2 มิถุนายน 2551 18:09 น.
เฮาชาวดอย
จุดซ่อนเร้น
ฉันมองเห็นการเข่นฆ่าสารพัด
ภาพของสัตว์ถูกมัดขาเลือดถาไหล
กับเสียงก้องกัมปนาทก่อนบรรลัย
แล้วเลือดเริ่มจางใสก่อนสิ้นลม
ตะวันเริ่มเรืองรับกับวันใหม่
กับคำลาอาลัยอันขื่นขม
โลกหมุนเปลี่ยนเวียนไปด้วยโลกกลม
แต่รับชมแต่ละศพลงทบดิน
รติกาลหวานไหวใครอาจฝัน
สรวงสวรรค์แสงสายนิยายศิลป์
หรือวันชื่นคืนวันอันสมจินต์
และการรอจะสิ้นใจในราตรี
ผูกขาไขว้ขัดล้มแล้วค้อนฟาด
แล้วควงมีดแหลมวาดลงฉาดสี
เลือดกระเซ็นเอ็นกระตุกเปรอะคลุกคลี
กับรอยยิ้มอิ่มพีของผู้คน
แต่ละครั้งแต่ละคราพื้นทาเลือด
แต่ละเชือดเลือดพร่านกระเสือกกระสน
ปวงทวยเทพสังเวยจากปวงชน
เสพกุศลบูญญาสัตว์ทารุณ
เป็นเครื่องเซ่นสังเวยเกยเรียงหัว
โดยเทพชั่วสังเวยเซ่นเป็นจอมขุน
กระนั้นคนว่าได้พึ่งใบบุญ
พึ่งอะไรในคุณเครื่องสังเวย
จากมุมหนึ่งกึงก้องห้องฆ่าสัตว์
และพิธีพีรพัฒน์จากสรวงเหวย
เปิดหลังม่านทั้งหลายให้โลกเชย
แม้คนเคยรับรู้อยู่ก็ตาม
มารับรู้ในสิ่งความจริงบ้าง
โลกยังกว้างกว่าฝันอันหวานหวาม
โลกใช่หยุดอยู่ที่มีความงาม
ใช่เพียงถามรักไหมฉันรักเธอ
24 พฤษภาคม 2551 23:20 น.
เฮาชาวดอย
อิทิสังฉันท์ ๒๐ (โองการบูชาครู)
โอมนมัสพนมกร์ยกชุลี จะไหว้พระครูวิชากวี
นมัสการ
โดยอนึ่งพระครูพระโคลงสิสาน สิสร้างสิสรรค์สิทาน
วิบทวัฒน์
ครูกวีนที่จะกล่าวนมัส กำเนิดคำกลอนไสวสวัสดิ์
บุชาครา
ครูกะรายยะพัฒน์อุบัติเพราะผ่าน สมัยกาพย์กวีสิปาน
ประดิษฐ์แปลง
ครูคำร่ายนมัสการแสดง สุภาพคำหลวงบุราณแสลง
ละก่อนมา
ผืนนราสุธานมัสมหา สมุทรสิงคริงนครา
นมัสการ
22 พฤษภาคม 2551 21:34 น.
เฮาชาวดอย
กาลผ่านอาทิตย์โพ้น พาไป
ดาวดื่นดึกไผล พุ่งหล้า
ดินทึบที่ถมไป เปลี่ยนเปล่า
อัศนีย์พลจันทร์เจิดจ้า กว่าจันทร์
ดึกดื่นยิ่งเด่นด้าว ดาวดวง
แคบยิ่งดังสู่สรวง สร่างแพร้ว
ยิ่งรกยิ่งซ่อนพวง เพชรประดับ
ยิ่งทรามยิ่งผุดแก้ว โกญจนา
อุบัติมาเพื่อสู้ ทรามสมัย
เพื่อเอกราชแห่งชาติไทย เที่ยงแท้
เพื่ออีศานย่อมชิงชัย โชติช่วง
ย้ำเพื่อยุติธรรมไม่แพ้ พ่ายทวา
มาลัยแดงแต่งร้อย เรียงถวาย
ธงผ้าแดงองอ่าราย ระบัดแพร้ว
รอยเลือดใช่เหือดหาย หากกระหวัด
โขงนทีถวายแก้ว อัศนีย์
22 พฤษภาคม 2551 05:31 น.
เฮาชาวดอย
มหันตภัยบุหรี่
สุขเสพสู่สร่างโอ้ อาทวา
บ่นานฮวบลงดื่นดา ด่าวด้น
จริงอยู่คนจักมรณา หมดแน่
แต่ดีแต่ชั่วสิ้น บ่สูญ
กองกูลก้นบุหรีแท้ เทียมดวง จันทร์แฮ
เยาวชนเห็นภาพลวง หลอกได้
บุหรี่ปัญหาหน่วง หนักอยู่
ควันคลุ้งคราคร่าให้ โหยหวน
สุดทวนหวนป่วนแปล้ เสียปอด
กองศพยังตลอด ตลบคลุ้ง
ยังตัวอย่างอยู่ทอด เทวศทัศน์
หยัดอรุณรุ่งรุ้ง สวยงาม
21 พฤษภาคม 2551 11:43 น.
เฮาชาวดอย
รัฐบุรุษอาวุโส.ปรีดี พนมยงค์
จากแล้งที่เร่งร้อน ราวไฟ
เดือนหกดับร้อนไป เปลี่ยนฟ้า
วานปีดั่งกาลสมัย แปลงเปลี่ยน
ปรีดี พนมยงค์หยัดกล้า เปลี่ยนกาล
คือข้าวกลางหมู่หญ้า หยัดยืน
ทานกระแสแผ่ฝืน ฝากหล้า
อำนาจย่อมชนคืน ครองชอบ
ครองสิทธิ์ครองชีพกล้า ยืนกราน
หอมคำกรำศิลป์ถ้อย แต่งถวาย
ดอกข้าวราวทองราย รุ่งพื้น
หอมพะยอมบ่ยังหาย ห่างถิ่น
กลองชัยรังเร่งครื้น คราหอม