18 พฤษภาคม 2551 12:28 น.

เทิด อัศนีย์ พลจันทร์ นิรันดร์กาล

เฮาชาวดอย


เขาคือผู้ยิ่งใหญ่นายผี  ฮัศนีย์  พลจันทร์

เพลงเดือนเพ็ญเย็นปลุกลุกอีศาน
เผาดินดานด้วยไฟเย็นเป็นผุยผง
สายลมพัดต้นไม้ให้หักลง
ไฟแห่งเทียนอยู่ยงจงศรัทธา

โดยศรัทธาากล้าทำนำเหตุผล
ปัญญาชนหนึ่งสมองด้วยสองขา
ท่านคือเพชรแวววับประดับพนา
ประดับหล้า  อัศนีย์  พลจันทร์  นิรันดร

ลมพายุพัดราวคาวข้นเลือด
ค่อยหายเหือดเดือดหลั่งยังถั่งถอน
วีรชนผู้กล้าคราม้วยมรณ์
ยังลิบลับอาวรณ์ในบทเรียน

กาลเวลาฆ่าสหายอีกหลายผู้
เพื่อเชิดชูแผ่นดินนี้ที่ขีดเขียน
จงกร่นไฟเผาแกลบให้แนบเนียน
ประวัติศาสตร์จารึกเปลี่ยนความเป็นไทย

อัศนีย์  พลจันทร์  ผันอีศาน
สร้างตำนานคนจริงอันยิ่งใหญ่
อัศนีย์  พลจันทร์  จัญรูญใจ
ประทับชื่อสหายไฟในแผ่นดิน
				
16 พฤษภาคม 2551 21:35 น.

บทละครหุ่นเชิด

เฮาชาวดอย

บทละครหุ่นเชิด

             เมื่อนั้น              อันพระยาลืมตีนกินสมัย
เสด็จขึ้นเอมโอษฐ์โกรธประลัย              รับสั่งให้เลิกหมากพลูตามกูคิด
ว่าเหวยเหวยบ้านนอกเข้าคอกสัตว์          แผ่นดินนี้คือสมบัติกูประสิทธิ์
แล้ววาดฝันเป็นงามตามเนรมิต             พ่ออังกฤษ  อเมริกาสั่งข้าเทอญ
             บัดนั้น              อันข้าบาททาสไพร่ไปสรรเสริญ
กับกฎการใส่สูทรตบตูดเดิน            แล้วห่างเหินความเป็นไทยให้ลืมตีน
แม้นพระสงฆ์องคเจ้ายังเห่าเทศน์            ฆ่าคอมมิวนิสต์เพียงเศษไม่ผิดศีล
เพียงเสียงเห่าเอายศกำหนดปีน              ป่ายยศหีนชาติอำนาจเงิน				
11 พฤษภาคม 2551 20:39 น.

ไม่อยากเห็นความอ่อนแอ

เฮาชาวดอย


      ตาคู่นี้ที่กล้าเปลี่ยน
อยากจะเห็นใบหน้าตาคู่นี้     
ใครที่ไร้เดียงสาครามองเห็น
ขอชมตาคู่นี้ที่กล้าเป็น
กล้าเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์แต่ก่อนมา

ในวันที่อาทิตย์งาม  ณ  ยามเช้า
อยากเห็นเจ้าก้าวไปในทุ่งหญ้า
เก็บเอาวันวนเวียนเปลี่ยนเวลา
เอาดอกไม้กลางป่ามาแต่งเมือง

เจ้ายังไร้เดียงสากลางป่ากว้าง
แต่ละข้างแผ่นถิ่นดินขาวเหลือง
หากเลือกสีสันเล่าก็เปล่าเปลือง
เจ้าจะโตตัวเขื่องกินแผ่นดิน

หากสีขาวซาวสุนทุนระบอบ
ความเห็นชอบธรรมรวยด้วยทรัพย์สิน
หากเจ้าเลือกสีเหลืองเรืองระบิล
ทั่วทุกถิ่นหยัดดาวชาวนาไทย

ยังอยากเห็นความแกร่งแห่งต้นหญ้า
ยืนหยัดท้าทุนนิยมระทมสมัย
ไม่อยากเห็นน้ำตาคำอาลัย
ไม่อยากยินคำใครว่าอ่อนแอ
				
11 พฤษภาคม 2551 11:47 น.

ทะยานแห่งพายุ (อินทรวิเชียรฉันท์)

เฮาชาวดอย


           ทะยานแห่งพายุ

สงสารพม่านอ     บ่จะพอสงบเย็น
บ้างร้อนก็ร้อนเห็น     อุษย์โกรธพิโรธใด

ฤาว่าจะถูกสาป     สิริลาภแหนะไปไหน
จึ่งร้อนจะเป็นไฟ     มลทุกข์  ณ  มณฑล

น้ำป่าก็มาหลั่ง     ระดะถั่งระบบหน
พัดเฮือนสิเจียนจน     ก็กระชากผละจากไป

ลูกอ่อนละหลุดมือ     หถถือสะไปไส
เหม่อตาจะจมใน     อุทะก็กระโชกแรง

นากิส ฤทำลาย     นคร์หายกระแสแห่ง
ลมอื้ออุษายแดง     สิผสม  สิเลือดใด
				
10 พฤษภาคม 2551 21:47 น.

พม่าเวลาก่อน

เฮาชาวดอย


              แดนแห่งดอยพม่าไทยใหญ่
เสียงปืนเปรี้ยงแหกป่า  แสกกลางหน้าปานห่าผี
ฮวบล้มลงทันที      กับชีวิตที่ปลิดไป

ทรุดฮวบบ่มีฮ้อง      ลั่นร้องก้องจากปืนไผ
ร้อนผ่าดังห่าไฟ     เพียงตาเหม่อที่เก้อมอง

หนูน้อยหลุดมือพ่อ     สองมือนอที่เคยป้อง
พ่อมีสีเลือดนอง     เต็มใบหน้าตาคู่นั้น

แม่วิ่งมารับลูก      ก็ต้องถูกกระสุนปั่น
อกแม่แลเลือดพรั่น      กอดลูกท่าวทาวกับดิน

หนูน้อยกลางดอยรก     ต้องโผผกนกน้อยผิน
กลางดอยขุดกลอยกิน     ได้ใดเล่าด้วยเยาว์วัย

ทารกกลางรกป่า      ด้วยเดียงสาจะหาไหน
สงครามก่อจากใคร      แล้วไฉนเด็กรับกรรม

ไทยใหญ่กับพม่า     ยังต้องหาความเป็นธรรม
ดงดอยที่หมกดำ     ยังดื่นดาชั่งตาปี   
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเฮาชาวดอย