอยเตือนรักเก่าเศร้าจริงหนา
หนึ่งปีแล้วที่คนดีนี้ไม่มา
ลืมสัญญาที่เคยให้ไว้แก่กัน
หวลคิดถึงหนึ่งปีที่ผันผ่าน
เป็นตำนานรักเก่าเราร่วมฝัน
ต่อจากนี้ไม่มีเงากันและกัน
ก็แค่ฝันรัก hi5 ใจจึงตรม