26 มิถุนายน 2546 21:15 น.
แก้ว กรุงเก่า
เจ้าจากนา จากไร่ ไปจากพี่
หลงแสงสี ลิ้นลม คำคมขาน
ลืมคำรัก ฝากกัน เมื่อวันวาน
ลืมคำหวาน สิ้นหมด ลืมบทกลอน
บ้านริมคลอง หลังเก่า รอเจ้ากลับ
เพื่อซึมซับ ความหลัง เมื่อครั้งก่อน
คอยคร่ำครวญ หวลหา ห่วงอาทร
ฝากลมวอน ความนัย ไปบอกนาง
ข้าวแตกรวง ไผ่แตกหน่อ รอคอยเจ้า
นกน้อยเหงา ไม่เริงร่า บนฟ้ากว้าง
ลั่นทมทุ่ง ร่วงหล่น เกลื่อนบนทาง
ความสว่าง จากแสงจันทร์ พลันลางเลือน
กลับถึงบ้าน ตอนเย็น เคยเห็นหน้า
ยิ้มรอท่า บาดใจ ใครจะเหมือน
เตรียมสำรับ พร้อมไว้ ไม่แชเชือน
ยามนี้เรือน ขาดเจ้า พี่เศร้าตรม
เคยเคียงคู่ กอดนอน แทนหมอนข้าง
ต้องอ้างว้าง หมองไหม้ ใจขื่นขม
ก่ายหน้าผาก กอดหมอน นอนระทม
กล่อมอารมณ์ ด้วยสุรา จนสาใจ
เพราะความจน คนดี จึงหนีจาก
ทนลำบาก อยู่กับพี่ นี้ไม่ไหว
เธอจึงหนี จากนา หายหน้าไป
ทิ้งพี่ให้ เมาเหมือนบ้า กับยาดองฯ
26 มิถุนายน 2546 20:59 น.
แก้ว กรุงเก่า
กาพย์ฉบัง ๑๖
ปาเจรา จริยาฯ คือคำบูชา
สุนทรภู่ ครูกวี
ท่านเป็นรัตนเมธี ปราชญ์แห่งบุรี
ผู้มีผลงานมากมาย
สุภาษิตสอนหญิงชาย โคลง กาพย์ กลอน ร่าย
นิราศ เสภา น่าฟัง
สืบสานกลอนกานท์อยู่ยั้ง หลอมรวมพลัง
คำสัตย์คำศิษย์ปณิธาน
ปัญญาวุฒิฯ ปฏิภาน จงเกิดตระการ
แก่ข้าฯผู้บูชาครู
25 มิถุนายน 2546 20:15 น.
แก้ว กรุงเก่า
รถมาถึง วัดป่า สาละวัน
เจ้าภาพพลัน ต้อนรับ ไม่อับเฉา
อาหารคาว อาหารหวาน เลือกทานเอา
แต่ว่าเรา ทานไม่ลง พะวงใจ
มาถึงวัด หักใจ ไม่วายคิด
ทนเก็บจิต ใจจ่อ มันก่อใหม่
เพราะไม่เจียม ใจเรา จึงเศร้าใจ
ว่าอย่างไร ก็ไม่หือ ใจดื้อจริง
เห็นเพื่อนบวช ปีหน้า จะบวชบ้าง
เพื่อจะอ้าง อ้อนพ่อ ไปขอหญิง
บวชแล้วเบียด ใครใคร คงไม่ติง
ได้แอบอิง แนบกาย คงหายตรม
จบนิราศ ของเรา เพียงเท่านี้
ยกความดี ให้ครูบา อาจารย์..ผม
หากพลาดพลั้ง เผลอผิด เชิญติชม
จะกราบก้ม งอนง้อ ขออภัย
แม้ฉากหนึ่ง ของชีวิต ปิดลงแล้ว
คงไม่แคล้ว ที่จะเปิด ขึ้นมาใหม่
ดำเนินเพื่อ ความอยู่รอด ตลอดไป
ตราบที่ยัง หายใจ อยู่ได้...เอยฯ
25 มิถุนายน 2546 19:57 น.
แก้ว กรุงเก่า
.....ถึงโคกกรวด โรงงาน อาหารสัตว์
ขวามือตัด เข้าไป มทส.*
ส่วนทางซ้าย ไปบ้านขามฯ** งามละออ
เส้นทางต่อ ไปได้ หลายอำเภอ
(* มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี)
(**อ.ขามทะเลสอ)
ถึงบ้านดอน บ้านนี้ มีวัดใหญ่
น่าเลื่อมใส จดจำ นำเสนอ
นางพญา งิ้วดำ จำนะเออ
หากว่าเธอ ผ่านมา หาติดตัว
ราชสีมา วิทยาลัย ใกล้ทางผ่าน
มีสองศาล ตาลคู่ รู้กันทั่ว
ตอนกลางคืน ผ่านมา ดูน่ากลัว
ใจเต้นรัว ยามเรา ผ่านเงาตาล
ถึงแยกปักฯ เดี๋ยวนี้ไป ได้หลายแห่ง
ก่อนสามแพร่ง เดียวนี้ เป็นสี่ย่าน
ซ้ายแยกไป โนนสูง* แหล่งโบราณ
ขวาตัดผ่าน ทางหลัก ปักธงชัย**
จะเข้าเมือง ตรงไป ไม่ต้องเลี้ยว
แค่เดี๋ยวเดียว เพียงอึดใจ ก็ไปถึง
ล้วนรถรา มากล้น คนอื้ออึง
ไฟแดงจึง จอดไว้ เพียงไม่นาน
(*อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา)
(**อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา)
ถึงโคราช ต้องไป ไหว้คุณย่า
ขอขมา ตั้งจิต อธิฎฐาน
ลูกมาจาก บ้านไกล ได้โปรดปราน
ให้พบพาน ความสุข ทุกวันไป
จะคิดทำ สิ่งใด ให้สำเร็จ
ล่วงลุเสร็จ สุขสันต์ ดังฝันไฝ่
จะเดินทาง ทุกครั้ง ทั้งใกล้ไกล
จงปลอดภัย แคล้วคลาด พ้นหวาดกลัว
คนที่เรา รักมั่น ผูกพันชอบ
จงรักตอบ เห็นใจ เข้าใจทั่ว
ที่เคยร้าง ห่างไป มาใกล้ตัว
ที่เคยยั่ว ให้โกรธ ขอโทษเรา....
25 มิถุนายน 2546 19:47 น.
แก้ว กรุงเก่า
.......ถึงสีคิ้ว นามนี้ อำเภอใหญ่
หลายครั้งไป ราชการ ผ่านไปถึง
แวะไหว้หลวง พ่อโต* แห่งวัดบึงฯ
ที่ที่ซึ่ง พี่เอก**ทำ บุญบำเพ็ญ
(*สมเด็จพระพุฒาจารย์...โต พรหมรังสี)
(**คุณสรพงษ์ ชาตรี ผู้สร้าง )
มะเกลือใหม่ มะเกลือเก่า เราก็รู้
เป็นชื่อหมู่ บ้านบ้านใหญ่ ใครก็เห็น
เคยมาเยือน คราวก่อน ในตอนเย็น
มาเที่ยวเล่น บ้านเพื่อน ค้างเรือนนอน
ถึงสูงเนิน เมืองเก่า เขาค้นพบ
จารึกครบ ปราสาทหิน* ถิ่นเก่าก่อน
เป็นอโร-คยาศาล-แห่งนคร
มีพระนอน**จมหาย อยู่ปลายคลอง
(*ปราสาทเมืองเก่า และปราสาทโนนกู่)
(**พระนอนวัดตะคองหลง)
มาถึงบ้าน บุใหญ่ ไร่มะขาม
ฝั่งตรงข้าม สวนกล้วย เป็นห้วยหนอง
มีหมู่บ้าน ไม่ไกล ตั้งใจมอง
ชื่อบ้านหนอง...โสน...ท่านลองอ่านดู
ถึงกุดจิก หมู่บ้าน ทางผ่านนี้
เป็นสถานี รถไฟ เคยใช้อยู่
ที่นี่เขา ค้าขายกัน นานพอดู
เดี๋ยวนี้ผู้ ค้าขาย หายหน้าไป
สลักใด ใครก็รู้ ชื่อหมู่บ้าน
อยู่ในย่าน ชุมชน ถนนใหญ่
มีทางแยก ยวดยาน ผ่านเข้าใน
หลายบ้านใช้ เดินผ่าน นานพอควร
ถึงบ้านนา นาไร่ ทุ่งใหญ่มาก
ยามน้ำหลาก ยากไร้ ท่วมไร่สวน
เมื่อนาล่ม ไร่ล่ม ล้มกระบวน
ชาวนาหวล โศกเศร้า ต้นข้าวตาย
เมื่อชาวนา ชาวไร่ ไม่ได้ผล
แม่ค้าบ่น หน้าหมอง ไร้ของขาย
ลำบากหมด ทุกข์จริง ทั้งหญิงชาย
ลำบากกาย จงอย่าบ่น อดทนรอ.....