18 พฤศจิกายน 2549 23:37 น.
แก้ว กรุงเก่า
ไม่เหลือแล้วเรี่ยวแรงจะแข็งขัด
เพียงลมพัดก็จะปลิวจากทิวป่า
ก้มดูดินทนอยู่สู้ชะตา
แหงนมองฟ้าจุดหมายดูไกลเกิน
ครั้งชูช่อแรกวัยเป็นใบอ่อน
สายลมวอนวนพัดไม่ขัดเขิน
สะบัดใบไม่เบื่อเหมือนเชื้อเชิญ
จนจำเริญมั่นคงแตกวงศ์วาร
จากเขียวเข้มอร่ามเรืองเป็นเหลืองกรอบ
ผ่านแดดฝนหลายรอบล่วงเลยผ่าน
ทั้งดีร้ายรุมเร้ามาเนานาน
ผ่านเรื่องราวร้าวรานและร้อนรน
ผ่านวันสุขวันเศร้าคืนหนาวเหน็บ
ปล่อยใจเจ็บละลายกับสายฝน
โอบน้ำค้างครอบครองเป็นของตน
แฝงความหม่นมืดดำของค่ำคืน
แล้วก็คงร่วงไปไม่ไกลต้น
ทับถมปนเกลื่อนไปกับใบอื่น
รอเวลาเปื่อยผุวันลุคืน
ซึมซับความชุ่มชื่นเพื่อผืนดิน
เป็นเศษเสี้ยวความดีพอมีบ้าง
ถมแทนร่างแทนกายที่ตายดิ้น
ไม่สูญเปล่าแม้ไร้ใครยลยิน
เพื่อแผ่นดินทำไปเถิดใบไม้
16 สิงหาคม 2549 23:48 น.
แก้ว กรุงเก่า
เมื่อความรักเข้าตาให้ว้าวุ่น
เฝ้าคิดครุ่นนอนไม่หลับกระสับกระส่าย
อดเสน่หาครั้งหนึ่งไม่ถึงตาย
แต่ทำร้ายหัวใจให้ร้าวรอน
เคยมีรักเข้าตาเมื่อคราหนึ่ง
สบตาซึ้งซึมซาบเหมือนภาพหลอน
มองแววตาใสใสใจอาวรณ์
ได้กอดนอนสบตาซึ้งเพียงครึ่งคืน
ยิ่งสบตาสองเรายิ่งเศร้าสร้อย
น้ำหยดน้อยคลอสองตาผวาตื่น
ทุกความเงียบคือถ้อยคำของค่ำคืน
เสียงสะอื้นก่อนลาบาดอารมณ์
มาตามหารักเข้าตาเมื่อครานั้น
ผ่านคืนวันเดือนปีที่ขื่นขม
พบรักเก่าเมื่อเราแก่มีแต่ตรม
แก้เก้อก้มถามคนดีลูกกี่คน
9 สิงหาคม 2549 19:07 น.
แก้ว กรุงเก่า
มะลิร้อยเป็นมาลัยไปให้แม่
ก็เพียงแค่ชื่นใจเมื่อได้กลิ่น
ขนมหวานแค่ชื่นใจเมื่อได้กิน
เสียงเพลงหวานเมื่อได้ยินแค่ชื่นใจ
แต่แม่แสนดีใจได้เห็นลูก
ความพันผูกท้วมท้นแต่หนไหน
อยากเห็นหน้าลูกหลานไม่ต้องการอะไร
รีบกลับไปกราบแม่....ท่านแก่แล้ว
16 กรกฎาคม 2549 13:47 น.
แก้ว กรุงเก่า
ดวงตะวันลับลิ่วทิวแถวเถื่อน
ภาพลางเลือนยามค่ำย้ำความหมาย
สิ้นแสงสูรย์เงียบสงัดลมพัดพราย
ท่ามพุ่มพฤกษ์เรียงรายคล้ายม่านคลุม
เสียงจักจั่นแว่วมาจากป่ากว้าง
หนาวน้ำค้างพรมพรำจนฉ่ำชุ่ม
คิดถึงนุชยามนอนใจร้อนรุม
อกคนหนุ่มเหลือน้อยจำปล่อยวาง
แก้วต้องลาจากไปใจลอยเลื่อน
จำร้างเพื่อนอำลาตอนฟ้าสาง
กลิ่นลำดวนยวนใจยังไม่จาง
ทุกทุกอย่างงดงามความทรงจำ
ด้วยน้ำใจไมตรีที่มีให้
คนบ้านไกลแรมคืนจึงชื่นฉ่ำ
อาหารอร่อยถูกใจอีกหลายคำ
พร้อมบทเพลงหวานล้ำในค่ำคืน
ขอขอบคุณครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
และเด็กเด็กบ้านตานวนล้วนสดชื่น
การต้อนรับประทับใจในค่ำคืน
จนดึกดื่นรื่นรสบทลำนำ
สงบเงียบเรียบง่ายกลางไพรเถื่อน
ในโรงเรือนคร่ำคร่าแต่คราคร่ำ
มิตรภาพเรียงร้อยผ่านถ้อยคำ
เป็นคืนค่ำประทับใจไม่จืดจาง
แสนดีใจปลื่มใจใครจะคิด
ได้พบมิตรบ้านกลอนไทยได้เคียงข้าง
ร่วมทำบุญกับเพื่อนแก้วเป็นแนวทาง
ที่สรรสร้างประกายเล็กเล็กเพื่อเด็กไทย
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่พนมดงรัก
หน่วยพิทักษ์สัตว์ป่าได้อาศัย
ให้ที่พักอุ่นสบายทั้งกายใจ
ท่ามกลิ่นไอป่าอุ่นเหมือนคุ้นเคย
ทั้งเสียงเพลงดนตรีก็มีพร้อม
มานั่งล้อมเพลงฟังอย่านั่งเฉย
คนละเพลงสองเพลงบรรเลงเลย
คนคุ้นเคยเป็นกันเองอย่าเกรงใจ
ขอขอบคุณฉันทะโสและกันเอง
สองครูหนุ่มนักเพลงคอยเคียงใกล้
กับครูสาวสองท่านที่มีน้ำใจ
แกงหน่อไม้อร่อยมากฝากขอบคุณ
ไม่ขอบคุณหมอหมงคงไม่ได้
ท่านใส่ใจเคียงข้างอย่างอบอุ่น
ให้เกียรติแก้วล้นเหลือเกื้อการุณ
ขอโชคหนุนบุญผสานผลงานเพลง
แม้นบุญมีวันข้างหน้าจะมาใหม่
ยามนี้ใจร้อนรนจนรีบเร่ง
ต้องด่วนกลับไปรับขวัญเมียฉันเอง
ด้วยเพราะเกรงจะเดือดร้อนนอนคนเดียว
16 กรกฎาคม 2549 09:24 น.
แก้ว กรุงเก่า
ขนมไมตรีมีมากมายไปไหนหมด
แสนสลดอับอายขายหน้าเขา
ให้เด็กน้อยมันนินทาปู่ย่าเรา
ยังมัวเมาในอัตตาไม่น่าเลย
แล้วที่สั่งสอนเขาให้เอาอย่าง
อุเบกขาสายกลางจงวางเฉย
มุทิตาพลอยยินดีไม่มีเลย
ความเมตตาอย่างเคยอยู่ไหนกัน
ลดทิฐิลดอัตตาลงมาบ้าง
อยากเห็นอย่างเมื่อก่อนผ่อนยาวสั้น
ขอโทษที-ไม่เป็นไรเข้าใจกัน
ล้วนพี่น้องกันทั้งนั้นทั้งหญิงชาย
ใช้ปากกาสร้างสรรค์กันดีกว่า
ต่อภายหน้าชีพดับลับสลาย
ระลึกถึงสิ่งดีดีตอนที่ตาย
วางดอกไม้...ไว้อาลัย...อภัยกัน