11 ตุลาคม 2551 05:53 น.
เฮาชาวดอย
ปณิธานของแม่
อิสรเสรีที่แม่ฝัน
คือสมบัติลูกอัน อนันต์ค่า
เจ้าจงเสียสละตนเพื่อผลประชา
เพื่อเพื่อนนักสู้ผู้กล้าที่ลาไกล
แม้วันนี้ไร้นักสู้ผู้แม่แล้ว
ทุกคำสอนยังแว่วยินหาสิ้นไม่
คำสอนแม่สอนสั่งยังนำใจ
มิสิ้นไปลูกนั้นขอวันทา
แม่สอนลูกเสียสละประโยชน์ตน
เจ้าต้องทนสู้งานอย่างหาญกล้า
แม้เจ้าอาจพลาดพลั้งหลั่งน้ำตา
ขอเจ้าจงหลั่งมาเพื่อหญ้างาม
แม่ใฝ่หาเสรีทั้งชีวิต
แม่อุทิศชีวันมิครั่นขาม
สู้เพื่อเพื่อนร่วมประเทศร่วมเขตคาม
จงก้าวตามสมบัติแม่มีแค่นี้
เลือดเนื้อแม่ให้เจ้าเอาไว้สู้
อัปยศอดสูกู้ศักดิ์ศรี
เจ้าต้องกล้าฝักใฝ่ในเสรี
เพราะจักมีวันหน้าฟ้าต่างกัน
ลูกตอบแทนพระคุณแม่แล้วแค่นี้
เพียงถักทอเสรีที่แม่ฝัน
หากแม้นลูกกลัวตายวายชีวัน
เมื่อกระนั้นลูกจะเนรคุณ
แม่สั่งสอนและปลูกลูกให้สู้
แม่ยังอยู่ทุกเมื่อและเกื้อหนุน
ในแสงแดดวันใหม่ละไมละมุน
คืออ้อมกอด ณ ไออุ่นละมุนไม
วันนี้แม่จำลาอาทรห่วง
ใบไม้เหลืองย่อมร่วงฤดูใหม่
ทั้งสองตาพร่าขาวแต่ยาวไกล
จักมองดูหนูเติบใหญ่พร้อมชัยชนะ
ฉัตรสุมาลย์ ภูแต้มนิล ประพันธ์
8 ตุลาคม 2551 23:28 น.
เฮาชาวดอย
เสียงปลุกจากปากปืนให้ตื่นสู้
คำรามขู่รู้ซึ้งถึงความหมาย
เธอผู้มีชีวิตเล่าไม่เปล่าดาย
แม้เธอตายแต่เธอตื่นยืนทะนง
เลือดนักสู้ผู้นี้สมสีเลือด
จักไม่เหือดเดือดกล้าและสูงส่ง
เลือดสีนี้หลั่งใว้เพื่อไตรรงค์
และจักทรงความดีไว้นิรันดร์
ขอใบไม้ใบนี้ที่ร่วงหล่น
จงอุบัติ ณ บนสรวงสวรรค์
ร่วงหนึ่งใบจงกำเนิดเกิดร้อยพัน
อีกเท่าทันทบเท่าขึ้นมาแทน
ร่วงหนึ่งใบวันนี้พลีอุทิศ
เพื่อชีวิตที่จะตื่นอีกหมื่นแสน
เพื่อแผ่นดินเพื่อนามสยามแดน
เพื่อผู้คนหวงแหนรักแผ่นดิน
จงหลับตากล้าแกร่งเอาแรงเถิด
หมื่นต้นกล้าจักเกิดมิรู้สิ้น
จักแทนคุณแทนค่าแก่ธานินทร์
ที่เราได้อยู่กินบนถิ่นไทย
หนึ่งคนจำอำลา ณ ครานี้
เพื่อสร้างหมื่นและจักมีชีวิตใหม่
เส้นทางปืนแต่ละก้าวแม้ยาวไกล
จงสู้ไปชัยชนะจะต้วงพบ
8 ตุลาคม 2551 17:37 น.
เฮาชาวดอย
ยังทอแสงริบรี่ ณ ที่เก่า
พอแสงเงาลางๆอยู่บางแห่ง
หวังวันหนึ่งว่าสีที่กล่ำแดง
จักโชนแสงสัจธรรมฉายนำพา
ข้างกองไฟกองเก่าผู้เฒ่าก่อ
สว่างพอเห็นทางอยู่ข้างหน้า
ยังเห็นความก้าวไกลในแววตา
มีความกล้าเยือกเย็นเช่นนที
เจ้าจักหาอะไรในผู้แพ้
ข้าก็แค่เชลยเคยหลบหนี
ข้าเคยสู้เคยแพ้ก็แค่นี้
แต่ข้ามีฟ้ารุ่งเมื่อพรุ่งวัน
เราต่อสู้เพื่อตายสหายเอ๋ย
ซากศพเกยวิปโยคความโศกศัลย์
ใบไม้ร่วงฤดูหนาวเมื่อคราวนั้น
เพื่อแตกใบยามคิมหันต์อันอำไพ
คืนนี้แสนเหน็บหนาวดาวยังสั่น
หนาวกายนั้นแม้เหน็บหาเจ็บไม่
แต่ศักดิ์ศรีผู้จำนนนี้จนใจ
เจ็บปวดใดไหนเล่าจะเท่านี้
ทนอ่อนแอทำไมให้เขาย่ำ
ใต้ตีนต่ำ ฤ ยอมเล่าเขากดขี่
จักรอวันแสงทองส่องปฐพี
รอเป็นผีอย่างนั้น ฤ ฉันใด
แล้วสายลมเยือกเย็นก็เผ่นพัด
ไฟแดงจัดสุมพลังความหวังใหม่
แตกประกายย้อมป่าด้วยห่าไฟ
หนาวก็คลายหายไปในบัดดล
จากริบหรี่ขี้เถ้าไร้เงาแสง
ก็ฝังแฝงแกร่งกร้าวพราวอีกหน
แต่หัวใจชาวนาผู้ทุกข์ทน
จักยินยอมจำนนก็จนใจ
ชื่อมนุษย์ต้องรักในศักดิ์ศรี
และต้องมีรุ่งวันที่ฝันใฝ่
อย่าจมปรักดักดานนานเกินไป
เฮือกหายใจสู้เถิดเกิดเป็นคน
8 ตุลาคม 2551 11:07 น.
เฮาชาวดอย
ปณิธาน พ.ค.ท.(ภูพาน)
เฮาสู้เพื่ออีศาณ
และภูพานจักยิ่งใหญ่
เกียรติก้องต้องเกรียงไกร
จักไม่สิ้นเสียงพิณแคน
ชัยชนะเฮากอปรกู้
และจักชูชัยสองแขน
ผู้ทุจและผู้แทน
ที่กดขี่บีฑาเฮา
วันนี้กลุ่มดาวโจร
มันฉายโชนซึ่งแสงเงา
วันนี้ความขลาดเขลา
ยังเด่นชัดเหนือสัจธรรม
ใต้ตีนอเมริกา
ทนเป็นข้าทาสชั้นต่ำ
มีหัวให้เขาย่ำ
เขาเหยียดหยามสยามเมือง
คนจนไร้สิทธิ์เลือก
เสียงจักเสือกก็เปล่าเปลือง
เสรีอันฝันเฟื่อง
อธิปไตยที่ใครกัน
ขุนเขาแห่งภูพาน
สร้างตำนานไว้นิรันดร์
พ.ค.ท.รอสักวัน
ลูกอีศาณจักหาญชัย
สืบทอดเจตนา
และน้ำตาทุกหยดไหล
จารึก ณ แดนไทย
จักต้องแทนคุณแผ่นดิน
เลือดหยาดลงหนึ่งหยด
ลามหลั่งรดธรณิน
จักปานสมุทรสินธุ์
เลือดชาวนาท่วมป่ากรุง
โคตรเหง้าเฮาฝากไว้
เฮาเชื้อไขจักผดุง
เสรีเราต้องปรุง
ด้วยสีเลือดจึงหอมหวล
ต้นหญ้าแห่งผืนป่า
อหังการ์ท้าลมทวน
น้องพี่อีศาณล้วน
เจ้าจงกล้าลืมตาดู
วีรกรรมยิ่งใหญ่นัก
เป็นศักดิ์ศรีที่กอปรกู้
อีศาณจักคงอยู่
ด้วยพวกเราเยาวชน
7 ตุลาคม 2551 06:09 น.
เฮาชาวดอย
เป็นคนดีที่ผ้าเหลืองเรืองอร่าม
หรืองดงามเครื่องทรงน่าหลงใหล
หรือว่าเป็นคนดีอยู่ที่ใจ
ทั้งขอทานทาสไพร่ใครอาจมี
ใช่เกิดมาแบ่งชั้นหรือวรรณะ
ทุกคนจะเกิดตายวายเป็นผี
สุดว่าใครใฝ่ทำซึ่งกรรมดี
และโอกาสพอที่เอื้ออำนวย
ใช่รูปร่างหน้าตามากำหนด
บ้างอาจหมดความดีมีแต่สวย
อาจมีทรัพย์สุขกรรมเอื้อร่ำรวย
อาจใจต่ำไม่ช่วยเหลือเกื้อคนจน
คนเหมือนกันต่างกันฉะนั้นหรือ
ใช่ใครคือทวยเทพเสพเวหน
ไม่มีใครผ่องเพริศเลิศเกินคน
ย่อมมลายปี้ป่นลงบนดิน
เพียงหัวโขนยกยอตั้งปอปั้น
ไม่อาจแบ่งชนชั้นหรือทรัพย์สิน
มันผู้ใดใต้ฟ้าบนธานินทร์
มันผู้นั้นทั้งสิ้นเสมอกัน
เพียงโอกาสที่เกื้อและเอื้อให้
เพียงทาสไพร่อาจสุขศานติวิมานสวรรค์
ชนชั้นสูงว่าสูงด้วยชนชั้น
อาจตกจากสวรรค์สู่อเวจี
บนฟากฟ้ามีแสงดาวพราวน้อยใหญ่
บ้างก็เด่นอำไพด้วยแสงสี
แต่ทุกดวงอันอำไพในราตรี
ทุกดวงล้วนแม้ต่างสีมีชื่อดาว