18 กรกฎาคม 2551 15:41 น.
เฮาชาวดอย
แด่แฟนๆดาราเกาหลี
นกเอยเจ้านกน้อย ถลาลอยกลางสายฝน
ป่าใหญ่ไร้ผู้คน ไฉนเจ้าบ่เข้าเมือง
สายเดี่ยวมีให้ใส่ สีสันไฟคนลือเลื่อง
อยู่ป่าสิเปล่าเปลือง ก็ไร้คู่อยู่เอกา
เข้าเมืองแสนสบาย มีผู้ชายให้คบหา
มีภาพพี่ดารา- เกาหลีร่าน!ทั้งแผ่นดิน
ไปเถิดไปนุ่งสั้น อวดอวบอั๋นกันทั้งสิ้น
ไปเรียนลืมภูมิถิ่น ลืมแผ่นดินที่เคยนอน
ตัวข้าไม่ไปดอก ทั้งห่าหอกตั้งสลอน
สัตว์ร้ายในนคร จักฆ่าข้าไม่ไป
ข้านกมีศักดิ์ศรี จักอยู่นี่เคียงบ่าไหล่
แผ่นดินลุกเป็นไฟ ก็จะไม่จากพนัส
นกเอยเจ้านกกล้า ชูปีกท้าขึ้นกำหมัด
เจ้าเด่นดังเช่นรัตน์ ที่ฉายวัยไฟศรัทธา
เป็นนกยังรักถิ่น คุณแผ่นดินเจ้ารู้ค่า
บางใครไร้ปัญญา กลับลืมถิ่นแผ่นดินตน!!!~
นายฉัตรสุมาลย์ ภูแต้มนิล
ประพันธ์
17 กรกฎาคม 2551 21:19 น.
เฮาชาวดอย
แต่ละคำแต่ละคำจำรัสโสต
แต่ละคำปรานโปรดโสตวิสุทธิ์
ปากกาคมคมปากกาคืออาวุธ
ที่จะจุดเทียนชัยให้แผ่นดิน
คือดอกไม้อหังการงานอักษร
ถ้อยสุนทรประดับค่าภาษาศิลป์
ประดับไทยวรรณคดีศรีธรณิน
ประดับนามไม่สิ้นจีรนันท์
สุสานทรายร่ายคำงามล้ำค่า
หกตุลาวิปโยคอันโศกศัล
และใบไม้ที่หายไปในไพรวัลย์
ดอกไม้จะบานพลันในธานี
ไฟศรัทธาปัญญาชนคนของโลก
ลบน้ำตาคราโศกด้วยศักดิ์ศรี
สร้างคุณค่าชัยชนะแก่สตรี
โดยมือนี้จีรนันท์ พิตรปรีชา
ผ้สั่งสมอุดมการณ์สร้างงานเขียน
ให้โลกเรียนรู้รักษ์ตระหนักค่า
ในวันนี้ยุติธรรมฉายนำพา
ประดับหล้า จีรนันท์ นิรันดร์กาล
นาย ฉัตรสุมาลย์ ภูแต้มนิล
(เฮาชาวดอย)
ประพันธ์
๑๕/๐๗/๒๕๕๐/ชวด
อุบากองที่ ๒
16 กรกฎาคม 2551 05:51 น.
เฮาชาวดอย
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
เอาเศียรต่างชุลิกรพนมดุริยโศก หมื่นแสนสิทั้งโลก
บ่ปาน
ครูจูหลิงรุหะชนวิรัชบุรจารย์ สืบศิลป์อุดมการณ์
บ่สูญ
คือครูผู้สละสุขอตมบูรณ์ การุณย์นุเกื้อกูล
วิชา
แม้ชีพของอตะนี้สิสูญสิมรณา ขอไทยสงบศา-
ติพลี
เป็นครูเป็นครุชนสิแก่น ณ ธรณี เป็นเกียรติศักดิ์ศรี
อนันต์
อิทิสังฉันท์ ๒๐
อัฐฐะมกราวสาสุกร ตะวันจะเที่ยงชิวาก็มรณ์
มลายลง
พิมพ์คุณูปการประดับผจง สยามประเทศไผทสิทรง -
จำวันนี้
เกตุมดีฉันท์ ๒๑
วิปโยคนคร สุริยะรอนลา
สูญครุวิชา ชนะประดับแดน
โคลงขับไม้ (ช่วงรำ)
ครูจูหลิงร่วงแล้ว ลาสยาม
เหลือชื่อและเหลือนาม นั่นไว้
โดยโลกทั้งโลกสาม สดับเหตุ
จรรยาพฤติดั่งบริมาสให้ บริบูรณ์
แสงสูรย์อันส่องหล้า สว่างหรือ
อวิชชาบ่สิ้นคือ ครูให้
พายุสิก็ถือ เทียนสว่าง
คือประทีปประเทืองไท้ ทีปกร
พนมกรกราบครูจุ้ย จูหลิง
ต่างประทีปกราบคนจริง จรัสกล้า
วิญญาญครูวิญญูสิง สถิตทิพย์ เถิดนา
ประทีปประดับหล้า นิรันดร์
13 กรกฎาคม 2551 13:18 น.
เฮาชาวดอย
แก๊กแก๊กนกแสกร้อง
ดังกึกก้องอีศาณใต้
เสียงแคนห่างแดนไกล
ไม่เหลือสิ้นทั้งดินแด
ดูตาตายังหลับ
พลังกลับไร้แรงแขน
หัวใจอันคับแค้น
หรือหลับแล้วในแววตา
ศักดิ์ศรีศรีสะเกษ
บอกอาเภทเหตุมหา
ดรุณไทยพัฒนา
จะเริ่มเสื่อมอำนาจลง
เมืองขึ้นเมืองขี้ข้า
ทางข้างหน้าสยามหลง
หากไทยครองไทคง
ไม่สิทธิ์ขาดที่สากล
ศาลโลกโสโครกธรรม
ไทยถลำเพราะนภดล
สืบโคตรชั่วโคตรคน
คงไม่สิ้นหน่อสามาลย์
หากเทวามีตาทิพย์
นิ้วทั้งสิบปากกล่าวขาน
สละอาสน์มาเป็นพยาน
แก่พวกข้า ข้าวอนขอ
ใครผิดจงตรัสผิด
ใครทุจริตจงตัดคอ
เหตุผลหรือต้นตอ
จงจำแนกอย่างเป็น
ฝรั่งเศส เศษสวะ
ชัยชนะอันน่าขำ
ชนะเมืองได้เมืองนำ
ก็หาได้ชนะกู
ทำร้ายไทยอ่อนแอ
สามานย์แท้พวกหมาหมู่
มีโสตเสือกไม่รู้
มีเนตรแท้ไม่แลเห็น
น้ำตาคืออาวุธ
ไม่สิ้นสุดไม่หยุดเป็น
ดั่งสมุทรคำรามเข่น
ท่วมศาลโลกโสโครกศาล
น้ำตาเราคือไฟ
หิมาลัยเป็นปราการ
หนึ่งหยดลงเผาผลาญ
ให้แหลกราญทั้งแผ่นดิน
ฝรั่งมีสองแขน
เราก็แม้นปานเหล็กหิน
เลือดเราที่หลั่งริน
คือเลือดแห่งวีรชน
ลุกเถิดพี่น้องข้า
ลุกขึ้นมาสู้อีกหน
ค้อนเคียวอันเขรอะดล
จักโชนแสงแห่งคมเคียว
มีดาบเราจับดาบ
อย่าสิโรราบจงแน่นเหนียว
หัวใจเราดวงเดียว
จงฟันฝ่าศาลสากล
6 กรกฎาคม 2551 17:23 น.
เฮาชาวดอย
ฉันฝันสุดขอบฟ้า
ฝันว่าหญ้าหยัดเกรียงไกร
เห็นน้ำสีใสใส
สะทกท้านทั้งสาธร
ฉันเห็นสองกรกล้า
ของชาวนากรรมกร
ชูขึ้นท้าสิงขร
ด้วยสองมือคือกำลัง
เวลาที่ผันผ่าน
อุดมการณ์ที่ปลูกฝัง
เดินพลาดมากี่พลั้ง
จนเขาย่ำว่าต่ำชน
พี่น้องเจ้าคือดิน
มิรู้สิ้นทุกแห่งหล
พี่น้องเจ้าก็คน
มีหัวใจอยู่ในทรวง
วันนี้เราเสียแดน
ณ แคว้นกันทรลักษณ์หวง
น้ำตาเรารินร่วง
สงสารไทยไร้คนจริง
พี่น้องผองสหาย
เกิดเพื่อตายทั้งชายหญิง
สิ่งหนึ่งจึงประวิง
กตัญญูคุณแผ่นดิน