7 มีนาคม 2553 20:50 น.
แก้ว กรุงเก่า
เขียนบันทึกบทใหม่ให้ชีวิต
เป็นลิขิตความฝันในวันเหงา
ความหม่นมัวอ้างว้างห่มร่างเรา
แฝงด้วยเงามายาในอารมณ์
เริ่มจากร้อยเรียงฝันในบันทึก
ณ ยามดึกอ่อนล้าใต้ผ้าห่ม
สลับเสียงเรไรกับสายลม
สอดผสมเสียงพร่ำสนรำพัน
คืนข้างแรมเดือนดับดาวอับแสง
โศกแสลงค่อยสร่างเริ่มสร้างฝัน
ในความมืดพลันสว่างดั่งกลางวัน
ดาวดวงนั้นสว่างไสวในใจเรา
แม้ไม่เคยพบหน้าสบตาน้อง
แต่ใจร้องเรียกหาพบหน้าเจ้า
คืนข้างแรมเดือนแฝงไร้แสงเงา
แต่ใจเรามีเธอแฝงเป็นแสงดาว
ดาวกระพริบยวนใจเราไหวหวั่น
ในความฝันพรมพร่างน้ำค้างหนาว
สะท้าน-อก สะท้อน-ใจ หลายเรื่องราว
เหมือนหมอกขาวกั้นใว้ตรอมใจตรม
ไม่อยากหยุดเขียนฝันเป็นบันทึก
แม้จะดึกอ่อนล้าใต้ผ้าห่ม
แม้จะหวาดหวั่นไหวในอารมณ์
เพียงได้ชมดาวดวงนั้นคงฝันดี