26 เมษายน 2547 22:42 น.
แก้ว กรุงเก่า
ขิมขานขับรับล้อกับซอด้วง
จะเข้หน่วงสายน้าวคลอเคล้าเสียง
ขลุ่ยเพียงออ ซออู้อยู่คู่เคียง
ฉิ่งไล่เลียงโทนย่ำรำมะนา
ประสมเสียงเครื่องสายกรีดกรายนิ้ว
เพียงแผ่วพลิ้วพอดีสมทีท่า
ทุกจังหวะเคลื่อนไหวในลีลา
ดุจนางฟ้าคนธรรพ์มาบรรเลง
เหมือนต้องมนต์ดนตรีไทยช่างไพเราะ
เสียงเสนาะประโลมใจไม่รีบเร่ง
สืบตำนานความรู้จากครูเพลง
แว่ววังเวงซึ้งซ่านหวานละมุน
เสียงเพลงหวานขานรับที่ขับร้อง
ท่วงทำนองแช่มช้าไม่ว้าวุ่น
ทางดนตรีอย่างนี้สิมีคุณ
ช่วยเกื้อหนุนนำพากล่อมอารมณ์
หากเคืองแค้นแน่นอกใจตกต่ำ
หรือใครทำคับข้องใจให้ขื่นขม
ฟังดนตรีชื่นใจหายตรอมตรม
เชิญชื่นชมเถิดคนดี...ดนตรีไทย
ลาวดวงเดือน..เอื้อนเอ่ยเผยใจพี่
โอ้ละหนอคนดีจะรู้ไหม
พม่าเขว ...ใจเจ้าเขวรวนเรไป
เขมรไทรโยก ...ครวญไห้หวลตาม
พญาโศก ...โศกใจใครจะเหมือน
ลาวแพน ...เตือนตอกย้ำทุกคำถาม
มอญมอบเรือ ...มอบใจให้คนงาม
ล่องน่าน ...ตาม...จีนลั่นถัน ...ไม่สันทัด
ดำเนินทราย ...พี่สมัครรักนุชน้อง
ที่หมายปองรอคอย...สร้อยสนตัด
ไม่นึกเลยว่าจะช้ำ...จีนรำพัด
หรืออ่อนหัดจีบสาว...ลาวกระแต
แขกสาหร่าย ...พบเมื่อสายน่าอายนัก
อาลัยรักไห้หวล...ญวณทอดแห
พม่าเห่ ...นางครวญ ...ใจปรวนแปร
นกเขาขะแมร์ ...ลาวจ้อย...สร้อยแสงแดง
ลาวสมเด็จ..มาละเลยเคยเคียงข้าง
ลาวลำปาง...เจ้าลาลับเมื่ออับแสง
ลาวเจ้าชู้...บ้านไกลมาไล่แซง
ลาวเล่นน้ำ...ซ้ำแกล้งให้ร้าวราน
เพลงไทยเดิมของดีมีคุณค่า
ศิลป์ภาษาสูงส่งจงสืบสาน
มรดกภูมิปัญญาครูอาจารย์
เราลูกหลานรุ่นใหม่ภูมิใจจำ
20 เมษายน 2547 23:13 น.
แก้ว กรุงเก่า
เป็นพระสงฆ์องคเจ้าเขากราบไหว้
หากจิตใจยังกรุ่นคุด้วยมุสา
ยังหลงรูปหลงนามกามกามา
ไม่ควรค่าผู้นำธรรมวินัย
ที่ชีพยังอยู่ได้อาศัยบาตร
ชาวบ้านขาดศรัทธาจะหาไหน
ผ้าที่ครองหมองหม่นไม่สนใจ
อาวาสที่อาศัยไม่เหลียวแล
กินแล้วนอนหลับสบายไม่ทำวัตร
สารพัดอัตตาของข้าแน่
ใครตักเตือนไม่สนใจฉันไม่แคร์
โยมพ่อแม่คงไม่สอนก่อนบวชเรียน
เป็นพระสงฆ์หลงใหลโลกไซเบอร์
มาพร่ำเพ้อพล่อยพล่อยชะม้อยเขียน
สาธุชนผ่านมาอยากอาเจียน
สิ้นกลิ่นธูปสิ้นแสงเทียนสิ้นศรัทธา
1 มกราคม 2547 09:28 น.
แก้ว กรุงเก่า
ขอร้อยรจน์ต่างมาลัยมอบให้มิตร
เป็นลิขิตร้อยกรองต่างของขวัญ
แทนสายไยไมตรีที่ผูกพัน
ที่ต่างมีให้ต่อกันตลอดมา
กับหนึ่งปีที่ผ่านมามีค่ายิ่ง
มีหลายสิ่งที่หลายคนต่างค้นหา
บ้างมีพบบ้างพลัดพรากบ้างจากลา
มีน้ำตามีสุขเศร้าเคล้ากันไป
ศุภฤกษ์เบิกฟ้าในครานี้
ให้ทุกท่านโชคดีรับปีใหม่
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย
ปกป้องพ้นผองภัยตลอดปี
ให้ร่ำรวยเงินทองกองตรงหน้า
ทำการค้ามีกำไรให้สุขศรี
รวยศีลธรรมจรรยาบารมี
รวยความดีความสวยรวยปัญญา
เก็บเม็ดกรวดเม็ดทรายมารายล้อม
เก็บความหอมมวลมาลีอันมีค่า
เก็บแววแสงแห่งตะวันและจันทรา
เก็บกรองสายธาราที่ใสเย็น
เก็บทิวเขาพงไพรและไอหมอก
เก็บฟองคลื่นริ้วระลอกที่โลดเต้น
เก็บสายลมยามค่ำที่ฉ่ำเย็น
เรียงร้อยเป็นมาลัยมอบให้เธอ
21 ธันวาคม 2546 17:51 น.
แก้ว กรุงเก่า
อีกเมนูรับหน้าหนาวบอกสาวเจ้า
คือ...ปลาเผา-ยอดสะเดา-น้ำปลาหวาน
ภูมิปัญญาเลิศล้นคนโบราณ
เป็นอาหารเป็นยาคุณค่าครอง
สะเดาขมนั้นเป็นยารักษาไข้
ทานกับปลาย่างไฟบำรุงสมอง
น้ำปลาหวานแก้ขมคงสมปอง
ให้กินง่ายถ่ายคล่องเชิญลองชิม
เก็บสะเดายอดอ่อนตอนมีดอก
ลวกน้ำร้อนรสขมออกดอกจะนิ่ม
ใส่มะขามแก้สีคล้ำเคยทำชิม
พร้อมกับจิ้มน้ำปลาหวานสูตรนั้นมี
ทอดพริก ทอดกุ้งแห้ง หอมแดงเจียว
น้ำตาลปึกลงเคี่ยวจนได้ที่
ใส่กะปิ มะขามเปียก น้ำปลาดี
ชิมรสมีหวานนำเปรี้ยวตามไป
ย่างปลาดุกตัวกลางกลางจนหนังกรอบ
เผาปลาช่อนก็ของชอบจะบอกให้
ถ้าไม่มีทั้งสองปลาไม่ว่าอะไร
ปลาทูทอดก็ใช้ได้อร่อยดี
ตักเนื้อปลามาใส่ในจานข้าว
ยอดสะเดาเด็ดมาอย่าเบือนหนี
น้ำปลาหวานโรยด้วยช่วยรสดี
พริกทอดมีโรยกุ้งแห้งหอมแดงเจียว
ชอบของขมสมคำขานโบราณกล่าว
ชมเด็กสาวคราวลูกหลานปานจะเกี้ยว
เล่าความหลังตั้งแต่ครั้งยังหนุ่มเปรียว
คนจะเที่ยวชมเรา.....เฒ่าหัวงู
19 ธันวาคม 2546 20:45 น.
แก้ว กรุงเก่า
สูตรอาหารสรรมารับหน้าหนาว
ไก่บ้านสาวต้มใส่ใบมะขาม
ได้ลิ้มรสถูกใจใครก็ตาม
เป็นต้องถามถึงสูตรนี้ทุกทีไป
เตรียมเครื่องปรุงโดยสับไก่ให้เป็นท่อน
เก็บยอดอ่อนมะขามนำมาให้
อีกหอมแดงกระเทียมเอามาเผาไฟ
ข่า-ตะไคร้-มะกรูด-มะขามและน้ำปลา
ได้เกลือนิดมะนาวหน่อยอร่อยซด
ถ้าชูรสด้วยพริกเผาก็เข้าท่า
วิธีปรุงเทียบเคียงเรียบเรียงมา
ตามตำราส่วนตัวพ่อครัวไทย
ต้มน้ำให้เดือดใส่ตะไคร้-ข่า
หอมกระเทียมเตรียมมาโขลกเข้าใว้
พร้อมทั้งเลือกมะกรูดรูดแต่ใบ
แล้วใส่ไก่-ใบมะขามและน้ำปลา
รอเนื้อไก่ให้เปื่อยจึงปรุงรส
ทุบพริกสดใส่ไปก็ไม่ว่า
มะขามเปียกเติมด้วยช่วยโอชา
น้ำมะนาวนำมาใส่อีกที
อร่อยแล้วลิ้มรสซดร้อนร้อน
หลงหยิบช้อนติดมือเชียวหรือนี่
ได้ข้าวสวยจากมือน้องสองทัพพี
หลับฝันดีนอนกอดตลอดคืน