9 กรกฎาคม 2546 20:34 น.
แก้ว กรุงเก่า
เพลง...หวาน-โมทย์
อะไรอยู่ในรอยยิ้มมันสดใส
อะไรอยู่ในความหวานมันจับใจ
และในวันที่ดีนั้นมีอะไร
(สร้อย) ****....หวานละมุนละไมอยู่ในทุกตอน
หวานทุกความรู้สึกไม่มีวันจางหายไป
และให้หัวใจ เก็บความหวานให้มันอยู่นานๆไว้
หวานละมุนละไมจากใจถึงใจ
เหมือนเป็นดังไออุ่นที่ส่งตรงไปหากัน
จะอยู่ใกล้ไกล ให้ความหวานนั้นพูดแทนหัวใจ...****
ในวันที่มองดูฟ้ามันสดใส
ในวันที่มีหยาดฝนนั้นเป็นสาย
ไม่เคยมีวันใดที่ใจจะเหงา....(ซ้ำ****)
.................//-}*{- )..................
เสียงเพลงหวานแว่วมาเวลาค่ำ
ความทรงจำที่เลือนเหมือนเพิ่งผ่าน
วันที่ฝนจากฟ้ามาเนิ่นนาน
เส้นแห่งกาลเวลาที่พร่าเลือน
เคยหลงใหลรอคอยกับรอยยิ้ม
คำรักพิมพ์ตรึงใจหาใดเหมือน
ดอกรักบานกลางใจใต้แสงเดือน
บทเพลงเตือนหัวใจให้ร้าวราน
หวานรอยยิ้มสดใสจับใจนัก
หวานคำรักอ้อนวอนที่อ่อนหวาน
หวานความรักในหัวใจที่เบ่งบาน
เก็บความหวานให้นานไว้ในใจเรา
ทุกถ้อยคำที่บรรเลงในเพลงรัก
ใจประจักษ์วังเวงเป็นเพลงเศร้า
หลงคำหวานซานซมชมเพียงเงา
รักของเราไม่หวานซึ้งเท่าครึ่งเพลง
...{-\ ......?????....... ( -}....
8 กรกฎาคม 2546 21:11 น.
แก้ว กรุงเก่า
เหมือน...ขอนไม้ใกล้ฝั่งรอฝังกลบ
เช่น.......ใกล้พลบของทิวาน่าใจหาย
เป็น.......ริ้วรอยชราร่างยามย่างกราย
คือ........ฝันร้ายของหนุ่มสาวที่เยาว์วัย
วันนี้แก่พรุ่งนี้ตายใครจะรู้
ทนเพื่ออยู่ อยู่เพื่อยล คนรุ่นใหม่
ทุกเวลานาทีที่ผ่านไป
พร้อมกับลมหายใจที่อ่อนแรง
มองเส้นทางสายเปลี่ยวเมื่อเหลียวหลัง
รอยเท้ายังไม่เลือนคล้ายเงื่อนแฝง
เป็นแนวทางเพื่อสรรสร้างอย่าคลางแคลง
อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ใครตาม
มองหนทางยาวไกลไปข้างหน้า
แม้อ่อนล้าท้อใจหรือใครห้าม
จะก้าวเดินสู้อุตส่าห์พยายาม
สานความงามร้อยรจน์บทกวี
ทุกย่างก้าวมั่นคงตรงและซื่อ
โดยยึดถือคุณธรรมนำวิถี
แฝงสัจจธรรมนำชีวิตให้คิดดี
เผื่อพรุ่งนี้...ไม่หายใจ...ไร้กังวล
6 กรกฎาคม 2546 20:36 น.
แก้ว กรุงเก่า
อำนาจใดในโลกนี้ที่ยิ่งใหญ่
เหนือภรรยาธิปไตย ยังไม่เห็น
เป็นอำนาจน่าเกรงขามสงครามเย็น
ของผู้เป็นภรรยาต่อสามี
เป็นอำนาจเบ็ดเสร็จที่เด็ดขาด
ถ้าบังอาจหลบหน้าหรือว่าหนี
จะถือว่ายอมรับกับคดี
หล่อนจะพูดเรื่องนี้อีกหลายวัน
แล้วเคราะห์กรรมก็จะตกกับอกผัว
ต้องหมองมัวเหี่ยวแห้งไม่แข็งขัน
ต้องอดกินของดีอีกกี่วัน
เปรี้ยวหวานมันพาลจืดชืดทันใด
เพราะฉะนั้นขอเตือนว่าบรรดาผัว
พึงเกรงกลัวผู้หญิงผู้ยิ่งใหญ่
การปกครองบ้านเรามอบเขาไป
อยู่ด้วยความเกรงใจจะให้คุณ
เวลาหล่อนดุว่าก็อย่าเถียง
นึกว่าเพียงเพลงกล่อมพึงน้อมหนุน
จงเพลิดเพลินงานบ้านสำราญบุญ
ความสมดุลย์จะมาเยือนถึงเรือนชาน
พึงเจียมตัวเจียมใจไว้สักนิด
อย่าได้คิดแข็งข้อหรือต่อต้าน
คิดว่าเป็นกรรมเก่าเข้ารังควาน
เพื่อความสุขตลอดกาลของครอบครัว
4 กรกฎาคม 2546 21:57 น.
แก้ว กรุงเก่า
กระท่อมน้อยหลังนี้มีความรัก
เฝ้าฟูมฟักอุ้มชูสู้ฟันฝ่า
แม้กัดกินก้อนเกลือเจือน้ำตา
ก็ก้มหน้าอดทนไม่บ่นเลย
เราสองคนใจเดียวเด็ดเดี่ยวนัก
ใช้ความรักนำพาอย่าผ่าเผย
เพียงมีกันและกันไม่หวั่นเลย
คำรักเผยต่อกันจนมั่นใจ
ยามเหน็ดเหนื่อยกลับมาเห็นหน้าน้อง
ยืนยิ้มย่องคอยท่าน่ารักใคร่
เห็นรอยยิ้มความเหนื่อยหน่ายก็หายไป
จะตั้งใจสร้างฝันฉันและเธอ
ฝันจะสร้างรังรักสักหลังหนึ่ง
เป็นที่ซึ่งอุ่นไอรักใคร่เสมอ
แม้หนทางยาวไกลหาไม่เจอ
ยังคงเพ้อหาทางสร้างวิมาน
เพียงได้กอดน้องนอนได้อ้อดออด
ได้พร่ำพลอดน้ำคำที่ฉ่ำหวาน
ได้ชมนกชมไม้ชมสายธาร
สู่วิมานสุขสมชมดาวเดือน
พลัน...วิมานที่วาดไว้ในอากาศ
ก็เอนลาดสั่นไหวเหมือนใครเคลื่อน
ค่อยค่อยลืมดวงตาที่พร่าเลือน
ยินเสียงเตือน...ตื่นหรือยัง ไอ้หลังยาว