18 ตุลาคม 2551 05:14 น.

บางสะพาน สะท้อนทก

เฮาชาวดอย

บางสะพาน   สะท้อนทก



   บางสะพานสะทกท้าน	ป่าพัง
ถลุงเหล็กถลกหนัง	ป่าไหม้
นายทุนกอปรประโยชน์ยัง	คนยาก
อนุรักษ์ป่าอนุรักษ์ได้	ปล่อยน้ำเน่าเหม็น

   โลกเย็นลดโลกร้อน	ฉันใด
ปลูกป่าเพื่ออะไร	อื่นรู้
เราร่วมปลูกเพื่อใคร	ครองสิทธิ์
ปลูกป่าให้เสี่ยผู้	ตัดทิ้งฤาไฉน

    เปลี่ยนไพรเป็นเขตโอ้	อุตสาหกรรม
เปลี่ยนวิถีเปลี่ยนคุณธรรม	ถิ่นบ้าน
เป็นเมืองมืดหมกดำ	แดนเถื่อน
คนเปลี่ยนเป็นหยาบกร้าน	ขาดสิ้นไมตรี

  นับปีสูญป่าไม้	หมื่นแสน
ปีสิบคงหมดแดน	ดับหล้า
โครงการปลูกไม้แทน	มาทด
ปลูกเพื่อเขาตัดค้า	จักได้อันใด

    ใครผิดใครถูกแท้	คำนึงดู
ใครชั่วใครอดสู	ส่วนจ้าง
ลูกปืนที่พร่างพรู	ชำแรก
คือเศษการก่อสร้าง	เศษเนื้อคนจริง

    ขอเทิดทูนนักสู้	บางสะพาน
จงสถิตทิพย์วิญญาณ	อยู่ฟ้า
ขอไฟแห่งจิตกาธาร	เผาศพ
จงลุกอยู่คู่หล้า	สว่างแพร้วนิรันดร์

   วันหนึ่งซึ่งฟากฟ้า	อำไพ
เราจักประกาศชัย	โชติแก้ว
วันนี้มืดค่ำไป	                       เปล่ามืด
เราจักสว่างแพร้ว	ปลุกผู้หลับใหล
				
16 ตุลาคม 2551 05:56 น.

หิ่งห้อยหายไป

เฮาชาวดอย

หิ่งห้อยหายไป

  ระยิบระยับกับราตรีแต่งสีสันต์
อาบแสงจันทร์อันนวลชวนหลงใหล
ระยับแสงแข่งดาวพราวอำไพ
ระยับกลางหัวใจคราได้ยล

  ณ ผืนดินถิ่นนี้ที่ลึกลับ
มีทั้งความแตกดับและสับสน
ทั้งรอยยิ้มน้ำตาคราทุกข์ทน
ในหมู่ของผองชนบนแดนนี้

  ความมืดมิดนิทราคราคืนค่อน
หิ่งห้อยพเนจรอ่อนแสงสี
เจ้าบินหาสิ่งใดในราตรี
หาอาหารรมณี ณ ที่ใด

  ความมืดกับแสงอ่อนตอนกระพริบ
แลลิบลิบลอยเลื่อนคราเคลื่อนไหว
ค่ำคืนอันเหน็บหนาวแม้ยาวไกล
สักวันหนึ่งถึงชัยในสักวัน

   หิ่งห้อยจรนอนฟ้าราตรีหนาว
ผ้าห่มแห่งแสงดาวพราวความฝัน
คลื่นหมอกหนาวกลางทะเลของเหมันต์
ปีกบางนั้นหนักน้ำค้างกลางนภา

  เนรมิตแสงทองส่องผืนด้าว
ปานแสงดาวชโลมดินทุกถิ่นหล้า
แสงกระพริบระยิบทาบฉาบอุรา
ตระการตาสื่อผ่านตระการใจ

   สะดุ้งตื่นคืนกลับจากหลับฝัน
เจ้าหิ่งห้อยของฉันนั้นอยู่ไหน
ภาพป่าดงพงพีอยู่ที่ใด
ที่คอนโดฯตึกใหญ่ในป่าปูน

   ตื่นมาพบตึกใหญ่ในเมืองหลวง
พบเล่ห์ลวงโกงกินมิสิ้นสูญ
พบสังคมเศษขยะทวีคูณ
และกองกูลไร้ค่าในป่าคน
				
15 ตุลาคม 2551 04:13 น.

สุขสันต์วันเกิดคุณแม่นรศิริ

เฮาชาวดอย

ณ โลกนี้มีใครไม่มีแม่
ทั้งโลกแท้ย่อมแม่แผ่เกื้อหนุน
ทั้งห่วงใยเมตตาแม่การุณ
เปรียบพระคุณแทนสิ่งใดย่อมไม่มี

             ขีระหนึ่งหยดย้อย            ลูกกิน
ยิ่งกว่าล้านสมุทรสินธุ์                    อื่นแม้
คือสายแห่งชิวิน                             ชิวาตย์
จากแม่สู่ลูกแท้                                ยิ่งฟ้าสุธาธาร

 จิตกาธารผลาญแผดไหม้                 กี่ภพ
  ฤาจักแทนคุณครบ                     แม่ข้า
 กี่ชาติลูกจักสบ                           อีกแม่
 กี่วรรษฤากี่ฟ้า                          ลูกนี้จักเห็น

 เกิดเป็น ณ ชาติหน้า               หมื่นปี
พรากแม่จักไป่มี                       พบได้
พบแต่ปัจจุปันที                        ณ ชาติ
 ภพอื่นหมื่นภพให้                     ห่างแล้วจำลา

    มารดาเฝ้าชุบเลี้ยง                 เติบโต
ฤาลูกแทนปุญโญ                      หมดได้
กรรมดีทั่วหล้าโล                       กานั่น  แทนฤา 
คุณแม่ยิ่งโลกไซร้                      ลูกซร้องสรรเสริญ


ขอสุขสันต์วันเกิดเถิดแม่จ๋า
วันสิบห้าตุลาลูกจำได้
ขอสุขภาพธนาพลานมัย
ขอแม่สุขเย็นใจทุกๆวัน
 
				
13 ตุลาคม 2551 11:48 น.

จำปา มาลาใจ

เฮาชาวดอย


    จำปา  มาลาใจ

    ดอกจำปาหอมหวนชวนหลงใหล
ประทับใจไม่รู้สิ้นทั้งกลิ่นสี
สองสวรรค์จรรโลงโขงนที
เชื่อมน้องพี่ไทยลาวเจ้ามาลา

   คือดอกไม้แดนดงพงไพรพฤกษ์
ดอกสำนึกเตือนเรียมรักตระหนักค่า
ให้ภูมิใจในคำดวงจำปา
ฟังทุกคราคิดทุกครั้งยังเตือนใจ

   เป็นดอกไม้ในป่าค่าน้อยนิด
แต่ดอกไม้ก็วิจิตรทุกสมัย
ครั้นอยู่ดินงามดินทุกถิ่นไป
ครั้นบานไหวหทัยชื่นรื่นอุรา

   เหมือนดอกไม้ดอกนี้อ่อนต่อโลก
แต่ก็โชกเลือดนักสู้อย่างผู้กล้า
ถ้าจะบอกดอกไม้ไร้ราคา
ก็เป็นสิ่งบูชามาช้านาน

   หรือดอกไม้มีไว้ให้เด็ดเล่น
เหมือนดังเป็นดอกริมทางคนย่างผ่าน
แต่เจ้าคือดอกไม้แห่งสายธาร
เพื่อเบ่งบานลูกข้าวเหนียวเก็บเกี่ยวชัย

    ใช่ดอกฟ้างามอยู่คู่กับฟ้า
แต่เจ้าคือเพื่อนน้ำตาคราร่ำไห้
ณ วันหนึ่งซึ่งเมื่อไม่เหลืออะไร
แต่ยังเหลือหัวใจให้จำปา

    สู้เถิดเพื่อนจำปาข้าร่วมสู้
เจ้าต้องอยู่คู่แผ่นดินคู่ถิ่นหล้า
หอมเย็นเย็นของเจ้าเคล้าน้ำตา
คือความกล้าความแกร่งแรงพลัง

  ความแกร่งกล้าเช่นนทีดอกสีขาว
มิใช่ดาวโดดเด่นเป็นความหวัง
คือดอกดินอยู่ดินแผ่นดินยัง
อาบเลือดกรังแห่งนักสู้คู่เมืองลาว

				
12 ตุลาคม 2551 03:51 น.

สงสารสีกากีที่คนย่ำ

เฮาชาวดอย

สงสารสีกากีที่คนย่ำ




  โอ้อกเอ๋ยอกสีกากีเอ๋ย
อุตส่าห์เคยกรำงานมานานหนัก
อุทิศตนเสียสละสวามิภักดิ์
อีกจงรักจักรีวงศ์ผู้ทรงธรรม์

   เพียงทำตามหน้าที่มีปัญหา
ครั้งถูกฆ่าถูกประณามยามคับขัน
คนที่จุดฉนวนไฟคือใครกัน
ใครเล่ามันพาไทยต้องไปตาย

    ประเทศนี้มีใครเล่าเป็นเจ้าของ
ทุกคนต้องกระทำตามกฎหมาย
ธิปไตยใดเล่าก็เปล่าดาย
หรือเพียงควายเขาสนให้ชนกัน

   ใครประณามยามตำรวจถูกขวดฟาด
ตำรวจตายอนาจขาดแพทย์ศัลย์
มีไว้อ่านเอาหน้าหรือจรรยาบรรณ
ความสำคัญหมอคงไม่ได้อ่านดู

   จักกู้ชาติด้วยเลือดที่เชือดฆ่า
หรือเพียงมาหนีคดีที่ต้องสู้
นี่หรือคือผู้ประเสริฐน่าเชิดชู
เป็นคำขู่พาทีนี่หรือคน

   เขาสร้างความวุ่นวายภายในชาติ
พูดฉะฉาดกลอกกลับให้สับสน
ใครมันคือมารร้ายทำลายชน
เราทุกผู้ก็เปี่ยมล้นล้วนปัญญา

   เป็นแฟร์ชั่นทันสมัยใครกู้ชาติ
อ้างอำนาจอธิปไตยไม่มีปัญหา
ใช้อำนาจกฎหมายอย่างทายท้า
ไร้คุณค่าซึ่งกฎที่จดจาร

  เคยเป็นสีกากีวีรบุรุษ
เคยเป็นชุดพร้อมพลีที่ห้าวหาญ
เป็นชุดที่เลิศล้ำในตำนาน
ประชาชนกล่าวขานด้วยศรัทธา

   เมื่อถึงกาลทุรยุครับทุกข์ทั่ว
ถูกประณามว่าชั่วเหมือนตัวหมา
เขาไม่ซึ้งถึงจิตอุทิศพา
เขาไม่ซึ้งคุณค่าที่เคยทำ



    ข้าพเจ้านายฉัตรสุมาลย์     ภูแต้มนิล  
                                   ประพันธ์
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเฮาชาวดอย