22 เมษายน 2551 20:34 น.
เฮาชาวดอย
หวลหาพาใจไหวระลึก
นิ่งนึกคำนึงคำก็ล้ำค่า
ด้วยรักหนักจิตคิดระอา
สานตาทอดไปให้อาย
ลมพัดหมอกทอดทาทาบ
ชโลมอาบอบผมลมสยาย
ตาใจให้รักจะทักทาย
สานสายตาสยพบพาน
ฝากรักลมเลื่อนเตือนจิต
ขออุทิศความรักสมัครสมาน
เจ้าเป็นแก้วระฆังกังสดาล
ขอเป็นคานชูระฆังให้ดังไกล
ยามล้ามานักพักเถิด
ฟ้ากว้างบรรเจิดเปิดใส
อาทิตย์แสงทองยองใย
สองใจลู่ลมชมนภา
หนาวเหน็บเจ็บหนาวมาคราวเนิ่น
ย่ำเดินลิ่มหนามตามป่า
หากท้อเพื่อพักสักครา
ให้ซบหน้าคราเมียงมอง
แก้วเอยว่าแก้วเพชร
เกลือทุกเม็ดจะเค็มยิ่งสิ่งทั้งผอง
ทอไอฟ้าทิพย์ฟ้ามาดิ้นทอง
ซับน้ำนองสองตาคราเจ้าตรม
21 เมษายน 2551 12:22 น.
เฮาชาวดอย
ร่างสวยสวยน่ามองดั่งทองทาบ
ชโลมอาบเสื้อขาวผ่องไม่หมองสี
กระโปรงดำนำใจให้ทำดี
ดั่งประทีปฉายสีที่ฉาบวัน
แลนิสิตนักศึกษาปัญญาชาติ
แต่แต่งให้ขาดความสร้างสรรค์
ใส่เสื้อผ้าแบบใหม่นี่ใครกัน
ตำราเรียนปัจจุบันหรือฉันใด
วัฒนธรรมของไทยไทยควรคู่
เพื่อคงอยู่คู่สตรีนี้ผ่องใส
คงสตรีนี้อยู่คู่ไทยไทย
ให้ฉาบวัยเชื่อมวันสานวันวาน
18 เมษายน 2551 13:09 น.
เฮาชาวดอย
พริ้วใบไผ่ไหวสบัดลมพัดผ่าน
เยือนตำนานสถานรัตน์ปรางพลัดถิ่น
เม็ดหมากก่อเม็ดน้อยคอยกลางดิน
คอยข่าวยินปุยฟ้าลงมาเยือน
เคยคว้างเคว้งเว้งว้างต่างดินฟ้า
แลจันทราดาราใดก็ไม่เหมือน
ฟ้าบ้านเราดาวเด่นกลับเห็นเลือน
ได้แต่เตือนจิตเราเพียงเท่านั้น
ภาพไอหมอกหยอกเย้ากับเขาหิน
หวิวหวีดยินยลมาปานข้าฝัน
ดอยยอดโค้งโก่งคอดเอื้อมกอดจันทร์
รับตะวันรุ่งระวีรอสีทอง
เคยฉ่ำชื่นสายหมอกพัดดอกหญ้า
หยาดจากฟ้ามาดอยดั่งพลอยผ่อง
สายหมอกพริ้วพรายระยับจับยอดตอง
ปานจะล่องร่อนฟ้ามาเยือนดอย
เคยกล้วยไม้ชูสายสยายช่อ
ตรงคบก่อรอใครเล่าก็เหงาหงอย
นกแลร้องทักดังว่ายังคอย
สรรพสัตว์น้อยน้อยยังคอยรอ
กระพริบตาตื่นตาจากฝ้าฝัน
จากเวิ้งสวรรค์สรรหามาฝันหนอ
สานสายตาตื่นตามาถักทอ
ความจริงคือฝันฝ่อรอคอย
10 เมษายน 2551 05:38 น.
เฮาชาวดอย
ชนชั้นสูงวรรณะสาระรูป
เสียเทียนธูปเสียทรัพย์ที่นับถือ
มารยาทวิจารณ์คึกดูกึกกือ
ผู้ใหญ่คือผู้สรรค์สร้างทางโกงกิน
หาหนทางโกยสุขอยู่ทุกผู้
มีความรู้ประดับไว้ใช่ก้อนหิน
น้ำตาใครเอ่อซ้ำลงพรำดิน
ปานจะสิ้นขาดใจใครดูแล
ความเป็นคนค้นดูความรู้หรือ
ถ้ายึดถือมายามาแสร้งแส
ยึดตำรับศัพท์ตำรามาแปลงแปร
เพียงหว่านแหเดาไปไร้ความจริง
ความเป็นคนควรประดิษฐ์สิทธิ์เทียมเท่า
ต้องไม่มีเขาเราหรือชายหญิง
ปัญหาไร้สัญชาติควรประวิง
ใช่แน่นิ่งดั่งสิ้นในวิญญาณ
ท่านคือผู้แทนราษฎร์อำนาจใหญ่
โปรดอย่าได้ลืมตีนลืมถิ่นฐาน
ชาวนาคือผู้ยิ่งใหญ่ใช่ตำนาน
ผู้คนคือกฎการที่ตายตัว
การเปิดบ่อนบ่อนเบี้ยให้เสียชาติ
กลืนอำนาจชาวนาฝืดมืดสลัว
อีกจักเกิดโสเภณีที่ขายตัว
เจ้าหน้าที่หดหัวอยู่ภายใน
ฐานะที่ข้าน้อยผู้ต้อยต่ำ
เป็นที่ย่ำเหยียบสิ้นตฤณวิสัย
ข้ามิเจ็บแปลบปวดรวดอันใด
แต่เจ็บใจแทนเจ้าเท่านั้น
ต้นกล้าเบี้ยแห่งหญ้าจะปรากฏ
หญ้าแห่งความงามงดจักพลิกผัน
หญ้าต้นเก่าเหง้างามยามฉาบวัน
จักชูชันรายล้อมหญ้าคอมมิวนิสต์
9 เมษายน 2551 12:16 น.
เฮาชาวดอย
คนบนดอยคอยรออย่างท้อแท้
เฝ้าชะแง้แลเหลียวเปลี่ยวใจหา
น้ำตารินร่วงหล่นท้นอุรา
หยาดหยดมาแดนดินถิ่นดงดอย
คนใต้หอบหัวใจดอยไปสิ้น
น้ำตารินหลั่งรอท้อเหงาหงอย
ทั้งคืนค่ำย่ำรุ่งมุ่งแต่คอย
หัวใจดวงน้อยน้อยเจียนแหลกราน
วอนสูรย์จันทร์ฟากฟ้าพานำข่าว
กระซิบเพียงแผ่วเบาแล้วเล่าขาน
ว่าสาวดอยคอยรอทรมาน
ให้อดีตวันวานหวานมาคืน
คนบนดอยคอยรอพ้อไร้หวัง
หากคนใต้ชิงชังจงอย่าฝืน
เจ็บปวดช้ำสุดระกำกล้ำกลืน
ยังยั้งยืนยืนคอยบนดอยลาน